"เราเที่ยวด้วยกัน"หลังครม.ไฟเขียวให้ปรับปรุงเงื่อนไขของโครงการใหม่ ไปเมื่อวันที่ 8ธ.ค.63 ล่าสุดมีความชัดเจนแล้วว่าเงื่อนไขใหม่ จะเปิดให้เริ่มรับสิทธิได้ในวันที่ 16 ธ.ค.63 โดยเพิ่มที่พักให้จองเพิ่มได้อีก1ล้านสิทธิ จากสิทธิเดิมที่เหลือเพียง 1.9 แสนคืน เปิดให้จองพักสุดสุด 15 คืน อุดหนุนค่าตั๋วเครื่องบินเพิ่มสูงสุดไม่เกิน3พันบาทต่อสิทธิ เฉพาะ7เส้นทางบินเมืองท่องเที่ยวหลัก
ล่าสุด ณ วันที่9 ธันวาคม 2563 พบว่าโครงการ " เราเที่ยวด้วยกัน" ตามที่ระบุในเว็บไซต์ เราเที่ยวด้วยกัน.com รายงานจำนวนสิทธิการจองที่พักคงเหลืออยู่ที่ 196,873 คืน จากสิทธิเดิมที่มีทั้งหมด5ล้านคืน ส่วนตั๋วเครื่องบินมีจำนวนสิทธิเหลือ 1,683,910ใบจากสิทธิที่มีทั้งหมด 2ล้านใบ
แต่นับจากวันที่16ธันวาคมนี้ ตั้งแต่เวลา 06.00 น.เป็นต้นไป ระบบการจองในเว็บไซต์ เราเที่ยวด้วยกัน.com จะมีการเพิ่มสิทธิให้อีก1ล้านสิทธิ ตามการปรับปรุงเงื่อนไขใหม่ของโครงการ"เราเที่ยวด้วยกัน" เพื่อกระตุ้นการเดินทางเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้น ที่จะมี 3 สิทธิ ได้แก่
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
เที่ยวไทยวัยเก๋า" รอก่อน "เราเที่ยวด้วยกัน"เงื่อนไขใหม่ แซงเข้าครม.วันนี้
สูงวัยเฮ ศบศ.ไฟเขียว 5 พันบาท “เที่ยวไทยวัยเก๋า”ปรับเกณฑ์ “เราเที่ยวด้วยกัน”
ทัวร์หมื่นรายเด้งรับ “เที่ยวไทยวัยเก๋า” ผู้สูงอายุเที่ยวไทยรับสิทธิ์ 5 พันบาท
เพิ่มสิทธิที่1 ส่วนลดค่าที่พัก40% จำนวน15 ห้องหรือคืน
สิทธิที่2 คูปองอาหาร/ท่องเที่ยวสูงสุดต่อวัน 900บาทสำหรับวันจันทร์-พฤหัส 600บาทสำหรับวันศุกร์-อาทิตย์
เพิ่มสิทธิที่3 เงินคืนค่าตั๋วเครื่องบิน สูงสุดมูลค่า3,000บาทต่อ1ผู้โดยสาร ในเส้นทางที่กำหนด ได้แก่ ภูเก็ต พังงา กระบี่ สุราษฎร์ธานี สงขลา เชียงใหม่ และเชียงราย
การปรับปรุงโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ภายใต้ เงื่อนไขใหม่ เป็นไปตามความเห็นชอบจาก ครม.เมื่อวันที่ 8ธ.ค.63 ที่ประกอบไปด้วย
1. ปรับปรุงขอบเขตการใช้สิทธิจำนวนการจองห้องพักจากเดิมประชาชนจองที่พักได้ไม่เกิน 10 คืน (Room night) ต่อ 1 สิทธิ เพิ่มเป็น 15 คืน (Room night) ต่อ 1 สิทธิ
2. เพิ่มจำนวนห้องพักในโครงการจากเดิม 5 ล้านคืน เป็น 6 ล้านคืน
3. ขยายระยะเวลาการใช้สิทธิโครงการถึง 30 เมษายน 2564
4. ขยายช่วงเวลาการจองที่พัก จากเวลา 06.00 – 21.00 น. เป็นเวลา 06.00 – 24.00 น.
5. เพิ่มโรงแรมที่ไม่มีใบอนุญาตฯ ธุรกิจโรงแรม แต่มีหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีและมีการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ให้สามารถเข้าร่วมโครงการได้ เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบการและพยุงการจ้างงาน
โรงแรมที่พักแบ่งออกกลุ่มที่ 1 ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม กลุ่มที่ 2 ยังไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม แต่ได้รับการผ่อนผันตามประกาศหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตามมาตรา 44 ซึ่งมีผลผ่อนผันถึงวันที่ 18 สิงหาคม 2564 สามารถเข้าร่วมโครงการได้
กลุ่มที่ 3 อนุมัติในหลักการ แต่ต้องหารือรายละเอียดกับกระทรวงการคลังต่อไป คือ โรงแรมที่จดทะเบียนถูกต้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และอยู่ในระบบฐานภาษีของกรมสรรพากร โดยเฉพาะจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มถูกต้อง จะได้รับพิจารณาเข้าร่วมโครงการได้ แต่ต้องรอหารือกับกระทรวงการคลังเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์รายละเอียดต่อไป
6. อนุมัติให้ธุรกิจและบริการที่เกี่ยวข้องในห่วงโซ่อุปทานการท่องเที่ยวสามารถใช้ระบบคูปองออนไลน์ (E-Voucher) ได้ ประกอบด้วย ธุรกิจสปา นวดเพื่อสุขภาพหรือธุรกิจการขนส่งภาคท่องเที่ยว
7. ปรับปรุงเกณฑ์สนับสนุนค่าบัตรโดยสารเครื่องบินจากเดิมรัฐสนับสนุน 40% แต่สูงสุดไม่เกิน 2,000 บาทต่อ 1 สิทธิ เป็นสูงสุดไม่เกิน 3,000 บาทต่อ 1 สิทธิ เฉพาะการเดินทางไปท่องเที่ยวในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19
เนื่องการภาคการท่องเที่ยวต้องพึ่งพารายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ ประกอบด้วย ภูเก็ต พังงา กระบี่ สุราษฎร์ธานี สงขลา เชียงใหม่ และเชียงราย
8. กำหนดหลักเกณฑ์การลาสำหรับข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง และพนักงานรัฐวิสาหกิจ สามารถลาพักร้อนในวันธรรมดาเพิ่มได้ 2 วัน โดยไม่ถือเป็นวันลาเมื่อใช้สิทธิในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน