หลังจากที่ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด19 (ศบค.) ประกาศเมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2563 เห็นชอบในหลักการแนวทางการเปิดประเทศเพื่อการท่องเที่ยวอย่างจำกัด หรือ Travel Bubble ตามที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้นำเสนอ อย่างไรก็ตามแม้จะเห็นชอบในหลักการแล้ว แต่รายละเอียดต่างๆต้องมีกรรมการชุดย่อยทำการบ้านออกมาเพื่อให้มั่นใจว่าประชาชนทั่วไปต้องเข้าใจและได้รับประโยชน์ด้วย
ถือเป็นความคืบหน้ารับการคลายล็อกดาวน์เฟส 4 ของประเทศไทย และน่าจะช่วยให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยเริ่มมีความหวังกันขึ้นบ้าง จากการส่งสัญญาณรับหลักการแนวทางการเปิดประเทศเพื่อการท่องเที่ยวอย่างจำกัด หรือ Travel Bubble
ส่วนใครที่ยังไม่รู้ว่าแนวทางการเปิดประเทศเพื่อการท่องเที่ยวอย่างจำกัดหรือ Travel Bubble คืออะไรนั้น วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจให้ทราบโดยทั่วกัน
Travel Bubble หรือ แนวทางการเปิดประเทศเพื่อการท่องเที่ยวอย่างจำกัด คือ การเชื่อมต่อการเดินทางระหว่าง 2 ประเทศ ที่สามารถจัดการโรคไวรัสโควิด-19 ได้ดีเท่า ๆ กัน โดยดูจากสถานการณ์การระบาดในประเทศว่ามีการผ่อนคลายการควบคุมโรคแล้วหรือไม่ มีการควบคุมการเดินทางระหว่างประเทศอยู่หรือไม่ และดูเรื่องความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่มีต่อกันด้วย
ผู้เดินทางภายใต้ความตกลง Travel Bubble หรือ แนวทางการเปิดประเทศเพื่อการท่องเที่ยวอย่างจำกัด ไม่ต้องถูกกักตัว แต่ทั้ง 2 ฝ่าย จะกำหนดจำนวนคนที่อนุญาตให้เดินทางแลกเปลี่ยนกัน และจัดการแบบพิเศษในเรื่องการขอวีซ่า การโดยสารเครื่องบิน ที่พัก การเยี่ยมเยือน การมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคล และผู้รับประกัน
Travel Bubble หรือ แนวทางการเปิดประเทศเพื่อการท่องเที่ยวอย่างจำกัด จะทำได้ต่อเมื่อประเทศคู่ตกลงไม่มีผู้ติดเชื้อแล้ว หรือมีจำนวนผู้ติดเชื้อใกล้เคียงกัน มีการจัดการที่ชัดเจนและมีประสิทธิภาพเท่า ๆ กัน ดังนั้น ทั้ง 2 ประเทศจะต้องมีความเชื่อมั่นในการจัดการโรคโควิด-19 ซึ่งกันและกัน มีมาตรการตรวจหาเชื้อและป้องกันอย่างเข้มงวด โดยต้องตรวจหาเชื้อก่อนออกนอกประเทศต้นทาง และตรวจอีกครั้งเมื่อเดินทางเข้าสู่ประเทศปลายทาง
ส่วนกลุ่มเป้าหมาย Travel Bubble ของไทยคือ กลุ่มนักธุรกิจ เป็นกลุ่มที่มีศักยภาพในการใช้จ่ายที่สูงกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป ,สามารถตัดสินใจเดินทางได้ทันที ,เป็นการสร้างและขยายโอกาสจากนโยบายส่งเสริมการค้าและการลงทุน ,มีหนังสือรับรองจากบริษัท
กลุ่มเป้าหมายอีกหนึ่งกลุ่มคือ กลุ่มผู้รับบริการตรวจรักษาทางการแพทย์ เนื่องจากมีศักยภาพทางการใช้จ่ายโดยเฉลี่ยสูงกว่านักท่องเที่ยวทั่วไป ,มีความจำเป็นในการเดินทาง,มีฐานตลาดกลุ่มรักษาสุขภาพจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะเมียนมาร์และกัมพูชา ,มีหนังสือรับรองจากโรงพยาบาล
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องมติ ศบค. เปิดประเทศเพื่อการท่องเที่ยวอย่างจำกัด
สิงคโปร์เริ่ม Travel Bubble กับ จีน 8 มิ.ย.นี้
ขณะที่ประเทศเป้าหมายในระยะแรกประกอบไปด้วย จีน (รวมฮ่องกง ,มาเก๊า)โดยมีการหารือแล้วกับภาครัฐระดับเมืองของจีนและสำนักงานพาณิชย์ของฮ่องกงแสดงความประสงค์ที่จะหารือกับฝ่ายไทยต่อให้เกิดTravel Bubble ระหว่างกัน เช่นเดียวกับเวียดนาม มีการหารือแล้วกับ Viatnam National Administation of Tourism ( VNAT) ซึ่งแสดงความสนใจที่จะหารือกับประเทศไทยต่อ นอกจากนั้นแล้วยังมีประเทศอื่นๆที่กำลังหารือ อาทิ ญี่ปุ่น ,เกาหลีใต้,ไต้หวัน ,ออสเตรเลีย,นิวซีแลนด์,สปป.ลาว,เมียนมาร์,กัมพูชา,ตะวันออกกลาง
ทั้งหมดนี้ถือเป็นแนวทางและความคืบหน้าโดยคร่าวๆของTravel Bubble ซึ่งหลังจากนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจะต้องไปกำหนดรายละเอียดที่ชัดเจนต่อไป
ส่วนตัวอย่างของประเทศที่มีการทำ Travel Bubble นั้น ได้แก่ สิงค์โปร์ -จีน (บางเมือง) เริ่มตั้งแต่ 8 มิถุนายน ,ออสเตรเลีย -นิวซีแลนด์ เริ่มกันยายนนี้ , อิสราเอล - กรีซ/ไซปรัส ,กลุ่มประเทศบอลติก - เอสโตเนีย ลัตเวีย ลิธัวเนีย เริ่ม 15 พฤษภาคม ,จอร์เจีย - บางประเทศ ,ออสเตรีย -ลิกเตนสไตน์ -สวิตเซอร์แลนด์-เยอรมนี เริ่ม 15 มิถุนายน ,เดนมาร์ก -นอร์เวย์ เริ่ม 15 มิถุนายน