“Travel Bubble” เสี่ยง แต่(ต้อง)คุมได้

15 มิ.ย. 2563 | 10:45 น.

อดีตรมต.ท่องเที่ยว “วีระศักดิ์” เผย Travel Bubble: เสี่ยง แต่(ต้อง) คุมได้ ย้ำต้องรักษามาตฐานเรื่องวินัย จากผู้เดินทาง ผู้ประกอบการ และเจ้าหน้าที่ในทุกจุดทุกกิจกรรม

นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า (ทราเวล บับเบิ้ล)Travel Bubble : เสี่ยง แต่(ต้อง) คุมได้

Travel bubble ในยุโรปและพื้นที่อื่นของโลกก็กำลังเริ่มดำเนินการกันในกลางหรือปลายเดือนนี้ ส่วนที่ไทยจะจับคู่กับประเทศหรือเมืองหรือพื้นที่ใดนั้น ก็ยังไม่สำคัญเท่ากับการสามารถจะรักษาระดับมาตรฐานของ "วินัย"

แปลว่าการสื่อสารของผู้เกี่ยวข้องต้องตระเตรียมการให้ดี เพราะเราต้องใช้ "วินัย" ทั้งจากผู้เดินทาง จากผู้ประกอบการ และจากเจ้าหน้าที่ของทางการในทุกจุดทุกกิจกรรมที่นักเดินทางต่างประเทศเหล่านั้นไปถึง หรือแม้แต่แตะต้อง

เดิมพันของการทำ Travel bubble คือการเสี่ยงต่อการระบาดใหม่เสมอ

“Travel Bubble” เสี่ยง แต่(ต้อง)คุมได้
การดำเนินการตาม ความตกลง Travel bubble จึงควรมุ่งไปที่เป้าของการฝึกระบบ เพื่อรับชาวต่างชาติในจำนวนที่เราจะยังร่วมกันและเท่าๆกันในการรักษาระดับมาตรฐานวินัยไว้ให้ได้

ถ้าทำได้ดีไประยะหนึ่ง จึงค่อยคิดจะเพิ่มปริมาณการรับนักเดินทางต่างประเทศโดยค่อยๆขยับระดับจำนวนคนที่จะอนุญาตให้เข้ากระบวนการคัดกรองต่อวันและต่อเที่ยวบิน

อีกสิ่งที่ต้องจัดการให้ดีคืออย่าปล่อยให้เกิด"คิว"ยาวโดยขาดการดูแลที่ดี เพราะนอกจากจะไม่สร้างความประทับใจที่ดีแล้วยังจะกลายเป็นความเสี่ยงให้เกิดการฝ่าฝืนระบบได้

ทั้งต้องคิดมาตรการล่วงหน้าในกรณีหากผู้เดินทางเข้ามา ฝ่าฝืนหรือมิได้ให้ข้อมูลแก่ระบบ tracking  ว่าใครจะต้องรับผิดชอบเพื่อทำอะไรและอย่างไรต่อไป

เช่นแจ้งไว้ว่าจะมาตรวจเยี่ยมโรงงานในไทย แต่แล้วแอบไปพื้นที่เสี่ยงนอกแผนนอกเส้นทางที่บอกกล่าวไว้ หรืออาจมีกรณีที่ตรวจความปลอดเชื้อแล้วเดินทางมุ่งมาไทยแต่มีการต้องพัก"รอเปลี่ยนเครื่อง"ก่อนบินเข้าไทย ซึ่งก็เป็นความเสี่ยงติดเชื้อใหม่โดยยังไม่แสดงอาการในไม่กี่ชั่วโมงแรก เป็นต้น

ดังนั้นกำไรที่หากจะได้จากปฏิบัติการ "Travel bubble" จึงควรมุ่งที่  กำไรในการสร้างความสามารถยกระดับมาตรฐานของ"วินัย"ให้สูงไว้  ไม่ใช่การยกรายได้ให้สูงก่อนเป็นสำคัญ

“Travel Bubble” เสี่ยง แต่(ต้อง)คุมได้

เพราะถึงอย่างไร ปริมาณนักเดินทางต่างชาติที่จะรับอนุญาตให้เข้าราชอาณาจักรมาก็จะมีสัดส่วนเชิงปริมาณที่น้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนนักเดินทางในอดีต จนยากมากที่จะแจกจ่ายรายรับให้ถึง supply chainของผู้ประกอบการได้ทั่วถึงหรือเพียงพอ

สิ่งที่อยากเร่งมากอีกด้านคือการทำให้แน่ใจว่า "สินเชื่อ" ไปให้ถึงมือผู้ประกอบการต่างหาก สำหรับสภาวะขณะนี้

แต่ Travel bubble ก็ยังต้องขยับทำไปเรื่อยๆเพราะนั่นคือขั้นบันไดแรกๆที่เราต้องร่วมกันฝึกให้ดีเพื่อไต่ข้ามเขาลูกนี้จากช่วงอยู่ให้รอด มาเป็นช่วง"อยู่ให้เป็น"ซึ่งคงอีกยาวนานหลายๆเดือนจนกว่าวัคซีนจะเข้าถึงประชากรทั้งโลก

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ทำความรู้จัก "Travel Bubble ".. เปิดประเทศเพื่อการท่องเที่ยวอย่างจำกัด

หนักใจ "Travel Bubble" ศบค.โชว์ตัวเลขทั้งโลกติดโควิดเพิ่มหลักแสน

"Travel Bubble" เคาะพรุ่งนี้ "บิ๊กตู่" ย้ำชัด "ท่องเที่ยวอย่างจำกัด"

จุดสมดุลย์ที่ต้องคำนึง ระหว่างการจะนำ travel bubble เข้ามาใช้ในประเทศไทย ว่า เดิมพันต่อการระบาดใหม่ที่ไทยคงจะไม่มีกำลังงบประมาณสำหรับแจกช่วยอย่างหนที่เพิ่งเกิดไปแล้ว

ดังนั้นไทยควรมอง travel bubble แบบแบ่งซอยขั้นบันไดทีละก้าวช้าๆโดยควรเริ่มจากระดับbubleไทยเที่ยวไทยในระดับภายในกันเอง ในระดับกลุ่มจังหวัดกันเอง  ภายในประเทศกันเอง เพื่อตรวจสอบมาตรฐานวินัยที่ดีของฝ่ายต่างๆตั้งแต่ ความมีวินัยของคนเดินทางจนถึงผู้ให้บริการขนส่ง  ของสถานประกอบการและของการจัดการแหล่งท่องเที่ยวให้ดีให้ได้เสียก่อน

ส่วนการเข้ามาของชาวต่างประเทศนั้น ยังไรก็ต้องเตรียมรับกลุ่มคนต่างชาติที่มีถิ่นพำนักถาวรในไทย เช่นกลุ่มเขยอีสาน หรือคนไทยในต่างแดนให้กลับเข้ามาอยู่กับครอบครัวของเขาให้ได้เรียบร้อยก่อน

การบริหารปริมาณการเข้าเมืองแบบขยับเพิ่มทีละน้อยจะช่วยให้ไม่พลาดจนเกิดการระบาดใหม่แบบควบคุมไม่ทัน

อย่างไรก็ตาม มีอีก2 ข้อเท็จจริงที่สังคมไทยพึงตระหนักคือ ในทางการแพทย์ พบว่ามีผู้ติดเชื้อที่จะไม่แสดงอาการใดๆเลยอยู่เนืองๆ จึงต้องเผื่อใจรับทราบความเสี่ยงนี้

อีกข้อเท็จจริง คือแม้ยังไม่เปิดการบินในระดับปกติ แต่การควบคุมการข้ามชายแดนตามช่องทางธรรมชาติก็เป็นอีกเหตุที่นำเชื้อเข้ามาในสังคมได้เสมอ

Travel bubble จึงยังมีขั้นบันไดให้ได้ฝึกคิด ฝึกซ้อมอีกหลายขั้นมาก กว่าจะไปถึงระดับนักท่องเที่ยวทั่วไปได้ ยังมีบันไดขั้นที่จะรับเฉพาะระดับนักลงทุนที่มีโรงงานในไทย

ขั้นที่รับเฉพาะผู้มุ่งมาจ่ายเพื่อรับบริการการแพทย์อย่างชัดเจนในไทยโดยพร้อมรับค่าใช้จ่ายของตนเอง ยังมีขั้นที่อาจเลือกรับเฉพาะกลุ่มนักธุรกิจที่มาร่วมประชุม ร่วมสัมมนาและงานแสดงสินค้านานาชาติ (MICE) มีขั้นที่เลือกรับเฉพาะกลุ่มท่องเที่ยวใช้จ่ายสูงๆเป็นการเฉพาะ

แต่ไม่ว่ากรณีใดในขั้นบันไดใด เราก็ต้องคำนึงถึงความสามารถจัดการที่จะไม่ให้เกิดการระบาดใหม่เสมอ รายได้จากการท่องเที่ยวจากช่วงไต่บันไดนั้น..ยังไงก็ไม่มีทางเพียงพอให้อิ่มในทางเศรษฐกิจแน่ แต่จะเป็นประโยชน์ในการตรวจสอบความสามารถด้านวินัยที่ทุกฝ่าย"การด์ไม่ตก"เป็นหลัก

ส่วนการกระตุ้นหรือฟื้นฟูประคองเศรษฐกิจนั้น ต้องใช้เงินที่ออกพรก.กู้เงินมาให้เกิดการจ้างงานคนว่างงานตัวเล็กๆให้กว้างขวางให้เกิดกิจกรรมเศรษฐกิจกระจายรายได้ไปกว้างๆผลักดันให้เงินสินเชื่อไปถึงผู้ประกอบการที่ยังมีอนาคตไม่แห้งเฉาไปก่อน บริหารให้มีเงินสมทบจากรัฐในการพา reskill - upskill เพื่อเปลี่ยนงานเปลี่ยนอาชีพ อุโมงค์โควิด19 ยังต้องอีกยาวนับปี เราจึงต้องตื่นตัว ตระเตรียมหลายๆวิธีอย่างแยกแยะและตรวจความพร้อมเสมอ