นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่าในวันแรก ของการเปิดให้จองรับสิทธิ์ ภายใต้เงื่อนไขใหม่ของโครงการ“เราเที่ยวด้วยกัน” เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม2563 ททท.ได้มอนิเตอร์สถานการณ์ยอดการจองที่เกิดขึ้น ซึ่งการเปิดจองวันแรก พบว่ามียอดการจองเข้ามาสูงมามาก ขณะที่ในวันที่ 2 ของการเปิดรับสิทธิ์ กลับไม่ได้มียอดจองสูงมากเหมือนในวันแรก
ทั้งนี้ในการ เปิดรับสิทธิ์ใหม่ 1 ล้านคืน ททท.ได้รับได้มอนิเตอร์สถานการณ์การจองที่เกิดขึ้น ก็พบว่ามีรายงานของยอดการจองที่ผิดปกติเข้ามาบ้าง ในบางเคส เช่น บางโรงแรมยอดจองมาก ทั้งๆที่ก็ไม่ได้เป็นโรงแรมที่ได้รับความนิยมมากนัก ซึ่งหากตรวจสอบพบว่าทุจริต ก็จะดำเนินคดี เหมือนรายที่มีการทุจริตไปแล้วก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตามยอดการจองที่เพิ่มสูงมากในวันแรก จากการสอบถามผู้ประกอบการโรงแรม พบว่า น่าจะเป็นบุ๊กกิ้งที่อั้นมาตั้งแต่เมื่อ 2 สัปดาห์ ที่รอจะจองที่พักเพื่อเดินทางท่องเที่ยวช่วงปีใหม่ แต่สิทธิ์ห้องพักเต็ม ดังนั้นเมื่อมีการเพิ่มห้องพักเข้ามาในระบบการจอง “เราเที่ยวด้วยกัน” 1 ล้านคืน ก็ทำให้เกิดการรีบเข้ามาจอง เพราะเงื่อนไขในการลงทะเบียนรับสิทธิ์ต้องจองล่วงหน้า 3 วันก่อนการเดินทาง ซึ่งการจองในวันแรกก็จะทำให้เดินทางท่องเที่ยวตรงกับช่วงหยุดยาวปีใหม่นี้พอดี
ด้านนางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอเอชเอ) กล่าวว่า ยอดการลงทะเบียนใช้สิทธิ์ “เราเที่ยวด้วยกัน” ในวันแรก( 28 ธันวาคม2563) ที่มียอดจองทะลักเข้ามามากถึง 2 แสนคืน จากจำนวนห้องพักที่เพิ่มเข้ามาในระบบ 1 ล้านคืน เหลืออยู่ที่ 7.8 แสนคืน
แต่วันที่สอง คือ วันที่ 28 ธันวาคม2563 ก็มียอดจองที่ชลอตัวไป( ณ เวลา16.10 น. มียอดจองเพิ่มเข้ามาอยู่ที่ 4 หมื่นคืน) ทำให้เหลือยอดจองที่พักอยู่ 7.4 แสนคืน
จากยอดการจองที่เกิดขึ้นแสดงว่าเป็นการจองเพื่อเดินทางท่องเที่ยวในช่วงปีใหม่ ในกลุ่มของคนที่ยังเดินทางท่องเที่ยวอยู่ สวนทางกับคนที่กลัวโควิด ก็มีการยกเลิกห้องพักไปเป็นจำนวนมาก ส่วนจะมีเรื่องทุจริตหรือไม่ หากมีก็จะต้องถูกตรวจสอบและดำเนินคดี เพราะภาครัฐก็เฝ้าระวังในเรื่องนี้อยู่
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
รับปีใหม่ "เราเที่ยวด้วยกัน" เปิดให้ลงทะเบียนรับสิทธิ์ 6 เงื่อนไขใหม่ได้แล้ว
สิ้นสุดการรอคอย "เราเที่ยวด้วยกัน" เปิดให้รับสิทธิ์ใหม่1ล้านคืน 28 ธ.ค.นี้
“เราเที่ยวด้วยกัน”คืนเงินจองที่พักในพื้นที่ล็อกดาวน์