เจาะงบ"อิเซตัน"กวาดรายได้ 1.4พันล้าน แต่ไฉนโบกมือลาไทย 

บริษัท อิเซตัน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้บริหารห้างสรรพสินค้าอิเซตัน ภายในศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ซึ่งดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2532 ตัดสินใจประกาศยุติการดำเนินธุรกิจห้างสรรพสินค้าอิเซตัน ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ในวันที่ 31 สิงหาคม 2563 เนื่องจากสิ้นสุดสัญญาเช่ากับบริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็น ซึ่งเป็นผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ (อ่านประกอบ ห้างหรู “อิเซตัน”โบกมือลาเมืองไทย )
"ฐานเศรษฐกิจ"ตรวจสอบข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์พบว่า บริษัท อิเซตัน (ประเทศไทย) จำกัด  จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 27 มี.ค. 2532 ทุนจดทะเบียน 290 ล้านบาท มีคนไทยถือหุ้น 14 รายวงเงินรวม 147.90 ล้านบาท และผู้ถือหุ้นญี่ปุ่น 1 ราย วงเงิน 142.10 ล้านบาท  คณะกรรมการบริษัทประกอบด้วย นายมีชัย ฤชุพันธุ์ นายเซอิจิ อาโอยามา นายซาโตชิ ยามาโมโตะ นายรัตน์ โอสถานุเคราะห์ นายวรชัย ปัฐพาณิชย์โชติ นายโคจิ โอยามา และนายโทโยฮิโกะ ทานากะ

เมื่อดูผลประกอบการในช่วง 3 ปีย้อนหลัง พบว่าอิเซตันมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่เป็นอัตราการเพิ่มขึ้นที่ไม่มากนัก โดยในปี 2559 มีรายได้รวม 1,422.435 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.94% ปี 2560 รายได้รวม 1,423.919 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.1% และปี 2561 มีรายได้รวม     1,454.395 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.14%

แต่ที่น่าสนใจคืออิเซตันมีรายจ่ายรวมในแต่ละปีใกล้เคียงกับรายได้ โดยรายจ่ายส่วนใหญ่มาจากต้นทุนขายปีละกว่า 1 พันล้านบาท โดยในปี 2559 บริษัทมีต้นทุนขาย 1,126.49 ล้านบาท ปี 2560 จำนวน 1,125.81 ล้านบาท และปี 2561 จำนวน 1,097.14 ล้านบาท

ขณะที่รายจ่ายรวม(รวมต้นทุนขาย)ในปี 2559 อยู่ที่  1,414.516 ล้านบาท ปี 2560 จำนวน 1,408.157 ล้านบาท และปี 2561 จำนวน 1,422.449 ล้านบาท

จากรายจ่ายที่สูงใกล้เคียงกับรายได้ ทำให้ในแต่ละปี อิเซตัน มีกำไรก่อนหักภาษีไม่มากนัก โดยในปี 2559 มีกำไรก่อนหักภาษี 7.79 ล้านบาท ปี 2560 จำนวน 15.76 ล้านบาท และปี 2561 จำนวน 31.94 ล้านบาท