นายสุชาติ จริยาเลิศศักดิ์ รองผู้อำนวยการ ทำการแทนผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย(อ.ส.ค.) กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญในการใส่ใจดูแลสุขภาพกันมากขึ้น มีผลให้เทรนด์การบริโภคผลิตภัณฑ์นมภายในประเทศมีความหลากหลาย โดยเฉพาะกลุ่มผลิตภัณฑ์กลุ่มนมแช่เย็น ดังนั้น ภายในปี2564 อ.ส.ค. จึงมีแผนที่จะผลักดันผลิตภัณฑ์กลุ่มนมแช่เย็น เช่น นมพาสเจอร์ไรส์ โยเกิร์ต นมเปรี้ยวพร้อมดื่ม หรือดริงกิ้งโยเกิร์ต และไอศกรีม เป็นต้น
ทั้งนี้จากเดิมได้ประสบความสำเร็จในการทำตลาดผ่านช่องทางการตลาดค้าขายปลีกแบบสมัยใหม่ (Modern Trade)แล้ว เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคและตลาดที่มีแนวโน้มต้องการสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องซึ่งถือเป็นไปในทิศทางเดียวกับเทรนด์การบริโภคของต่างประเทศที่นิยมบริโภคผลิตภัณฑ์นมเย็นกันมาก อ.ส.ค. จึงมีแผนขยายช่องทางการตลาดผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์คในกลุ่มนมแช่เย็นผ่านศูนย์กระจายสินค้าและช่องดีลิเวอรี (Delivery) ทั่วประเทศมากขึ้น เนื่องจากเป็นช่องทางหลักการจำหน่ายที่มีความเข้มแข็งและเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคในชุมชนได้ง่าย
โดยจะดำเนินการภายใต้โครงการThai-Denmark Sales Force ผลิตภัณฑ์กลุ่มนมแช่เย็นนำร่องในเขตพื้นที่ภาคใต้เป็นพื้นที่แรก เพื่อเพิ่มสัดส่วนการบริโภคกลุ่มนมแช่เย็นในตลาดของประเทศให้มากขึ้น โดยวางเป้าหมายภายในปี2564 ได้กำหนดเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนยอดขายขยับขึ้นเป็น 10% ในขณะที่ปัจจุบันไทย-เดนมาร์คเป็นผู้นำตลาดนมพร้อมดื่มยูเอชที โดยครองส่วนแบ่งการตลาดเชิงอยู่ที่ปริมาณกว่า 42% การหันมาผลักดันสัดส่วนทางการตลาดกลุ่มผลิตภัณฑ์นมแช่เย็นโดยผ่านศูนย์กระจายสินค้าประจำเขตต่าง ๆ เชื่อมั่นว่าจะทำให้ยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์คมียอดจำหน่ายสูงขึ้นจากเดิมอย่างแน่นอน
สำหรับกลยุทธ์ในการทำตลาดภายใต้โครงการดังกล่าว อ.ส.ค. จับมือกับศูนย์กระจายสินค้าประจำเขตยกระดับศักยภาพของ “หนุ่มสาววัวแดง” ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ อ.ส.ค.ที่ผ่านการรับสมัครเข้าทำหน้าที่เป็นพนักงานขายในแต่ละจังหวัดกระจายตัวอยู่ทั่วประเทศขึ้นแท่นเป็นตัวแทนพนักงานขายผลิตภัณฑ์แบรนด์ไทย-เดนมาร์ค โดย อ.ส.ค. จะจัดกิจกรรมลงพื้นที่ตลาดเพื่อฝึกทักษะการขายภาคปฏิบัติให้กับ“หนุ่มสาวนมวัวแดง”ในพื้นที่เป้าหมายคือ จังหวัดนครศรีธรรมราช, ตรัง, กระบี่และสุราษฎร์ธานี พร้อมจัดทีม Thai-Denmark Sales Force ที่มีความเชี่ยวชาญประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์กลุ่มนมแช่เย็น เพื่อเป็นการสร้างยอดการจำหน่ายในแต่ละพื้นที่ และสร้างการรับรู้ในเขตพื้นที่นั้นควบคู่กัน
“อ.ส.ค.สร้างภาพลักษณ์ใหม่ให้หนุ่มสาวนมวัวแดงจากพนักงานขายขึ้นแท่นเป็นตัวแทนพนักงานขายผลิตภัณฑ์แบรนด์ไทย-เดนมาร์ค ผลิตภัณฑ์กลุ่มนมแช่เย็น ในการทำหน้าที่เจาะตลาดดีลิเวอรี ในพื้นที่ชุมชนซึ่งเป็นภูมิลำเนาของหนุ่มสาวนมวัวแดงอยู่แล้ว ทั้งนี้ยังเป็นการกระตุ้นยอดจำหน่ายและขยายช่องทางตลาดกลุ่มผู้บริโภคในชุมชนนั้นๆให้รู้จักและยอมรับผลิตภัณฑ์กลุ่มนมแช่เย็นไทย-เดนมาร์คมากขึ้น ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าว อ.ส.ค. มั่นใจว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายผลิตภัณฑ์กลุ่มนมแช่เย็น ได้ 10% ภายในปีนี้ได้อย่างแน่นอน”
นายสุชาติ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันการทำการตลาดผ่านตัวแทนของแบรนด์แอมบาสเดอร์นั้น ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากสามารถดึงดูดใจผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี โดยแอมบาสเดอร์ของผู้ประกอบการรายอื่นอาจจะนำบุคคลผู้มีชื่อเสียงมา แต่สำหรับ อ.ส.ค. ได้ให้ความสำคัญกับพลังของ “หนุ่มสาวนมวัวแดง” ซึ่งเป็นพนักงานขายผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์คที่กระจายอยู่ประจำจังหวัดต่างๆ เนื่องจากพวกเขาเหล่านั้นเชื่อมั่นในองค์กรและเข้าใจถึงผลิตภัณฑ์ได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะเห็นได้ว่าหลายๆ แบรนด์พยายามปรับภาพลักษณ์ของพนักงานในองค์กร โดยเฉพาะด่านหน้าอย่างพนักงานขาย ให้มีบุคลิกภาพและการสื่อสารที่ดี มีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในแบรนด์
ปัจจุบันผลิตภัณฑ์กลุ่มนมแช่เย็น แบรนด์ไทย-เดนมาร์คมีช่องทางหลักการจำหน่ายผ่านศูนย์กระจายสินค้าตามแต่ละจังหวัดซึ่งแต่และศูนย์ฯ ก็มีพนักงานขายหรือที่เราเรียกว่า “หนุ่มสาววัวแดง”ซึ่งมีความเข้มแข็งและเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ง่าย เนื่องจากหนุ่มสาววัวแดง มีความคุ้นเคยกับลูกค้าในพื้นที่อยู่แล้ว ซึ่งหากได้ทีม Thai-Denmark Sales Force เข้าไปวางแผนเพื่อปรับภาพลักษณ์ให้กับหนุ่มสาววัวแดง ทั้งในด้านทัศนคติต่อองค์กร, การแต่งกาย, การสื่อสารกับลูกค้าและเทคนิคการขายต่างๆ และทีม Thai-Denmark Sales Force จะปฏิบัติงานลงพื้นที่พร้อมกับหนุ่มสาววัวแดง ก็เพื่อช่วยเพิ่มสีสันและนำเทคนิคการแนะนำสินค้าให้น่าสนใจมากขึ้นก็จะช่วยให้ยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์กลุ่มนมแช่เย็นให้เพิ่มมากตามเป้าหมายอย่างแน่นอน และหากประสบความสำเร็จ ในอนาคต อ.ส.ค. มีแผนจะผลักดันหนุ่มสาววัวแดงเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของผลิตภัณฑ์นมพาสเจอร์ไรส์ตราไทย-เดนมาร์คอีกด้วย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
อ.ส.ค.ผนึก 4 พันธมิตรลุย “กัญชงเสรี” วิจัยสร้างมูลค่าเพิ่มอาหารสัตว์
อ.ส.ค.เขย่าตลาดนมปีฉลู เล็งยอดขาย 1.1 หมื่นล้าน
อ.ส.ค. ขยายตลาดบนเครื่องบิน หวังดันยอดขายทะลุ 1.2 หมื่นล้าน