‘ฝ้าย’ ซินเจียง
โลกได้พัฒนาเป็น GLOBALIZATION หลายปีมาแล้วโดยมีหลักการสำคัญ
ที่ไหน “ถูกและดี” ใช้ที่นั่น
เราจึงเห็น COMPUTER NOTEBOOK แบรนด์ดังของสหรัฐ อเมริกา เจ้าแห่ง TECHNOLOGY เลิศทั้ง SOFTWARE HARDWARE ใช้นักออกแบบอิตาเลียน ดีไซน์ รูปลักษณ์ และใช้ จีน ประกอบ อีกทั้งวัสดุบางส่วนก็ได้จากจีน
ก่อนยุค GLOBALIZATION เฟื่องฟู เราน่าจะเคยเห็นรถญี่ปุ่น MAZDA LUCE ที่สวยงามเหลือใจ (คศ.1966) เป็นรถญี่ปุ่นที่พลิกโฉมรถรูปกล่องๆทั่วไปในตลาด ด้วยฝีมือออกแบบของสำนัก BERTONE LUCE ชาวอิตาเลียนที่มีผลงานออกแบบรถสปอร์ตโฉบเฉี่ยว ALFA ROMEO ทำชื่อมาก่อน
GLOBALIZATION นี่เองที่ทำให้ชาวเมืองผู้ดีอังกฤษได้กินข้าวโพดหวาน SWEET CORN จากไร่ บ้านแพง นครพนม อัดกระป๋องโดย มาลีสามพราน วางตลาดโดย TESCO SUPERMARKET CHAIN ที่โด่งดังของ
สหราชอาณาจักร
ด้วยมูลค่า BRAND มหาศาล ความเชื่อถือใน BRAND ของลูกค้าจงรักภักดีมีมาก ขณะที่ “ฝรั่ง”เจ้าของ BRAND สามารถเลือกโรงงานวัสดุ “ถูกและดี” ได้ทั่วโลก
การระมัดระวังไม่ให้ BRAND เสียหาย จึงเป็นเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่ง
TESCO เคยจัดประชุม SUPPLIERS แถบ ASIA ที่ป้อนสินค้าให้ “ห้าง” โดยด่วน เมื่อแม่บ้านอังกฤษ เดินขบวนมาหน้าร้านเรียกร้องให้ TESCO เลิกใช้ “โรงงาน” ที่ใช้ “แรงงานเด็ก”
หากไม่ฟัง แน่นอน “พลังผู้บริโภค” รวมตัวกัน BOYCOTT “ห้าง” ทั่วเกาะอังกฤษ และลามไปทั่วโลกจะเสียหายใหญ่หลวง
ยุคนี้เป็นยุคของ SOCIAL MEDIA ข่าวแพร่กว้างขวางเดินทางเร็ว
ลิงเก็บมะพร้าวที่อัมพวาโดนทารุณ กระเทือนไปถึง “กะทิไทย” ที่ไชน่าทาวน์ ซานฟราน นิวยอร์ค ลอนดอน ฯลฯ
คดีโด่งดังล่าสุด คงไม่พ้น NIKE และ H&M สอง BRANDS ยักษ์ของโลก ออกมาประกาศ บริษัทจะไม่ใช้ “ฝ้าย” จากมณฑลซินเจียง ประเทศจีน ด้วยเชื่อตามรายงานของ BBC ที่ว่า ประเทศจีนบีบชนกลุ่มน้อยอุยกูร์ (UIGHURS) เป็น “แรงงานทาส” เก็บ “ฝ้าย” ในไร่มณฑลซินเจียง
“ฝ้าย” วัสดุเสื้อผ้า ที่เราใส่สบายๆ สัมผัสได้นั้น มาจาก หยาดเหงื่อ หยดเลือด แรงงาน ของ “ชาวไร่” ที่ทำงานเหมือน “ทาส”
หลายประเทศทางตะวันตก กล่าวหาว่าจีนได้ละเมิดสิทธิมนุษยชนชาวอุยกูร์ ซึ่งเป็นชนมุสลิมกลุ่มน้อย
พอ NIKE และ H&M ประกาศเจตจำนงไม่ใช้ “ฝ้าย” จีนซินเจียง แน่นอน “เลือดรักชาติจีน” เดือด ทั้งรัฐและราษฏร์ออกมา “ตอบโต้” ทันที
เริ่มตั้งแต่ผู้บริโภคชาวจีน ร่วมกัน BOYCOTT สินค้าของสองแบรนด์ดัง NIKE และ H&M “GO HOME” (กลับบ้านไป)
กลุ่ม CELEBS ที่เคยรับเงินเชียร์สินค้าต้องรีบออกมาโปรยคำหวาน “ผลประโยชน์ของชาติ (จีน)เรา เหนือสิ่งใด”
PLATFORMS E-COMMERCE เลิกขายสินค้า H&M
กลุ่มเยาวชนคอมมูนิสต์รักชาติ ยังไม่ได้เดินขบวนไปเยี่ยวรด “ห้าง” หากออกมาแถลงการณ์ผ่าน SOCIAL MEDIA ถากถาง 2 BRANDS ดัง “เจ้าปัญหา”
“ลื้อปล่อยข่าวทำลาย “ฝ้าย” ซินเจียง BOYCOTT ไม่ใช้ แต่ลื้อก็ยังอยากหากินกับประเทศจีนของอั้ว ลื้อคิดได้อย่างไร (วะ)”
แน่นอน ทางการจีนก็ต้องใช้วิชาประชาสัมพันธ์ปกป้อง “น้องฝ้าย” ขณะเดียวกันก็วิจารณ์ BRANDS เฮงซวย
TWITTER ของจีน WEIBO แสดงภาพความรื่นรมย์ในการเก็บ “ฝ้าย” มีการใช้เครื่อง AUTO แถมสัมภาษณ์น้องหนูชาวไร่อุยกูร์ที่ออกมาปกป้องมณฑลซินเจียง
“... สาบานได้ พวกหนูน่ะแทบจะฆ่ากันตาย แย่งกันมาทำงาน “เก็บฝ้าย” ที่นี่... รายได้ดีนะคะ... ค่าแรงงาน...”
CCTV กระบอกเสียงของรัฐ ออกมาโจมตี H&M บริษัทยักษ์ใหญ่ข้ามชาติที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ประเทศ SWEDEN
“...ลื้อดีดลูกคิดผิดแล้ว หวังจะเป็น “ฮีโร่” นำขบวน รอเดี๋ยวนะ เรา “เป้าโฉว” แก้แค้นแน่นอน...”
H&M ต้องออกประกาศด่วน
“เราเคารพลูกค้าชาวจีนตลอดมา และการตัดสินใจใดๆ ของเราไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง”
เช้านี้ คุณหยิบเสื้อผ้าสบายๆสักชุด แน่นอนส่วนใหญ่คงเป็น “ฝ้าย” จากไร่ใดไร่หนึ่งของโลก จาก “หยาดเหงื่อ หยดเลือด แรงงาน”
เมื่อเรา “กินข้าว” เราคงเคยได้ยิน “บทกวี” อมตะชิ้นหนึ่ง
“เปิบข้าวทุกคราวคำ จงสูจำเป็นอาจิณ
เหงื่อกูก็สูกิน จึงก่อเกิดมาเป็นคน
.................... ........................”
ตอนนี้ก็ต้องเพิ่ม “เสื้อผ้า”
สวมใส่ “สบาย สวยงาม” อย่าลืมคิดถึง “คนเก็บฝ้าย”
หน้า 21-22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,666 วันที่ 1 - 3 เมษายน พ.ศ. 2564
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :