ธุรกิจ“โรงแรมไทย”ต้องปรับกลยุทธ์รับ “ไทยเที่ยวไทย”

16 ก.ค. 2563 | 04:32 น.
อัปเดตล่าสุด :16 ก.ค. 2563 | 11:39 น.

SiteMinder เผย ผู้ประกอบการธุรกิจ โรงแรมในประเทศไทย ต้องปรับกลยุทธ์ใหม่ ทั้งในด้านการตลาด การขาย รวมไปถึง การดำเนินการ เพื่อตอบรับการท่องเที่ยวภายในประเทศ (ไทยเที่ยวไทย) ที่เปลี่ยนไป

รายงานเกี่ยวกับการท่องเที่ยวฉบับล่าสุด ซึ่งจัดทำขึ้นโดย SiteMinder ผู้นำแพลตฟอร์มตัวกลางระดับโลกในการเข้าถึงลูกค้าให้กับธุรกิจโรงแรม เผยให้เห็นถึง ความจำเป็นที่ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมในประเทศไทยต้องปรับกลยุทธ์ทั้งในด้านการตลาด การขาย และการดำเนินการเพื่อรองรับการท่องเที่ยวภายในประเทศ (ไทยเที่ยวไทย) ที่กำลังจะเพิ่มสูงขึ้น

 Changing Traveller Report ฉบับล่าสุดจาก SiteMinder มีผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 600 คน ชี้ให้เห็นว่า คนไทยเกือบ 2 ใน 3 ที่ตอบแบบสอบถามกำลังวางแผนที่จะเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ โดยเกือบ 10% ของจำนวนดังกล่าวมีการจองห้องพักเป็นที่เรียบร้อย นอกจากนี้ยังพบว่ากว่า 74% ของผู้ตอบแบบสอบถามวางแผนที่จะท่องเที่ยวภายในสิ้นปี และกว่า 42% ในจำนวนนี้ วางแผนที่จะท่องเที่ยวในช่วง 3 เดือนข้างหน้า

ธุรกิจ“โรงแรมไทย”ต้องปรับกลยุทธ์รับ “ไทยเที่ยวไทย”

 ผลจากรายงานสอดคล้องกับการประกาศของรัฐบาลในการออก แพคเกจกระตุ้นไทยเที่ยวไทย ด้วยงบกว่า 22,400 ล้านบาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและบรรเทาผลกระทบที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศไทยได้รับจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า

มร.  แบรด ไฮนส์, รองประธานกรรมการบริษัท SiteMinder ประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค กล่าวว่า ‘ผลจากรายงานแสดงให้เห็นถึงทิศทางธุรกิจในอนาคตที่ดีขึ้นสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมในประเทศ ซึ่งแน่นอนว่ากำลังต้องการการสนับสนุนจากคนไทยมากกว่าครั้งไหนๆ อย่างไรก็ตามรายงานยังแสดงให้เห็นถึงความจำเป็นที่ผู้ประกอบการจะต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการทำธุรกิจเพื่อรองรับการท่องเที่ยวที่จะเพิ่มขึ้น’

 ‘แม้ว่าปัจจุบัน นักท่องเที่ยวส่วนมากที่เดินทางเข้าพักโรงแรมในประเทศไทยจะเป็นนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการโรงแรมต้องไม่ลืมที่จะวางกลยุทธ์และการดำเนินงานเพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าคนไทยในประเทศ ซึ่งผลจากการสำรวจของเราเป็นเครื่องยืนยันได้ดีถึงความสำคัญของการเข้าถึงนักท่องเที่ยวในประเทศที่กำลังวางแผนท่องเที่ยว ในขณะที่การเดินทางเข้าออกระหว่างประเทศยังคงถูกระงับเป็นส่วนใหญ่’ มร.  แบรด ไฮนส์ กล่าวเสริม

 “แม้เทรนด์การจับคู่ท่องเที่ยวระหว่างประเทศหรือที่รู้จักกันว่า ‘travel bubble’ มีแนวโน้มที่จะช่วยเพิ่มจำนวนการจองห้องพักของนักท่องเที่ยวที่มาจากต่างประเทศในช่วงสองถึงสามเดือนข้างหน้าให้กับธุรกิจโรงแรม อย่างไรก็ตามนักท่องเที่ยวคนไทยก็เป็นกลุ่มลูกค้าที่ธุรกิจโรงแรมไม่ควรมองข้ามเนื่องจากเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่จะมีผลสำคัญต่อการฟื้นตัวของธุรกิจหลังการแพร่ระบาดในครั้งนี้ ผลการศึกษาของเรายังบอก   อีกว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลไทยมีผลต่อการตัดสินใจของนักท่องเที่ยวคนไทยอย่างมาก และ SiteMinder ก็รู้สึกยินดีที่คนไทยให้ความสนใจกับการท่องเที่ยวภายในประเทศซึ่งเป็นส่วนสำคัญต่อภาคธุรกิจโรงแรมที่พักและสภาพเศรษฐกิจที่ดีของทั้งประเทศ”

 ผลการสำรวจยังพบว่า หลังสถานการณ์โควิด นักท่องเที่ยวไทย กว่า 47% จะใช้เวลาในช่วงวันหยุดสั้นลง และเหลือเพียงแค่ 11% เท่านั้นที่จะใช้เวลาท่องเที่ยวนานขึ้น สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวคือการส่งเสริมเรื่องสุขภาพและมาตรการความปลอดภัย โดยจำนวนมากกว่าครึ่งหรือ 52% เห็นว่าปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการจองที่พัก คือ มาตรการด้านความปลอดภัยและสุขภาพ ปัจจัยสำคัญรองลงมาคือนโยบายการยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงการจองห้องพักโดยไม่เสียค่าธรรมเนียม( 21%) และเกือบ 3 ใน 5 ของทริปท่องเที่ยว จะถูกวางแผนภายในเดือนเดียวกับที่คนออกเดินทาง