นายสัตวแพทย์สรวิศ ธานีโต อธิบดีกรมปศุสัตว์ เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษพญาไท ภายใต้การอำนวยการของนายสัตวแพทย์บุญญกฤช ปิ่นประสงค์ ผู้อำนวยการสำนักควบคุมป้องกันและบำบัดโรคสัตว์ นำโดยนายจิรภัทร อินทร์สุข หัวหน้าชุด พร้อมกับทีม ได้แก่ นายปิยพงษ์ มิ่งสกุล,นายยศวีร์ ราเชนอรรถวิชญ์ และนางวัลย์ลยา ศรีบุรินทร์ สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัดขอนแก่น ด่านกักกันสัตว์ขอนแก่น ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค
ตามที่ได้ตรวจพบดีเอ็นเอ “กระบือ” จำหน่ายเป็นเนื้อโค ที่ห้างแมคโคร สาขาชัยภูมิ และชุดพญาไทได้ขยายผลเข้าตรวจสอบที่ บริษัทแห่งหนึ่ง ต.บ้านเป็ด อ.เมืองขอนแก่น จ.ขอนแก่น เข้าตรวจสอบตาม พรบ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 พรบ.ควบคุมการฆ่าสัตว์เพื่อการจำหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ.2559 พรบ.อาหาร พ.ศ.2522
โดยมีนายเอ (สงวนนามสกุล) เป็นผู้ประกอบกิจการ จากการตรวจสอบพบเป็นตัวแทนจำหน่ายเนื้อโคนำเข้าจากต่างประเทศรายใหญ่ในภาคอีสาน ส่งขายห้างดังทั่วประเทศ ประกอบด้วยชิ้นส่วนโค และเครื่องในโค ในส่วนของเนื้อ และเครื่องในนำเข้า
“พบว่านำเข้าจากประเทศอุรุกวัย อาเจนติน่า บราซิล และปรเทศอินเดีย ไม่พบเอกสารแหล่งที่มา ไม่พบเอกสารการเคลื่อนย้าย ไม่พบเอกสารรับรองให้จำหน่าย และสินค้าไม่พบตราประทับ DLD approve จำนวน 14 รายการ พนักงานเจ้าหน้าที่ จึงได้ทำการอายัดเนื้อโคนำเข้ากว่า 7,000 กิโลกรัม และทำบันทึกไว้ให้นำเอกสารมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ภายใน 10 วัน”
นอกจากนี้ภายในพื้นที่บริษัท พบมีห้องเย็นในการจัดเก็บเนื้อแช่เเข็ง จำนวน 5 ห้อง มีสินค้าเนื้อสัตว์จัดเก็บกว่า 140 ตัน และพบในห้องเก็บของมีการจัดเก็บสารฟอร์มาลิน โซดาไฟ ไฮรโดรเจนเปอร์ออกไซด์ โซเดียมอิริโทรเบต และสารมิกส์ฟอสเฟส สงสัยว่าจะมีการใช้สารในการฟอกเครื่องใน
“พนักงานเจ้าหน้าที่จึงได้เก็บตัวอย่างน้ำที่ใช้แช่ เนื้อสไบนาง จำนวน 4 ตัวอย่าง และเก็บตัวอย่างเนื้อโคและเครื่องในที่อายัดไว้ จำนวน 13 ตัวอย่าง ส่งตรวจสอบทางห้องปฏิบัติการกรมปศุสัตว์ เพื่อตรวจหา DNA กระบือ และจุลินทรีย์ก่อโรคที่เป็นอันตราย สารเร่งเนื้อแดง ยา และสารตกค้างที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภคต่อไป”