นายวิบูลย์ กรมดิษฐ์ กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ อมตะ (AMATA) เปิดเผยว่า บริษัท โซเด็กซ์โซ่ อมตะ เซอร์วิสเซส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ บริษัท อมตะ ฟาซิลิตี้ เซอร์วิส จำกัด ได้ร่วมทุนกับ โซเด็กซ์โซ่ ประเทศไทย ในสัดส่วน 40 : 60 จะดำเนินการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการด้านต่างๆให้ทันสมัยมากขึ้น
ทั้งนี้ ล่าสุดได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีที่เรียกว่า Amata Command Center (ACC) เพื่อการให้บริการที่มากขึ้น รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยอื่นๆ เพิ่มเติม ที่เชื่อมต่อไปยัง ACC เช่น ระบบเตือนอัคคีไฟ (Fire Alarm Monitoring) ซึ่งมีทีมรักษาความปลอดภัยเตรียมพร้อมตอบรับต่อสัญญาณเตือน และมีการเชื่อมต่อระบบ AED Monitoring ภายในอมตะซิตี้ให้ครอบคลุมมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการนำระบบพลังงานแสงอาทิตย์โดยทางโซเด็กซ์โซ่หุ้นส่วนผู้เชี่ยวชาญมาใช้เพื่อส่งเสริมเรื่องความยั่งยืนและการใช้ทรัพยกรอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
สำหรับแผนในระยะ 5 ปี (2564-2568) ข้างหน้านั้น จะทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น 10 เท่าตัว โดยมุ่งหาลูกค้าในนิคมฯอื่นด้วย ตั้งเป้ามีรายได้ 1.5 พันล้านบาทภายในระยะเวลาดังกล่าว และมีจำนวนลูกค้าไม่ต่ำกว่า 750 โรงงาน จากปัจจุบันที่มีอยู่ 117 โรงงาน นอกจากนี้ล่าสุดได้ให้บริการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป โดยลูกค้าไม่ต้องลงทุน มีลูกค้าแล้ว 2 – 3 ราย โดยให้ประกันค่าไฟฟ้าถูกลง 40 – 50% โดยต้องทำสัญญา 15 – 20 ปี
“บริษัท โซเด็กซ์โซ่ อมตะฯ ให้บริการบริหารจัดการอาคาร บริการดูแลและซ่อมบำรุง บริการด้านการรักษาความปลอดภัย บริการงานทำความสะอาด แก่ โรงงาน ในกลุ่มอมตะ ร่วมทุนมานาน 5 ปี มีรายได้ปี’63 อยู่ที่ 165 ล้านบาท และมีพนักงานให้บริการมากกว่า 600 คน”
นายวิบูลย์ กล่าวต่อไปอีกว่า ภายใต้ บริษัท โซเด็กซ์โซ่ อมตะฯ นั้น ตลอดระยะเวลา 5 ปี เห็นได้ชัดเจนว่ามีการเติบโตทางธุรกิจที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสามารถตอบโจทย์การให้บริการในแบบ One Stop Service ที่ทางอมตะตั้งเป้าหมายไว้ได้เป็นอย่างดี ซึ่งอมตะเองไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้พัฒนาที่ดินและมองหาทำเลที่ดีสำหรับการธุรกิจเท่านั้น แต่ยังดูแลผู้ประกอบการในงานบริการงานด้านต่างๆ เช่น การวางแผน การบริหารจัดการ
และการตลาดที่เกี่ยวข้องกับนิคมอุตสาหกรรมที่ครบวงจรให้กับลูกค้าเพิ่มมากขึ้น จากเดิมที่ให้บริการในส่วนของพื้นที่ส่วนกลางในนิคมอุตสาหกรรมเท่านั้น ก็ได้มีการให้บริการในส่วนของ Soft Service และ Facility Management เพิ่มเติมจากความร่วมมือกับทาง โซเด็กซ์โซ่ ประเทศไทย เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ครบจบครบในที่เดียว
“เรามุ่งมั่นที่จะสร้างรูปแบบธุรกิจของ บริษัท โซเด็กซ์โซ่ อมตะฯ ไปยังนิคมอุตสาหกรรมอมตะในประเทศอื่นๆ เช่นเดียวกัน และอมตะจะยังพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อมุ่งสู่การเป็นผู้นำเมืองอัจฉริยะ (Smart City) เพื่อสอดรับกับการพัฒนาที่ไม่หยุดยั้งในยุค 4.0 ให้เป็นเมืองอัจฉริยะและศูนย์การเรียนรู้ในภูมิภาคนี้ รวมทั้งจะเป็นพื้นที่การลงทุนที่สมบูรณ์แบบในระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี)”
นายอาร์โนด์ เบียเลคกิ ประธานบริหาร บริษัท โซเด็กซ์โซ่ ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ด้วยความเชี่ยวชาญด้านการให้บริการแบบครบวงจรของ โซเด็กซ์โซ่ ที่บริษัทแม่อยู่ในฝรั่งเศส ให้บริการครอบคลุมธุรกิจที่หลากหลายใน 64 ประเทศทั่วโลก เมื่อได้มาร่วมมือกับกลุ่ม อมตะ มีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้และได้จัดตั้ง ACC เป็นจุดศูนย์กลางในการบริหารจัดการพื้นที่ภายในนิคมฯ ที่ให้บริการ 24 ชั่วโมง และด้วยจุดเด่นของการให้บริการแบบเบ็ดเสร็จในจุดเดียว ทำให้ลูกค้าลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ทำให้แผนการขยายธุรกิจไปที่นิคมฯต่างๆเป็นไปได้ด้วยดี