ปั้นรายได้ "ปลาส้ม" 16 ล้าน "แม่ทองปอน" ปรับกลยุทธ์ต่อยอดผลิตภัณฑ์

"ปลาส้มไร้ก้างแม่ทองปอน" ปรับกลยุทธ์การตลาด หันมาผลิตเองทั้งหมด รับผลกำไรเต็มที่ พร้อมต่อยอดผลิตภัณฑ์สู่รูปแบบสำเร็จรูป ขยายฐานลูกค้า เจาะตลาดในโมเดิร์นเทรด หวังดันรายได้โต 15-16 ล้านบาทต่อปี

นางสาวพัชรินทร จำรัส กรรมการผู้จัดการ ห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) ปลากส้มไร้ก้างแม่ทองปอน ผู้ผลิตและจำหน่ายปลาส้มแบรนด์ 'ทองปอน' เปิดเผย "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า ในปีนี้แบรนด์ทองปอนได้มีการปรับกลยุทธ์ในการผลิต เพื่อลดต้นทุน และมุ่งหวังให้เกิดผลกำไรที่เพิ่มขึ้นจากการดำเนินธุรกิจ โดยปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ปลาส้มของแบรนด์จะถูกผลิตเองทั้งหมด จากเดิมที่ส่วนหนึ่งจะว่าจ้างให้ผู้อื่นผลิตให้ ซึ่งมีผลทำให้อัตรากำไรจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์มีอยู่ไม่มากเท่าที่ควร




ขณะที่ กลยุทธ์ในลำดับถัดไปนั้น ล่าสุด แบรนด์ได้ดำเนินการร่วมมือกับมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดภาคเหนือเพื่อวิจัยและพัฒนา (R&D) ต่อยอดผลิตภัณฑ์ให้มีลักษณะเป็นรูปแบบของอาหารสำเร็จรูป โดยจะเป็นปลาส้มแบบพร้อมรับประทาน รวมถึงการทำเป็นผงโรยข้าวและปลาส้มทอดกรอบ จากเดิมที่แบรนด์จะมีผลิตภัณฑ์หลัก คือ ปลาส้ม และผลิตภัณฑ์ที่เป็นผลพลอยได้จากวัตถุดิบด้วย ได้แก่ ไข่ปลาดอง ครีบปลาดอง และปลาแดดเดียว เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้บริโภค




ทั้งนี้ ปัจจุบันแบรนด์ได้ดำเนินการติดต่อช่องทางในการทำตลาดเอาไว้เรียบร้อยแล้ว โดยจะมุ่งเน้นไปที่การเข้าไปทำตลาดในห้างโมเดิร์นเทรดและกลุ่มลูกค้าที่จะเดินทางไปต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันได้มีการเจรจาทางการค้า เพื่อร่วมทำธุรกิจกับห้างริมปิงที่ จ.เชียงใหม่, เซเว่นอีเลฟเว่น ในการจำหน่ายผ่านออนไลน์และห้างสรรพสินค้าของ บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เรียกว่าเป็นการขยายตลาดให้ครอบคลุมมากขึ้น

สำหรับช่องทางการทำตลาดเดิมของแบรนด์นั้น จะเลือกใช้ทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ โดยการทำตลาดออนไลน์จะเลือกดำเนินการผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก (Facebook) และไลน์ ส่วนในรูปแบบของออฟไลน์จะมีการดำเนินการผ่านหน้าร้านที่ด้านหน้าโรงงานที่ จ.พะเยา รวมถึงในตลาดต่าง ๆ และสถานที่ท่องเที่ยว โดยเป็นการทำตลาดในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศ อีกทั้งยังมีการรับจ้างผลิต (OEM) เพื่อให้นำผลิตภัณฑ์ไปจำหน่ายที่ประเทศลาวในแบรนด์อื่นอีกด้วยและมีตัวแทนจำหน่ายที่ประเทศญี่ปุ่น

"เป้าหมายด้านรายได้ของแบรนด์ในปีนี้ มองว่าน่าจะเติบโตขึ้นจากปีที่ผ่านมาประมาณ 3-5% หรือ มีรายได้อยู่ที่ประมาณ 10 ล้านบาทขึ้นไป เป็นผลมาจากการที่แบรนด์ปรับกลยุทธ์มาผลิตเองทั้งหมด ส่งผลให้มีกำไรมากกว่าที่ผ่านมา และในปี 2562 เชื่อว่า รายได้จะเติบโตเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 15-16 ล้านบาท"




นางสาวพัชรินทร กล่าวต่อไปอีกว่า จุดเด่นที่สำคัญของผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ทองปอน อยู่ที่การเป็นปลาส้มที่มีรสชาติไม่เค็ม รวมถึงไม่คาว และไม่มีการใส่สารกันบูด พร้อมทั้งสร้างความแตกต่างด้วยการเป็นปลาส้มแบบไร้ก้าง ซึ่งแบรนด์จะเลือกใช้ปลาจีนมาเป็นวัตถุดิบในการแปรรูป เนื่องจากเป็นปลาที่มีเนื้อเยอะ รวมถึงมีความหนานุ่ม และเมื่อนำมาผ่านกระบวนการแปรรูปในรูปแบบดังกล่าวก็จะมีรสชาติที่ดีเยี่ยม

หลักคิดในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ นางสาวพัชรินทร กล่าวว่า อยู่ที่การทำผลิตภัณฑ์ที่ดีและมีคุณภาพ อีกทั้งยังไม่มีการคดโกง ซื่อสัตย์ และตรงต่อเวลา โดยเมื่อลูกค้าออร์เดอร์ผลิตภัณฑ์เข้ามา บริษัทก็จะดำเนินการผลิตให้ได้ตามวันและเวลาที่ได้มีการตกลงกันเอาไว้ ทำให้แบรนด์ทองปอนสามารถครองใจผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี และนำไปสู่ผลลัพธ์แห่งความสำเร็จของธุรกิจ




อนึ่ง ผลิตภัณฑ์ปลาส้มแบรนด์ทองปอนมีจุดเริ่มต้นมาจากการที่นางสาวพัชรินทรต้องการสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นของคุณแม่เกี่ยวกับการแปรรูปอาหาร ที่เรียกว่า ปลาส้ม ซึ่งคุณแม่เคยทำมาก่อน โดยมองว่า อาหารประเภทดังกล่าวมีความต้องการจากผู้บริโภคอยู่เป็นจำนวนมาก และสูตรของคุณแม่ก็ยังเป็นสูตรที่มีรสชาติอร่อย น่าจะสามารถเข้าไปครองใจและชิงส่วนแบ่งทางการตลาดได้อย่างไม่ยากเย็นเท่าใดนัก โดยเมื่อสูตรปลาส้มของตัวเธอเป็นของคุณแม่ ชื่อแบรนด์ที่น่าจะเหมาะสมที่สุด ก็คือ "ทองปอน" ซึ่งเป็นชื่อของคุณแม่

หน้า 13 ฐานเศรษฐกิจ ฉบับที่ 3430 วันที่ 27-29 ธันวาคม 2561