เกษตรกรมีเฮ การยาสูบฯ เตรียมเปิดลงทะเบียนปลูกกัญชา-กัญชงเชิงพาณิชย์สิ้นเดือนมี.ค.

08 มี.ค. 2564 | 09:58 น.
อัปเดตล่าสุด :09 มี.ค. 2564 | 11:32 น.

การยาสูบฯเตรียมเปิดลงทะเบียน ปลูกกัญชา กัญชง ปลาย มี.ค. นี้ นำร่องในกลุ่มเครือข่ายเกษตรกรปลูกใบยา 1.3 หมื่นครัวเรือน เน้นผลิตใช้ทางการแพทย์ อุตสาหกรรม ย้ำไม่ทำบุหรี่กัญชา

นายภาณุพล  รัตนกาญจนภัทร ผู้ว่าการการยาสูบแห่งประเทศไทย (ยสท.)​ เปิดเผยว่า ภายในปลายเดือน มี.ค.ถึงต้นเดือน เม.ย.นี้ ยสท.จะ เปิดลงทะเบียนเกษตรกร เพื่อเข้าร่วม โครงการปลูกพืชกัญชงและกัญชาเชิงพาณิชย์ โดยนำร่องให้ เครือข่ายผู้ปลูกใบยาสูบ ของ ยสท. กว่า 13,000 ครัวเรือนเข้าร่วมก่อน เพื่อใช้เป็นการปลูก พืชทางเลือก ทดแทนการขายใบยาที่ลดลง หลังจากได้รับผลกระทบจากการขึ้นภาษีบุหรี่ และต่อจากนั้นจึงขยายให้เกษตรกรทั่วไปเข้าร่วมลงทะเบียนได้ โดยผลผลิตจะนำไปวิจัยเพื่อนำไปใช้ในผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ ยา และภาคอุตสาหกรรม โดยจะไม่นำมาผสมขายในบุหรี่ ซึ่งหากทำได้จะช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น จากเดิมปลูกใบยามีรายได้ปีละ 23,000 บาทต่อไร่ แต่หากปลูกกัญชาคาดมีรายได้ 250,000 บาทต่อไร่

ทั้งนี้รัฐบาลเห็นด้วยและเชื่อว่า ยสท.มีความเหมาะสมที่จะเข้ามาปลูก และผลิตกัญชา กัญชงในเชิงพาณิชย์ เ​นื่องจากมีเครือข่ายเกษตรกรที่มีคุณภาพ มีตัวตนชัดเจน ขณะเดียวกันก็มีหน่วยงานด้านวิจัย พันธมิตรสถาบันการศึกษา โรงพยาบาล โรงงาน ซึ่งมีความพร้อมในการจัดการ ซึ่งขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.)​ และกฤษฎีกา อยู่ระหว่างออกกฎกระทรวงเพื่อปลดล็อกให้การยาสูบฯ สามารถเดินหน้าทำกัญชากัญชงเชิงพาณิชย์ได้ คาดจะเสร็จสิ้นภายใน 1-2 เดือนนี้

"เบื้องต้นน่าจะมีเกษตรกรที่เป็นเครือข่ายกว่า 60% พร้อมเข้าร่วม โดย ยสท.จะมีการประชุม และอบรมเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการปลูกกัญชา กัญชงก่อนเพื่อเตรียมความพร้อม และหลังจากนั้นจึงออกกฎเกณฑ์ว่าจะปลูกได้กี่ต้น ราคารับซื้อเท่าไร"  

ภาณุพล  รัตนกาญจนภัทร ผู้ว่าการ ยสท.

นายภาณุพล กล่าวว่า การเดินหน้าศึกษาธุรกิจกัญชากัญชง เป็นส่วนหนึ่งในแผนปรับตัวหารายได้ขององค์กร หลังจากได้รับผลกระทบจากการขึ้นภาษีบุหรี่ ที่ทำให้ยอดขายและกำไรลดลง โดยการยาสูบได้ทำหลายทาง เช่น การร่วมกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์ ที่โรงงานผลิตยาสูบ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าถึงปีละ 19 ล้านบาท รวมถึงการนำที่ดินจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย หนองคายออกประมูลเช่าสร้างรายได้ โดยคาดปีนี้จะมีกำไร 600-700 ล้านบาท และปีหน้าจะมีกำไรเกิน 1,000 ล้านบาท ขณะที่การขอ ครม.กู้เงิน 1,500 ล้านบาทมาใช้ ไม่ได้เป็นเพราะ ยสท. ถังแตก แต่เป็นการกู้เพื่อบริหารความเสี่ยงในอนาคตเท่านั้น 

ส่วนการขึ้นภาษีบุหรี่ ขณะนี้กรมสรรพสามิตกำลังทบทวน คาดจะสรุปภายในเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งเชื่อว่าคงไม่ใจร้ายปรับขึ้นภาษีจนทำให้บุหรี่เพิ่มไปซอง 75-80 บาท เพราะทำอุตสาหกรรมลำบาก และที่ผ่านมาการขึ้นภาษีบุหรี่ก็ยังมีคนสูบบุหรี่เหมือนเดิม 10.7 ล้านคน สูบลดลงเพียง 4% แต่กลับทำให้มีบุหรี่เถื่อนลักลอบเข้ามาเพิ่มถึง 25-30%

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: