หมดยุคชาเขียว "อิชิตัน" เสริมแกร่ง Non-Tea เจาะตลาด

นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากแนวโน้มการเติบในตลาดน้ำดื่มวิตามินเมืองไทยที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยหลักในการผลักดันมาจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ทำให้ยุทธศาสตร์หลักของบริษัทนับจากนี้จะโฟกัสไปที่การขยายพอร์ตสินค้าของบริษัทไปยังกลุ่มเครื่องดื่มที่ไม่ใช่ชาเขียวมากขึ้น (Non-Tea) ภายใต้แผนงาน3N คือ New product, New market และ New business เพื่อสร้างความหลากหลายให้แก่ผลิตภัณฑ์สินค้าของบริษัท พร้อมทั้งรองรับความต้องการของผู้บริโคยุคนี้ให้ตรงจุดมากที่สุด  ขณะเดียวกันก็เป็นหนึ่งในนโยบายของบริษัทต้องการมีสินค้าใหม่ที่หลากหลาย เพื่อขยายการเติบโตเนื่องจากภาพรวมของตลาดชาเขียวมีการเติบโตที่คงตัวแล้ว

“เมื่อ 3-4 ปีที่แล้ว อิชิตัน ต้องเจอกับปัญหาภาษี ทำให้ยอดขายลดลง กำไรเหลือเพียง 44 ล้านบาท จากที่เคยทำ “กำไร” ได้สูงสุดถึง 800 ล้านบาท จึงดึง​ กลยุทธ์ 3 N  คือสินค้าใหม่ (New Product) ตลาดใหม่ (New Market) และธุรกิจใหม่ (New Business) กลับมา​เริ่มใหม่”

ทั้งนี้แผนงานในการเจาะตลาดน้ำดื่มวิตามิน (ในกลุ่มน้ำเปล่า) ของบริษัทที่มีผู้เล่นในปัจจุบันราว 5 ราย อาทิ ยันฮี ฯลฯ โดย“อิชิตัน วิตามิน วอเตอร์ ซี พลัส อี” (ICHITAN Vitamin Water C Plus E) เป็นสินค้ากลุ่ม Non-Tea ตอบโจทย์การขยายพอร์ตโฟลิโอล่าสุดของอิชิตัน กรุ๊ป ด้วยจุดเด่น​เป็นเครื่องดื่มที่ผสานประโยชน์วิตามิน ซี 200% เต็มแม็กซ์กับวิตามินอี  40% เต็มพิกัด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานคู่กันในการช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันร่างกายให้แข็งแรง ป้องกันโรคหวัด 0 แคลอรี่ 0 โซเดียม และ 0 น้ำตาลเพื่อตอบโจทย์กระแสการดูแลสุขภาพที่กลายเป็นสิ่งสำคัญ​ของโลกปัจจุบัน

 “ตอนนี้อิชิตันมีเครื่องจักรผลิตสินค้า 7 เครื่อง (มูลค่าการลงทุนต่อเครื่องประมาณ 1000 ล้าน) ซึ่งเป็นทั้งจุดแข็งที่สุดของตลาดในเรื่องกำลังผลิต และเป็นจุดอ่อนเนื่องจากปกติจะใช้กำลังผลิต 100% เมื่อยอดขายลดลงจึงกลายเป็นภาระ ตอนนี้กำลังผลิตอยู่ที่ 45-55% ซึ่งส่วนที่เหลือประมาณ 45 % จะใช้ผลิตเครื่องดื่ม Non-Tea ซึ่งถือว่าเป็นการปรับไลน์เครื่องจักรให้เหมาะสมกับสถานการณ์”

 สำหรับกลยุทธ์ในส่วนของเครื่องดื่ม Non-Tea จะเติมเต็มฤดูการขายของอิชิตันให้สมบูรณ์ ในขณะที่ชาพร้อมดื่มทำหน้าที่ขายดีในหน้าร้อน ส่วนผลิตภัณฑ์กลุ่ม Non-Tea ประเภทเครื่องดื่มผสมวิตามินจะเข้ามาเติมรายได้ในหน้าฝน และหน้าหนาว เพราะเป็นฤดูที่สภาพอากาศส่งผลต่อสุขภาพของคนไทย อิชิตัน​ จึงได้ส่งน้ำด่าง 8.5 ผสมวิตามินบีรวม (ICHITAN PH PLUS 8.5) เข้าสู่ตลาดเครื่องดื่มผสมวิตามิน เมื่อกลางปีซึ่งได้รับกระแสตอบรับในทิศทางที่ดีส่งผลบวกต่อผลกำไรให้มีการเติบโตและสนับสนุนภาพรวมผลประกอบการของ จึงทำให้ไม่ได้รับผลกระทบจาก สถานการณ์โควิดมากนัก       

ล่าสุดอิชิตันจึงได้เปิดตัว อิชิตัน วิตามิน วอเตอร์ ซี พลัส อี (ICHITAN Vitamin Water C Plus E) สินค้าในกล่ม Non-Tea ที่มีวิตามิน C 200% และวิตามิน E 40% มีคุณสมบัติช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย ป้องกันโรคหวัด ไม่มีแคลอรี่ ไม่มีโซเดียม และผสมน้ำตาล เจาะตลาดทั้ง Modern Trade และTraditional Trade พร้อมกันนี้ยังได้ดึงครอบครัวขวัญใจคนไทย ลิเดีย-แมทธิว-น้องดีแลน-และน้องเดมี่ ดีน มาเป็นพรีเซ็นเตอร์​ สะท้อนภาพลักษณ์ผู้บริโภคที่ห่วงใยในการดูแลสุขภาพทั้งของตัวเอง และคนที่รักในครอบครัวในปัจจุบัน โดยวางเป้าหมายขายกลุ่ม Non-Tea ที่ 400 ล้านบาทในสิ้นปีนี้ หรือ 1,000 ล้านบาทในอีก 1 ข้างหน้า

อย่างไรก็ตามสำหรับภาพรวมตลาดน้ำดื่ม 8 เดือนแรกมีมูลค่ากว่า 18,956 ล้านบาทหดตัวลงถึง 6.3% จากผลกระทบด้านปัจจัยทางเศรษฐกิจและกำลังซื้อ แบ่งเป็นตลาดน้ำแร่มูลค่า 2,381 ล้านบาท หดตัว 24.2% ,น้ำเปล่า 15,371 ล้านบาท หดตัว 3% โดยในส่วนของเซกเมนต์ย่อยอย่างน้ำดื่มบรรจุขวดหดตัว 6.3% ขณะที่น้ำดื่มผสมวิตามินมูลค่า 1,203 ล้านบาท เติบโตสวนกระแสถึง 75.1% และยังมีศักยภาพที่จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง ตามเทรนด์ผู้บริโภคที่ให้ความสนใจดูแลสุขภาพ โดยประเมินว่าปีหน้าภาพรวมตลาดน้ำดื่มผสมวิตามินจะเติบโตแบบก้าวกระโดด และมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากความต้องการตลาด ความเชื่อมั่นของผู้บริโภค

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'อิชิตัน' กางแผนบุกเฮลตี้ ฟื้นยอดครึ่งปีหลัง

เสี่ยตัน คลายล็อกธุรกิจ ส่ง 2 น้องใหม่ รุกตลาดสุขภาพ