ต้องจับตาการประชุมศบค.ชุดใหญ่ ในเวลา 13.30 น. ที่จะมีการเสนอให้อำนาจกับผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัด ในการประกาศใช้เคอร์ฟิว หรือ ห้ามออกนอกเคหสถาน ตามเวลาที่กำหนด
วันที่ 16 เมษายน 2564 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ที่ที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนประชุมศบค.ชุดใหญ่ หรือ คณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ ศบค. ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน
นาย อนุทิน กล่าวตอนหนึ่งว่า จะนำเสนอมติจากคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ในการเสนอปรับสีของพื้นที่ควบคุมทั่วประเทศ ได้แก่ สีแดง หรือพื้นที่ควบคุมสูงสุด จำนวน 18 จังหวัด และสีส้ม หรือ พื้นที่ควบคุมขั้นสูง จำนวน 56 จังหวัด
พร้อมกันนี้ นายอนุทินย้ำว่า ยังสามารถเดินทางข้ามจังหวัดได้ แต่ขึ้นอยู่กับผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัด ในฐานะเป็นประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดจะออกมาตรการออกมา รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดยังมีอำนาจประกาศห้ามออกนอกเคหสถาน (เคอร์ฟิว) ได้ ซึ่งที่ผ่านมา นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เคยออกมาตรการเคอร์ฟิวตั้งแต่เวลา 22.00 น. ถึง 05.00 น.”
“การให้อำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดประกาศเคอร์ฟิวเป็นการกระจายอำนาจให้กับผู้ว่าราชการจังหวัด เนื่องจากเป็นผู้ทราบถึงความจำเป็นและสถานการณ์ของจังหวัดว่าเป็นอย่างไร ทั้งนี้มาตรการที่จะออกมาคำนึงถึงความเดือดร้อนกับประชาชนให้น้อยที่สุด”
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า มาตรการต่างๆเราจะเข้มข้นขึ้น เช่นการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารหรือสถานประกอบการต่างๆจะเสนอขอให้งด ผับ บาร์ คาราโอเกะ ก็ขอให้ปิดไปจนถึงสิ้นเดือน เพราะหวังว่าถ้าคนรวมกลุ่มกันน้อยลงจะลดการแพร่ระบาดได้ ส่วนการจำหน่ายสุราในร้านค้าทั่วไปนั้น หากจะไปกินที่บ้านก็โอเค แต่เป็นการขอความร่วมมือเพราะเราไม่อยากบังคับกันขนาดนั้น ไม่ใช่ว่าพอห้ามขายในร้านอาหารแล้วนัดกันที่บ้าน เพราะเรามีข้อกำหนดที่จะเสนอศบค.วันนี้อีกด้วยว่า ไม่ให้เลี้ยงสังสรรค์กันสำหรับคนในครอบครัว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :