ดร.จรรยา มณีโชติ นายก สมาคมวิทยาการวัชพืชแห่งประเทศไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า มีเกษตรกรชาวนา จังหวัดพิษณุโลก ได้มาปรึกษาเรื่องเชื้อโรคดื้อในนาข้าวจะทำอย่างไร ประกอบกับปัจจุบันนี้ชาวนากำลังประสบปัญหาวัชพืชดื้อยาในนาข้าว (เช่น หญ้าข้าวนก หญ้าดอกขาว และหนวดปลาดุก) ได้ขยายวงกว้างมากขึ้น ในนาภาคกลาง ภาคเหนือตอนล่าง และภาคอีสานการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง คือ ชาวนาไม่ควรใช้สารกลุ่มเดิมๆต่อเนื่องกันนานเกิน 3 ฤดู
แต่ควรหมุนเวียนใช้สารที่มีกลไกออกฤทธิ์ที่ต่างกัน ดังนั้น เมื่อเกิดปัญหา หนวดปลาดุก ดื้อยา กลุ่ม B และชาวนาเปลี่ยนไปใช้สาร กลุ่ม E เป็นเรื่องที่ถูกต้อง "แต่เรื่องไม่ถูกต้อง คือ บนฉลากไม่มีข้อความระบุให้ใช้ในนาข้าวและยังนำไปโฆษณาขายออนไลน์
ดร.จรรยา กล่าวว่า เกษตรกรได้ส่งผลิตภัณฑ์มาให้ดู เขียนว่าสารกำจัดวัชพืช "เอม40 ดับบลิวจี" เป็นของ บริษัท เอฟเอมซี เอจี (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทแม่อยู่สหรัฐอเมริกา แล้วบอกคุณสมบัติสามารถกำจัดหญ้าร้าย หญ้าดื้อยาในนาข้าวได้ ทั้งที่ยังไม่มีทะเบียนในนาข้าว แต่ข้างหลังมีทะเบียนปาล์มน้ำมันกับมันสำปะหลัง ซึ่งก็บอกเกษตรกรไปว่าการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีทะเบียนผิดกฎหมาย เกษตรกรก็บอกไม่ทราบ เลยสอนไปการใช้สารประเภทนี้ต้องใช้ให้ถูกต้องกับชนิดพืช ที่สำคัญจะต้องได้รับรองการขึ้นทะเบียนจากกรมวิชาการเกษตร
หากส่งข้าวขายข้าว แล้วอาจจะส่งผลทำให้ระบบตรวจสอบย้อนกลับมีปัญหา หากปลายทางที่เป็นลูกค้าต่างประเทศส่งข้าวออกไปตรวจแล้วมีสารตัวนี้ตกค้าง เกรงว่าจะป่วนทั้งประเทศ และเป็นชื่อเสียงของประเทศชาติ ที่สำคัญไปขายในออนไลน์ด้วย โดยเฉพาะเป็นบริษัทข้ามชาติด้วยจะมาทำร้ายเกษตรกรไทยได้อย่างไร เรื่องนี้ต้องระวังด้วยซ้ำ เพราะเป็นชื่อเสียงของบริษัท เรื่องนี้ผิดกฎหมายชัดเจน
“ในฐานะนายกสมาคม อยากให้เกษตรกรใช้สารเคมีอย่างถูกต้องและปลอดภัย ยาตัวนี้ที่เกษตรกรใช้ ก็จัดว่าเป็นยาเถื่อน ที่สำคัญยาประเภทนี้มีอีกหลายยี่ห้อที่ขึ้นทะเบียนแล้วอย่างถูกต้องแนะนำให้ใช้ยาที่ขึ้นทะเบียนแล้วจะปลอดภัยที่สุด”