“สุริยะ”ชี้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม พ.ย. ฟื้นครั้งแรกรอบ 19 เดือน

29 ธ.ค. 2563 | 04:20 น.
อัปเดตล่าสุด :29 ธ.ค. 2563 | 11:17 น.

“สุริยะ”ชี้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนพฤศจิกายนฟื้นครั้งแรกในรอบ 19 เดือน นับจากเหตุการณ์สงครามการค้าและการระบาดของไวรัส "โควิด- 19"

          นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม (อก.) เปิดเผยถึงดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนพฤศจิกายน 63 ที่จัดทำโดยสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ว่า มีการขยายเพิ่มขึ้น 0.35% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นการขยายตัวครั้งแรกในรอบ 19 เดือนนับจากเหตุการณ์สงครามการค้าและการระบาดของไวรัสโควิด- 19 (Covid-19) สะท้อนให้เห็นว่าสถานการณ์การผลิตภาคอุตสาหกรรมได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการควบคุมการระบาดได้ดีและมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ

โดยเฉพาะการขยายตัวเพิ่มขึ้นในอุตสาหกรรมสำคัญอย่างอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น 10.02% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของ  ปีก่อน โดยการจำหน่ายในประเทศเพิ่มขึ้นครั้งแรกนับตั้งแต่มีการระบาด ในขณะที่การส่งออกหดตัวเล็กน้อย 0.87% นับเป็นการขยายตัวครั้งแรกในรอบ 19 เดือนเช่นกัน

“เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มดีขึ้น มีคำสั่งซื้อสินค้าเพิ่มขึ้นจากการที่หลายประเทศมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และได้รับข่าวดีจากความคืบหน้าของวัคซีนโควิด-19 ทำให้เกิดความเชื่อมั่นในการผลิตและการบริโภค อย่างไรก็ตาม การระบาดรอบใหม่ของการติดเชื้อโควิด-19 ที่เกิดขึ้นต้องควบคุมสถานการณ์ไม่ให้การแผ่ระบาดขยายตัวออกไปเป็นวงกว้าง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและบรรยากาศในการจับจ่ายใช้สอยและการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศให้กลับมาอีกครั้ง”

“สุริยะ”ชี้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม พ.ย. ฟื้นครั้งแรกรอบ 19 เดือน

นายทองชัย ชวลิตพิเชฐ ผู้อำนวยการ สศอ. กล่าวว่า  มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจในประเทศทยอยกลับมาใกล้เคียงกับช่วงก่อนโควิด-19 โดยเฉพาะการท่องเที่ยวในประเทศอันเนื่องมาจากมาตรการของภาครัฐที่กระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ ซึ่งส่งผลในแง่บวกสะท้อนได้จากดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมสำคัญอย่างอุตสาหกรรมการกลั่นน้ำมันปิโตรเลียมที่ขยายตัว 4.95% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เช่นเดียวกันกับอุตสาหกรรมยานยนต์ที่กลับมาขยายตัวเพิ่มขึ้น 10.02% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

สอดคล้องกับอัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนพฤศจิกายนที่ขยายตัวเพิ่มจากระดับ 63.19 ในปีก่อนมาอยู่ที่ระดับ 64.80 ส่งผลให้ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมเดือนพฤศจิกายนกลับมาขยายตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและขยายตัวเพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคมที่ 1.77%

สำหรับอุตสาหกรรมหลักที่มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการในชีวิตวิถีใหม่ อาทิ อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 6% และอุตสาหกรรมถุงมือยางขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 14.71% ในขณะที่อุตสาหกรรมหลัก ๆ ที่เริ่มฟื้นกลับมาขยายตัวอีกครั้ง เช่น อุตสาหกรรมรถยนต์และเครื่องยนต์ ขยายตัวเพิ่มขึ้นตามความต้องการซื้อในประเทศที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้อุตสาหกรรมยางรถยนต์ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมต่อเนื่องกลับมาขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 11.92% โดยอุตสาหกรรมหลักที่ยังคงขยายตัวได้ดีในเดือนพฤศจิกายน ได้แก่
              รถยนต์ และเครื่องยนต์ ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 10.02% เนื่องจากความต้องการซื้อในกลุ่มสินค้ารถปิคอัพและรถยนต์นั่งขนาดเล็กขยายตัวทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมีปัจจัยหลักจากกำลังซื้อในประเทศฟื้นตัวได้ดีขึ้น ตามราคาสินค้าเกษตรที่ปรับตัวสูง และการเตรียมเปิดตัวรถยนต์รุ่นใหม่เพื่อกระตุ้นตลาดในช่วงงาน Motor Expor 2020 (2-13 ธ.ค.63) รวมถึงคำสั่งซื้อของประเทศคู่ค้าต่าง ๆ ที่เริ่มมีมากขึ้น
 

น้ำมันปิโตรเลียม ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.95% เนื่องจากโรงกลั่นและบริษัทหลายแห่งหยุดซ่อมบำรุงใหญ่ในปีก่อน แต่ปีนี้มีการซ่อมบำรุงเพียงบางแห่งและเริ่มกลับมาผลิตตามปกติแล้ว

ชิ้นส่วนและแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 7.71% เนื่องจากความต้องการใช้ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลกที่มีทิศทางเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสินค้าประเภทหน่วยความจำ sensors และ Integrated Circuit เป็นต้น

เภสัชภัณฑ์ ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 19.61% จากผลิตภัณฑ์ยาเม็ด ยาน้ำ ยาแคปซูล และยาฉีด เป็นหลัก เนื่องจากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ของผู้ผลิตได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีเพราะผลิตภัณฑ์มีคุณภาพเทียบเท่าต่างประเทศ รวมถึงผู้ผลิตบางรายสามารถเพิ่มการผลิตได้สูงขึ้นหลังขยายอาคารเก็บรักษายาตั้งแต่ปลายปีก่อน
              มอเตอร์และเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 31.29% จากผลิตภัณฑ์มอเตอร์และหม้อแปลงไฟฟ้า เนื่องจากความต้องการใช้ในช่วงการกักตัวอยู่บ้านของลูกค้าประเทศต่าง ๆ โดยเป็นมอเตอร์ปั๊มน้ำสำหรับสระว่ายน้ำ ส่งผลให้การส่งออกเพิ่มขึ้น 82.66% สำหรับหม้อแปลงไฟฟ้าเดือนนี้ผลิตเป็นหม้อแปลงขนาดเล็กกำลังไฟต่ำจึงผลิตได้มากกว่าปกติ