ศึก “ข้าวพื้นนุ่ม” กับ “ข้าวหอมมะลิ” เป็นมหากาพย์ดราม่าซีรีย์จบไม่ลงแล้ว วันนี้ สมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย กลับมาแฉต่อเนื่อง ทำไมโรงสีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) กีดกันข้าวพื้นนุ่ม ทำไมต้องกีดกัน ต้องมาฟังความจริง
นายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ภาพรวมโรงสีภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ประกอบการข้าวถุง ซึ่งจะบรรจุถุงขายข้าวหอมมะลิ จากการที่ไทยได้มีการรณรงค์ปลูกข้าวพื้นนุ่มมาประมาณ 2-3 ปี จึงทำให้เกษตรกรชาวนาส่วนใหญ่เริ่มจะหันไปเปลี่ยนมาปลูกข้าวพื้นนุ่มมากขึ้นซึ่งได้ราคากว่าข้าวเปลือกเจ้า หรือข้าวชนิดแข็ง ขณะที่ข้าวหอมมะลิ ก็ปลูกได้ครั้งเดียวต่อปี จึงเป็นที่มาของชาวนาในภาคอีสาน ไม่ต่างจากชาวนาภาคกลางที่จะต้องดิ้นรนปลูกข้าวพันธุ์อื่นในแปลงเดียวกัน
“ผมในฐานะนายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เราคำนึงถึงรายได้ของชาวนาของเรา วันนี้ต้องขอบคุณ กรมการข้าว บุคลากรนักวิจัยพัฒนาพันธ์ุข้าว มีพันธุ์ข้าวที่หลากหลาย ให้ชาวนา ชาวนาต้องการพันธุ์ข้าวที่ตอบโจทย์ ในเรื่อง ต้นเตี้ย ผลผลิตที่สูง อายุในการเพาะปลูกถึงระยะสั้น ตอบโจทย์ตลาดผู้บริโภคในประเทศและให้ผู้ส่งออกส่งต่างประเทศได้มีข้าวหลายชนิดข้าว สมาคมผู้ส่งออก เคยบอกว่าเราเสียตลาด ให้กับคู่แข่งเฉพาะประเทศเวียดนาม ได้มีการพัฒนา พันธุ์ข้าวนุ่ม เข้าไปแย่งตลาดข้าวของไทย ไปเป็นจำนวนมาก ทำให้เราส่งออกน้อยลง และถ้าส่งออกน้อยลง จะทำให้มีผลกระทบต่อชาวนา”
เมื่อเราปลูกข้าวหอมพวง หรือที่รู้จักกันในหมู่ชาวนา เรียกกันติดปากว่า ข้าวหอมเวียดนาม มีผลผลิตดี อายุสั้น เป็นข้าวนุ่ม แต่กรมการข้าวไม่รับรองพันธุ์ก็ส่งออกไม่ได้ ใช้กินในประเทศอย่างเดียวก็กินไม่หมด แล้วก็ล้นตลาดส่งออกก็ไม่ได้ เราอยากจะได้พันธ์ุข้าวที่กรมการข้าวรับรองพันธุ์ ที่ตอบโจทย์แบบข้าวหอมพวง ที่เป็นพันธุ์ข้าวของกรมการข้าว คือ กข.79 และกข.87 ที่เราปลูกและกำลังจะปลูกมากขึ้น แต่ติดที่อายุการเพาะปลูกมันยาวเกินไป คืออายุ 130-140 วัน เราต้องการ ให้ข้าวกข.79 และข้าวกข.87 อายุไม่เกิน100-110วัน กรมการข้าวต้องช่วยพัฒนาให้ได้โดยเร็ว ในส่วนของข้าวพื้นแข็งก็เหมือนกัน ต้องต้นเตี้ย อายุสั้น ผลผลิตดี ชาวนาจะได้สามารถเลือกใช้ให้เหมาะสมตามพื้นที่และตามความต้องการของตลาด ชาวนาปลูกข้าวหอมพวงก็โดนว่า ปลูกข้าวนุ่มก็โดนกีดกัน อะไรกันนักหนา ผมไม่เข้าใจ สมาคมโรงสีข้าวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ออกมาให้ข่าวต่อต้านไม่หยุด ชาวนาปลูกข้าวพื้นนุ่ม กลัวจะปน ข้าวหอมมะลิ ถ้าคนมันนิสัยไม่ดี ไม่ว่าอะไรมันก็ปน อย่ามาโทษข้าว โทษชาวนา
นายปราโมทย์ กล่าวว่า ถ้าชาวนามีทางเลือก ปลูกข้าวนุ่มที่มีผลผลิตที่ดีกว่าข้าวหอมมะลิ และต้นทุนต่ำมีเงินเหลือ มากกว่า ถามหน่อยถ้าคุณเป็นชาวนา คุณจะเลือกปลูกอะไร ถ้ามีโอกาสที่จะเลือก ตกลงคุณห่วงผลประโยชน์ของคนบางกลุ่มหรือห่วงข้าวหอมมะลิของชาวนาที่ทำให้คนบางคนร่ำรวยกันแน่ แต่ในความเป็นจริงชาวนาเป็นไง อีสานมีพื้นที่สามารถปลูกข้าวนาปรังได้หรือทำนาได้ปีละสองครั้งหรือ หากเข้าต้องได้รับพันธุ์ข้าวที่ดี ผลผลิตสูง ทำให้ต้นทุนต่ำมีรายได้มากขึ้น มีข้าวให้ท่านสีตลอดท่านไม่ชอบหรือ น่าจะดีกับท่าน ดีกับชาวนา อย่ามาอ้างว่าจะปนโน้น ปนนี่ โรงสีดูข้าวไม่เป็นหรือ ผมเห็นจังหวัดอื่นชาวนาปลูกข้าวได้ตั้งหลายชนิด ไม่เห็นมีปัญหาก็ซื้อขายกันได้
ถ้าปลูกข้าวหอมมะลิดีผลผลิตดี ชาวนามีเงินมากกว่าปลูกข้าวอื่น ชาวนาเขาก็ไม่ไปลูกข้าวอื่น ก็เหมือนโรงสีนั้นแหละ คุณทำไมไม่ไปห้ามประเทศเมียนมา กัมพูชา เวียดนาม ปลูกข้าวนุ่มละ ไปบอกเขาเลยอย่าปลูก อย่าขาย เพราะทำให้ข้าว เราขายไม่ได้ สู้ราคาไม่ได้ ขายได้น้อยลง น่าจะดีกว่ามาห้ามชาวนาผม ผมไม่ยอมแน่ อย่างไรก็ดีจากการที่ออกมาต่อต้านนั้นก็เพราะสาเหตุจริง ก็มาจาก "ข้าวพื้นนุ่ม" ตีตลาด "ข้าวหอมมะลิ" ทำให้โรงสีขายข้าวไม่ออก ราคาตกต่ำลง ตอนนี้กอดสต็อกข้าวราคาสูงไว้มาก สาเหตุที่ข้าวพื้นนุ่มขายดีเพราะคนไทยฐานะจนลง ก็จะหันไปเลือกข้าวบริโภคราคาถูกลง เป็นธรรมดาตามกลไกตลาด
ข่าวที่เกี่ยวข้อง