ในการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 หรือ ศบศ. ในวันที่ 2 ธันวาคมนี้ ที่ประชุมเห็นชอบ 2 โครงการกระตุ้นการท่องเที่ยว ได้แก่ โครงการ "เที่ยวไทยวัยเก๋า” พร้อมปรับหลักเกณฑ์ “เราเที่ยวด้วยกัน”
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ศบศ.มีมติเห็นชอบมาตรการสนับสนุนการท่องเที่ยวของผู้สูงอายุ ภายใต้ชื่อโครงการ “เที่ยวไทยวัยเก๋า” ซึ่งจะเป็นแพ็คเกจส่งเสริมการท่องเที่ยวกลุ่มผู้สูงอายุ โดยใช้รูปแบบการดำเนินงานในรูปแบบเดียวกันโครงการ “กำลังใจ” ซึ่งจะใช้งบประมาณ 5 พันล้านบาท โดยให้เบิกจ่ายในวงเงินงบประมาณเดิม ภายใต้โครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 1 ล้านคน
ทั้งนี้ผู้เข้าร่วมโครงการ “เที่ยวไทยวัยเก๋า” ต้องมีอายุเกิน 55 ปีขึ้นไป เดินทางท่องเที่ยวข้ามจังหวัดในวันธรรมดา (วันอาทิตย์-พฤหัส) ผ่านบริษัทนำเที่ยว โดยมีราคาแพ็คเกจทัวร์เริ่มต้นขั้นต่ำ 12,500 บาท ระยะเวลาเดินทางท่องเที่ยวอย่างน้อย 3 วัน 2 คืน
“รัฐจะสนับสนุนการเดินทางผ่านบริษัทนำเที่ยวให้กลุ่มผู้สูงอายุ 40% ไม่เกิน 5,000 บาทต่อ 1 คน บริษัทนำเที่ยวสามารถรับนักท่องเที่ยวได้บริษัทละ 3,000 ราย โดยผู้เข้าร่วมโครงการต้องแสดงตนเพื่อรับสิทธิผ่านแอปพลิเคชั่นธนาคารกรุงไทย ส่วนบริษัทนำเที่ยวที่เข้าร่วมโครงการต้องจดทะเบียนก่อนวันที่ 1 มกราคม 2563”
นอกจากนี้ศบศ.ยังเห็นชอบปรับปรุงโครงการ ”เราเที่ยวด้วยกัน” โดยปรับปรุงขอบเขตการใช้สิทธิจำนวนการจองห้องพัก จากเดิมประชาชนจองที่พักได้ไม่เกิน 10 คืน ต่อ 1 สิทธิ สามารถจองเพิ่มอีก 5 คืน เป็น 15 คืน ต่อ 1 สิทธิ การเพิ่มจำนวนห้องพักจากเดิม 5 ล้านคืน เป็น 6 ล้านคืน ทั้งนี้จำนวนห้องพักที่เพิ่มมาจะสนับสนุนอี-เวาเชอร์ (วันจันทร์-พฤหัสบดี 900 บาทต่อวัน วันศุกร์-อาทิตย์ 600 บาทต่อวัน)
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
"ผู้สูงวัย" มีเฮ ททท.ชง ศบศ.หนุนรัฐจ่ายค่าแพ็คเกจทัวร์40%ให้เที่ยววันธรรมดา
ไทย”เสียแชมป์แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของคนจีน
ท่องเที่ยวไทย หากยังฟื้น เป็นรูปตัว K ปีหน้าธุรกิจ 50% ปิดตาย
รวมถึงขยายระยะเวลาการใช้สิทธิในโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ไปจนถึงเดือนเมษายน 2564 ขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายโครงการถึงมิถุนายน 2564 ขยายระยะเวลาการจองที่พัก จากเวลา 06.00-21.00 น.เป็น06.00-24.00 น. การเพิ่มโรงแรมที่พักที่ไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบการโรงแรม แต่ต้องมีหมายเลขประจำตัวของผู้เสียภาษีและมีการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ให้สามารถเข้าร่วมโครงการได้ การอนุมัติให้ธุรกิจขนส่ง ธุรกิจสปาหรือนวดเพื่อสุขภาพ รถเช่า และเรือ สามารถใช้อี-เวาเชอร์ได้
อีกทั้งยังปรับเกณฑ์การสนับสนุนค่าบัตรโดยสารเครื่องบิน การจองเฉพาะเมืองหลักทางการท่องเที่ยว ได้แก่ ภูเก็ต,กระบี่,พังงา,สงขลา,สุราษฏร์ธานี,เชียงใหม่และเชียงราย ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จะได้เงินคืนจากรัฐบาล 40% แต่ไม่เกิน 3,000 บาทต่อที่นั่ง การกำหนดหลักเกณฑ์การลาสำหรับข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง พนักงานรัฐวิสาหกิจ ให้สามารถลาพักร้อนในวันธรรมดาเพิ่มได้ 2 วัน โดยไม่ถือว่าเป็นวันลา เมื่อใช้สิทธิในโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน”
โดยมติศบศ.จะต้องนำเสนอครม.เพื่อเห็นขอบต่อไป