แนะอีสานจับมือเพื่อนบ้าน ชู‘ระเบียงเศรษฐกิจน้ำโขง’

08 ส.ค. 2560 | 11:42 น.
อัปเดตล่าสุด :08 ส.ค. 2560 | 18:42 น.
อดีตประธานหอการค้าอุดรแนะอีสานรวมกลุ่มประเทศเพื่อนบ้านผุด “ระเบียงเศรษฐกิจลุ่มนํ้าโขง” รองรับตลาดใหม่ขยายตัว

[caption id="attachment_191265" align="aligncenter" width="335"] สวาท ธีระรัตนนุกูลชัย สวาท ธีระรัตนนุกูลชัย[/caption]

นายสวาท ธีระรัตนนุกูลชัย รองประธานคณะกรรมการกลุ่มค้าชายแดนและค้าข้ามแดน สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และอดีตประธานหอการค้าจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า แนวโน้มการพัฒนาธุรกิจการค้าชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะต้องเค้นเอาศักยภาพกลุ่มเป็นระเบียงเศรษฐกิจลุ่มแม่นํ้าโขง ด้วยการร่วมมือกับทั้งในระดับจังหวัด และระดับประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ตามแนวแม่นํ้าโขง ร่วมกันสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจท้องถิ่น เนื่องจากพื้นที่ที่อยู่ติดริมแม่นํ้าโขงที่เป็นแม่นํ้าสายหลักระหว่างประเทศหลายประเทศ โดยเฉพาะการค้าผ่านแดน เมื่อหลายปีที่ผ่านมาที่ด่านศุลกากรจังหวัดหนองคาย มีมูลค่าการค้าระหว่างภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กับสปป.ลาวสูงที่สุด แต่ทุกวันนี้มีอัตราลดลงด้วยสาเหตุหลายประการ เช่นการเจริญเติบโตด้านเศรษฐกิจของในพื้นที่ต่างๆ

รัฐบาลมีนโยบายกระตุ้นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากหรือ Local Economy เรื่องการท่องเที่ยวในทุกระดับโดยเฉพาะการท่องเที่ยวท้องถิ่น จึงเกิดการพัฒนาเส้นทางตามริมแม่นํ้าโขงของภาคอีสานจากจังหวัดเลย จนถึงจังหวัดอุบลราชธานีระยะทางกว่า 800 กม. ซึ่งตนเองได้มีโอกาสเข้าไปเป็นคณะกรรมการดังกล่าวด้วย จึงได้นำแนวทางการคิด การพัฒนา ต่อยอดในเรื่องของการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นเชื่อมโยงไปกับจังหวัดตามริมแม่นํ้าโขงและประเทศเพื่อนบ้าน ให้รวมตัวตั้งเป็น ระเบียงเศรษฐกิจลุ่มนํ้าโขง ส่วนประเทศไทยและนักธุรกิจไทย ต้องเร่งปรับตัวให้ทันกับการแข่งขันที่สูงขึ้น โดยอาศัยความได้เปรียบด้านความพร้อมในทุกด้านมากกว่าหลายประเทศในกลุ่มประเทศอาเซียน”

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,285 วันที่ 6 -9 สิงหาคม พ.ศ. 2560