นายจาง เจิ้งฮุ้ย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไฮเออร์ อีเลคทริคอล แอพพลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้วางกลยุทธ์การตลาดในช่วงครึ่งปีหลังนี้ด้วยการเตรียมแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยชูจุดเด่นด้านคุณภาพสินค้า ดีไซน์ที่สวยงาม นวัตกรรมล้ำสมัย และฟังก์ชันที่สร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค รวมถึงมีผลิตภัณฑ์ Haier Smart Home เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ อีกทั้งจะทุ่มงบการตลาด 170 ล้านบาท เพื่อสร้างการรับรู้และส่งเสริมการขายทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ ขยายช่องทางการตลาด เจาะกลุ่มธุรกิจ B2B ปรับภาพลักษณ์ร้านตัวแทนจำหน่าย และพัฒนาบริการทั้งก่อนและหลังการขายให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังได้เตรียมฉลองครบรอบ 1 ปี Haier Brand Shop สาขารัชดา ด้วยการจัดกิจกรรมเฉลิมฉลองเพื่อเป็นการคืนกำไรและขอบคุณลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ไฮเออร์ ด้วยการขนทัพสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้ากว่า 30 รายการ จัด Haier Live Surprise ลดสูงสุดถึง 30% หลังจากที่ผ่านมาเครื่องใช้ไฟฟ้าไฮเออร์ได้รับการตอบรับอย่างดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากผู้บริโภคในไทย เห็นได้จากยอดจำหน่ายที่สูงขึ้นทุกปี จึงได้เปิดตัว Haier Brand Shop แห่งแรกในไทยเมื่อปี 2562 เพื่อเป็นศูนย์รวมเครื่องใช้ไฟฟ้าไฮเออร์ทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องปรับอากาศ เครื่องซักผ้า ตู้เย็น ตู้แช่ โทรทัศน์ เครื่องทำน้ำอุ่น และเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว รวมถึงเป็น Experience Center จัดแสดงสินค้านวัตกรรมในกลุ่ม Haier Smart Home เพื่อขยายตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าสมาร์ทโฮมและอีโคซิสเต็ม รุกตลาดในช่วงครึ่งปีหลังอย่างต่อเนื่อง พร้อมตั้งเป้ายอดขายปีนี้เติบโตเพิ่มขึ้น 38 %
“แม้สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค แต่ไฮเออร์ยังมียอดขายเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์ เครื่องปรับอากาศและตู้เย็น ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้ายอดขายรวมปีนี้ 6,530 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38% จากปี 2563”
อย่างไรก็ตามปัจจุบัน Haier Brand Shop มี 2 สาขาในประเทศไทย คือ สาขาอาคารภคินท์ ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพฯ มีพื้นที่กว่า 500 ตารางเมตร และสาขาศาลหลักเมือง จังหวัดขอนแก่น โดยร่วมกับตัวแทนจำหน่ายคือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ขอนแก่นไทยแลนด์ และเป็นสาขาที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีพื้นที่กว่า 600 ตารางเมตร โดยบริษัทมีแผนจะเปิดเพิ่มรวม 20 สาขา ภายในปี 2565