thansettakij
เปิดจำหน่าย “เมล็ดกัญชง” 26 เม.ย.-5 พ.ค.นี้

เปิดจำหน่าย “เมล็ดกัญชง” 26 เม.ย.-5 พ.ค.นี้

23 เม.ย. 2564 | 09:02 น.

เช็กด่วน “สวพส.” เปิดจำหน่ายเมล็ดกัญชง พืชเศรษฐกิจใหม่ 26 เม.ย.-5 พ.ค.นี้ ราคา 250-700 บาท ใครสนใจ อย่าพลาด

 

วิรัตน์ ปราบทุกข์ วิรัตน์ ปราบทุกข์

          

นายวิรัตน์ ปราบทุกข์ ผู้อำนวยการ สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน)  หรือ สวพ.  เปิดเผยว่า สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน)  หรือ สวพ.  ร่วมกับ มูลนิธิโครงการหลวง  สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้วิจัยและพัฒนากัญชง (Hemp) เพื่อให้เป็นพืชเศรษฐกิจบนพื้นที่สูง มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ ปี พ.ศ.2549 จนถึงปัจจุบัน โดยได้มีการพัฒนาพันธุ์กัญชงจำนวน 4 พันธุ์ คือ RPF1, RPF2, RPF3 และ RPF4 สำหรับการปลูกเพื่อผลิตเส้นใย โดยทุกพันธุ์ ที่มีปริมาณสารเสพติด (THC) 0.2% ซึ่งต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด มีเปอร์เซ็นต์เส้นใย 12-14.7% และมีปริมาณสารที่เป็นประโยชน์ (CBD) 0.8-1.2% และได้ขึ้นทะเบียนพันธุ์กับกรมวิชาการเกษตร ในปี พ.ศ. 2554 และพันธุ์ดังกล่าวจัดเป็นเมล็ดพันธุ์รับรองตามกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต จำหน่ายหรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 4 เฉพาะเฮมพ์ พ.ศ.2559

 

เมื่อ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข ได้ประกาศ “กฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครอง ซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 เฉพาะกัญชง (Hemp) พ.ศ.2563” และ “ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ. 2563” มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2564 ที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนทั่วไปสามารถขออนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองกัญชงได้

 

โดยส่วนของกัญชงที่ไม่จัดเป็นยาเสพติด ได้แก่ ใบ เมล็ด (seed และ grain) ราก ลำต้น และสารสกัด CBD ที่มี THC ต่ำกว่า 0.2% เป็นผลให้ความสนใจในการทดลองปลูก และศึกษาวิจัยที่เกี่ยวข้องกับกัญชง เพิ่มขึ้นอย่างมากภายในระยะเวลาอันสั้น ในขณะที่ยังไม่มีการผลิตเมล็ดกัญชงไว้ล่วงหน้า ดังนั้นเพื่อเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยและพัฒนากัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ของประเทศ

 

สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน) ในฐานะที่เป็นหน่วยงานหลักที่ศึกษาและวิจัยกัญชงอยู่ในปัจจุบัน จึงได้จัดสรรเมล็ดกัญชงที่ผลิตไว้สำหรับการศึกษาและวิจัยของสวพส. นำมาจำหน่ายให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ส่งเสริมของโครงการหลวงและสวพส. หน่วยงานของรัฐหรือภาคเอกชนที่ดำเนินโครงการวิจัยร่วมกับสวพส. หน่วยงานของรัฐ และบุคคลทั่วไปหรือนิติบุคคลที่สนใจ จำนวนรวม 5,600 กิโลกรัม และได้จัดตั้งคณะอนุกรรมการกำหนดแนวทางการควบคุม การจำหน่าย การกำหนดราคาเมล็ดพันธุ์ ส่วนประกอบและผลิตภัณฑ์ของเฮมพ์

 

โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ผู้แทน สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา , ผู้แทน มูลนิธิโครงการหลวง ,ผู้แทน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด  (ป.ป.ส.), ผู้แทนสถาบันพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางขนาดย่อม, ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.),ผู้แทนองค์การเภสัชกรรม เพื่อร่วมกันพิจารณากำหนดแนวทางการจำหน่ายและราคาเมล็ดกัญชง ที่เหมาะสมสำหรับการสนับสนุนและผลักดันให้กัญชงเป็นพืชเศรษฐกิจ โดยมีเมล็ดกัญชงที่จะจำหน่าย 2 พันธุ์ คือ RPF1 ที่เหมาะสำหรับปลูกบนพื้นที่สูงมากกว่า 1,000 เมตร และพันธุ์ RPF3 ที่เหมาะสำหรับปลูกบนพื้นที่สูงระดับ 500-1,000 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง ซึ่งประกอบด้วย 

 

1. เมล็ดพันธุ์รับรอง (Certified seed) จำนวน 3,000 กิโลกรัม โดยจำหน่ายสำหรับเกษตรกรในพื้นที่โครงการหลวงและโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวง ราคา 300 บาท/กก. หน่วยงานภาคีร่วมศึกษาวิจัยและพัฒนา (Partnership) หรือหน่วยงานของรัฐ ราคา 400 บาท/กก. และสำหรับบุคคลทั่วไป ราคา 520 บาท/กก.

 

2. เมล็ดบริโภค (Grain) จำนวน 2,600 กิโลกรัม โดยจำหน่ายสำหรับหน่วยงานภาคีร่วมศึกษาวิจัยและพัฒนา (Partnership) หรือหน่วยงานของรัฐ ราคา 250 บาท/กก. และสำหรับบุคคลทั่วไป ราคา 750 บาท/กก.

 

ทั้งนี้ เพื่อสนับสนุนให้เกิดการวิจัย พัฒนา และการทดลองปลูก ได้อย่างทั่วถึงและเหมาะสมกับสภาพการณ์ในปัจจุบัน สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน ได้พิจารณาและกำหนดปริมาณเมล็ดที่จะจำหน่ายให้แก่ผู้ขอซื้อแต่ละราย ตามวัตถุประสงค์ของการใช้ประโยชน์ ดังนี้

 

1. เมล็ดพันธุ์รับรอง (Certified seed) : สำหรับเกษตรกรในพื้นที่โครงการหลวงและโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวง ไม่เกิน 20 กก./ราย หน่วยงานภาคีร่วมศึกษาวิจัยและพัฒนา (Partnership) หรือหน่วยงานของรัฐ ไม่เกิน 30 กก./ราย และสำหรับบุคคลทั่วไป ไม่เกิน 20 กก./ราย

 

2. เมล็ดบริโภค (Grain) : สำหรับหน่วยงานภาคีร่วมศึกษาวิจัยและพัฒนา (Partnership) หรือหน่วยงานของรัฐ ไม่เกิน 50 กก./ราย และสำหรับบุคคลทั่วไป ไม่เกิน 20 กก./ราย (R&D)

 

โดยผู้ขอซื้อทั้งเกษตรกรในพื้นที่โครงการหลวงและโครงการพัฒนาพื้นที่สูงแบบโครงการหลวง หน่วยงานภาคีร่วมศึกษาวิจัยและพัฒนา (Partnership) หรือหน่วยงานของรัฐ และบุคคลทั่วไปหรือนิติบุคคล สามารถแจ้งความประสงค์ขอซื้อ ผ่านทางเว็บไซต์ของ สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน)  หรือ คลิกใบคำสั่งซื้อกัญชง  หรือยื่นเอกสารด้วยตนเอง หรือทางไปรษณีย์ โดยสามารถดาวน์โหลดแบบฟอร์ม คลิกที่นี่  ระหว่างวันที่ 26 เมษายน ถึงวันที่ 5 พฤษภาคม 2564 โดยปฏิบัติตามข้อปฏิบัติที่กำหนด ซึ่งสามารถติดตามรายละเอียดได้จากเว็บไซต์ สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง (องค์การมหาชน)  หรือ Facebook Fanpage : สถาบันวิจัยและพัฒนาพื้นที่สูง(องค์การมหาชน) - HRDI

 

ราคาขาย เมล็ดพันธุ์กัญชง ราคาขาย เมล็ดพันธุ์กัญชง

 

“กัญชงกำลังจะก้าวสู่การเป็นพืชเศรษฐกิจทางเลือกใหม่ ด้วยคุณค่าและประโยชน์ที่ได้ของทุกส่วน ทั้ง เมล็ด ช่อดอก ใบ ลำต้น เปลือก และเส้นใย ที่สามารถแปรรูปทำผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและต่อยอดทางธุรกิจได้มากมาย การที่กฏหมายได้เปิดให้สามารถขออนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองได้นั้น นับเป็นโอกาสที่เกษตรกรและทุกภาคส่วนจะได้ร่วมกันพัฒนาและผลักดันกัญชงให้เป็นพืชเศรฐกิจได้อย่างแท้จริง โดยเฉพาะการปรับปรุงพันธ์และเทคโนโลยีการปลูกให้เหมาะสมกับการใช้ประโยชน์ที่หลากหลายขึ้น การแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ และการพัฒนาทางการตลาด  และสวพส.ยินดีให้การสนับสนุนเพื่อต่อยอดการวิจัยและพัฒนาที่ได้ร่วมกับโครงการหลวง และหน่วยงานต่าง ๆ ที่ร่วมกันบุกเบิกและดำเนินการมากว่า 15 ปี" นายวิรัตน์ กล่าวส่งท้าย