ช็อก! "ล้ง" ประกาศหยุดรับซื้อทุเรียน 8-15 เม.ย.

แหล่งข่าว สมาคมผู้ประกอบการส่งออกทุเรียน มังคุด  (DMA) หรือ (ล้ง) เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ถึงผลสรุปที่ประชุมของสมาคมมีมติ หยุดรับซื้อทุเรียน วันที่ 8-15 เม.ย.นี้ ไม่ใช่เป็นเรื่องการประท้วง หรือเป็นการกดราคา แต่อย่างใด มีความประสงค์ต้องการให้ทุเรียนแก่ขึ้น เพราะว่าทางเจ้าหน้าที่ด่านตรวจพืช กรมวิชาการเกษตร มาตรวจก็เห็นว่ามีทุเรียนอ่อนปลอมปนอยู่ ทุกล้งมีหมด ตรงนี้เป็นเรื่องปลายเหตุ แต่ส่วนต้นเหตุก็หมักหมมมานานในขบวนการซื้อขาย เป็นทางออกที่จะให้ทุเรียนมีโอกาสแก่มากขึ้น

 

 

ด้านนายธีรภัทร อุ่นใจ นายกสมาพันธ์ชาวสวนทุเรียนภาคตะวันออก กล่าวว่าก็เห็นด้วย เพราะทุเรียนอ่อน ตรวจเจอทุกวัน แล้วประกอบกับได้คุยกับนายกสมาคมทุเรียนไทย ก็มีความคิดเห็นพ้องกันว่าต้องการอยากเห็นทุเรียนแก่  ดังนั้นหากมีมาตรการหยุดรับซื้อออกมาเชื่อว่าจะเห็นทุเรียนแก่มากขึ้น ต้นเหตุที่เกิดจากล้งเหมาสวน ก็จะมีลูกที่ตัดได้ก็มี แต่เนื่องจากเหมาแล้ว บางทีก็ทำให้ล้งตัดข้ามรุ่น นี่คือปัญหา ดังนั้นเมื่อมีมาตรการตรงนี้ออกมาจึงเห็นดีด้วย

 

 

 

นายภาณุศักดิ์ สายพานิช นายก สมาคมทุเรียนไทย กล่าวว่า เห็นข่าวออกมาแล้ว พอได้รับข่าวทางสมาคมทุเรียนไทยก็กำลังปรึกษากันอยู่ พอจะทราบวัตถุประสงค์สาเหตุที่หยุดรับซื้อเพราะจะทำให้คุณภาพทุเรียนออกมาดี เพราะหากเร่งตัดกันมากตัดข้ามรุ่นก็จะทำให้เกิดปัญหาออกมา มีการตรวจจับทุเรียนอ่อนรายวัน ซึ่งเกษตรกรก็เข้าใจว่าทางล้งเองก็อยากได้ของที่มีคุณภาพออกมาดี เป็นการช่วยกันแบบบูรณาการ

 

ขณะที่แหล่งข่าวผู้ค้าผลไม้ส่งออก กล่าวว่า ยังรู้สึก งง แล้วก็ถามไปที่ต้นเรื่องของ สมาคมผู้ประกอบการส่งออกทุเรียน มังคุด  หรือ (DMA) ที่มีมติในวันนี้ว่าจะเอาจริงหรือ เพราะถ้าจะเอาจริงต้องประชุมกันก่อน แต่ก็ให้ข้อคิดไปว่าที่เป็นมติที่ประชุมก็เป็นคนละเรื่องกันนะ เพราะถ้าจะทำจริง ปฏิบัติจริงก็ต้องมาพูดคุยหารือกันก่อน มาตรการจะทำอย่างไร

 

สืบเนื่องมาจากการตรวจทุเรียนโดยให้ผู้ว่าราชจังหวัดประกาศ หากทุเรียนหมอนทองยังไม่แก่ ซึ่งคาดว่าจะแก่ในวันที่ 10 เมษายน 2564 ถึงจะให้ตัดทุเรียนได้ ส่วนก่อนวันที่ 10 เมษายนนี้ ทุเรียนพันธุ์อื่นๆ ให้ตัดได้นั้นไม่มีปัญหา ออกได้หมด ยกเว้นสายพันธุ์นี้สามารถตัดได้ แต่จะต้องไปแจ้งผู้ใหญ่บ้าน หรือเกษตรอำเภอ ว่าแก่หรือไม่ ถ้าแก่จริง ก็ให้สามารถตัดขายได้ พอไปถึงล้ง ก็มีการสุ่มตรวจทุเรียนแก่จริงหรือไม่ ถ้าตรวจเจอไม่แก่ ก็ไม่ออกใบรับรองให้

 

 

ปัญหาตอนนี้ก็คือมีความเหลื่อมล้ำกัน ไม่ยุติธรรม ความยุติธรรมคืออะไร เราก็ไม่รู้ ซึ่งอาจจะเกิดจากปัญหาที่ไม่ชอบมาพากลก็ได้ แต่วันนี้สรุปก็คือมีพวกได้กับพวกเสีย แต่ถ้าไม่ตัดเกิดเจอลมพายุ ก็ตัดก่อน ยกตัวอย่างทุเรียนแก่ ขายกิโลกรัมละ 180 บาท ทุเรียนอ่อน ขายกิโลกรัมละ 150 บาท ต้องยอมรับว่ามีขบวนการอย่างนี้เกิดขึ้น ปัญหาตามมาก็คือพอถูกกดดันมากเข้า ล้ง ผู้ที่ส่งได้มีน้อย ส่งไม่ได้มีเยอะ จึงกลายเป็นพลังคนส่งเยอะไม่ได้ออกจึงทำให้ต้องมีมาตรการวิธีนี้ออกมาโต้ ว่าในวันที่ 8-15 เม.ย.นี้ หยุดรับซื้อทุเรียน หากไม่เชื่อฟัง หรือปฏิบัติตามจะถูกขับออกจาก สมาคมผู้ประกอบการส่งออกทุเรียน มังคุด  หรือ (DMA) อีกด้วย

 

ขณะที่กลุ่มชาวสวน พอทราบมติ  กล่าวว่าไม่เห็นด้วยแก้ปัญหาไม่ถูกจุด เชื่อว่าคงไม่เป็นผลดีแน่นอน ถ้าปัญหามันเกิดขึ้นที่ไทย แล้วส่งผลกระทบไปถึงจีนจะทำให้ระบบกลไกทางตลาดเสียหายไปหมด ทุเรียนมันออกเป็นรุ่นๆ มันไม่ได้ออกมาพร้อมกันทุกสวน ทีมตัด “ล้ง” มีค่าใช้จ่ายทุกวัน หยุดสักเดือนก็ได้ แต่กล้าไหม ค่าเช่า คนงาน หยุดยิ่งนานยิ่งแย่ไม่น่าจะมีใครอยากหยุด หรอกคนทำธุระกิจ  แต่ผมว่าล้งเบื่อนักวิชาเกินมากกว่า เข้ามาวุ่นวาย กิจกรรมภายใน เขามากไป เลยหยุดๆไปเลยดูกันว่า สวพ. จะว่าไง การตรวจวัดก็ไม่รู้ว่าแม่นยำแค่ไหน ด้วย ต้องเดินสายกลาง เห็นใจล้งบ้างเขามาสร้างผลประโยชน์ให้เรา

 

"วันนี้ต้องยอมรับว่าชาวสวนและล้งมีปัญหาหมด อย่าเอาแต่พูดว่าล้งกดดันชาวสวน เหมาไว้ตัดไม่ได้ ก็เดือดร้อน ที่ต้องหยุดเพราะปัญหาปีนี้เยอะจริง การทำงานของหน่วยงานต่างๆ ค่อนข้างยุ่งยาก ปัญหา เรื่องGAP เปอร์เซนต์ทุเรียน การปล่อยตู้ หากใครก็ตามได้อยู่ในสถานที่ทำล้งจริงๆ จะเข้าใจ ทั้งนี้อยากให้เข้าใจทุกฝ่าย ที่ต้องหยุด ปัญหาทุเรียนอ่อน และเรื่องหน่วยงานต่าง แต่ที่น่ากังวล ทุเรียนจะกระจุกตัวราคาก็จะลดลง เพราะทุเรียนรุ่นที่จะตัดวันที่ 10-15 เมษายนตัดไม่ได้ เป็นเกมส์ดั๊มพ์ราคา รัฐมนตรีเกษตรฯ จะต้องลงมาดูแล เพื่อให้ชาวสวนได้ประโยชน์สูงสุด"

 

ตัวอย่างข้อความ

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

• ส่งออกทุเรียนพุ่งกระฉูด 2 เดือนตลาดจีนโต500%
• เตือนชาวสวนตัด “ทุเรียนอ่อน” พ่อค้าขายต่อผิดกฎหมายทั้งคู่