Family Office Transformation

ปัจจุบันทั่วโลกมีสำนักงานครอบครัว (Family Office) ประมาณ 10,000 แห่งซึ่งมากกว่าในปีค.ศ. 2008 ถึง 10 เท่าพร้อมกับทวีความสำคัญขึ้นด้วย งานวิจัยของ Forbes ชี้ว่าสิ้นปีค.ศ. 2018 สำนักงานของครอบครัวมีความมั่งคั่งรวมกันมากกว่า 4 ล้านล้านดอลลาร์เลยทีเดียว

นอกจากสำนักงานครอบครัวจะเติบโตแบบก้าวกระโดดเพราะมีมีเทคโนโลยีเป็นตัวเร่งให้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้รูปแบบการบริหารสำนักงานครอบครัวในปัจจุบันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซึ่งสำนักงานครอบครัวเองไม่เพียงใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังมีการลงทุนในด้านเทคโนโลยีอย่างมากด้วย

โดยปัจจุบันผู้บริหารความมั่งคั่งของครอบครัวเป็นกลุ่มนักลงทุนที่เติบโตเร็วที่สุดในเรื่องของเทคโนโลยีใหม่ๆ ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมามีการทุ่มเงินประมาณ 5 พันล้านดอลลาร์ให้กับบริษัทเทคโนโลยีใหม่ๆ มากมาย โดยมีเทคโนโลยีหลักๆ ที่กำลังเข้ามาเปลี่ยนแปลงการทำงานของสำนักงานครอบครัว ดังนี้

ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) ปัจจุบันสำนักงานครอบครัวกำลังให้ความสนใจใช้ “fam-tech” ซึ่งเป็นชุดของเทคโนโลยีต่างๆ ที่สามารถนำมาช่วยในการดำเนินงานประจำวันได้ เทคโนโลยีนี้มีอิทธิพลต่อการปฏิวัติการดำเนินงานของสำนักงานของครอบครัวอย่างมาก จากรายงาน Global Family Office ปี 2019 พบว่า 87% ของสำนักงานครอบครัวทั้งหมดเห็นว่า AI จะเป็นตัวสร้างความพลิกผันใหญ่ที่สุดในธุรกิจทั่วโลกต่อไป

โดยผู้บริหารสำนักงานครอบครัว 37% เชื่อว่าสำนักงานครอบครัวเสมือนที่ขับเคลื่อนด้วย AI จะเข้ามาแทนที่โครงสร้างแบบเดิมภายในปีค.ศ. 2025 และปัจจุบันการใช้ AI ในสำนักงานครอบครัวกำลังเป็นที่แพร่หลายมาก และสำนักงานครอบครัวที่กำลังพึ่งพาเครื่องมือแบบเดิมๆ กำลังเสียเปรียบทางการแข่งขันอย่างชัดเจน

บล็อกเชน (Blockchain) เทคโนโลยีบล็อกเชนทั่วไปเรารู้ว่ากันว่าเกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) เช่น บิตคอยน์ (Bitcoin) อย่างไรก็ตามศักยภาพของบล็อกเชนกว้างกว่านั้นมาก สำนักงานครอบครัวกำลังค้นพบว่าบล็อกเชนสามารถใช้ เพื่อสร้างโทเค็น (Token) ให้กับสินทรัพย์ต่างๆเพื่อทำให้การจัดการมีประสิทธิภาพ เข้าถึงได้มากขึ้นและปลอดภัยมากขึ้น งานวิจัยของ Deloitte ในปี 2019 พบว่า 53 % ของผู้บริหารระดับสูงทั่วโลก ระบุว่าเทคโนโลยีบล็อกเชนมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อองค์กร แต่มีเพียงไม่ถึง 1 ใน 4 ที่เริ่มนำมาใช้แล้ว บล็อกเชนถูกนำมาใช้จัดการความเสี่ยง การจัดเก็บเอกสารสำคัญของครอบครัว เช่น พินัยกรรม สัญญา ฯลฯได้ปลอดภัยอย่างไร้ที่ติ และทำหน้าที่เป็นสุนัขเฝ้าบ้านให้กับสำนักงานครอบครัวในรูปแบบต่างๆ อีกด้วย

ระบบทำงานอัตโนมัติ (Robotic Process Automation: RPA) และคลาวด์ (The Cloud) ถึงแม้ AI และ blockchain อาจเป็น 2 เทคโนโลยีที่น่าสนใจที่สุดสำหรับ

สำนักงานครอบครัวในขณะนี้ แต่การนำคอมพิวเตอร์เข้ามาทำงานอัตโนมัติในรูปแบบต่างๆ (RPA) ทำให้สามารถทำงานซ้ำๆ โดยอัตโนมัติได้ง่ายดายซึ่งก่อนหน้านี้อาจต้องสิ้นเปลืองเวลาทำงานของคนเป็นอย่างมาก การป้อนข้อมูลอาจเป็นตัวอย่างของการใช้ RPA ที่สามารถช่วยเหลือสำนักงานครอบครัวได้ เช่น การกรอกแบบฟอร์มการคืนภาษีของสมาชิกครอบครัวในแต่ละปี ซึ่ง RPA สามารถกรอกแบบฟอร์มได้จำนวนมาก ถูกต้อง และมีประสิทธิภาพสูง และการย้ายข้อมูลไปยังระบบคลาวด์ที่ปัจจะบันราคาไม่แพง แต่ยังปลอดภัยกว่า สำนักงานครอบครัวที่จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด คือสำนักงานที่รวมเอาเทคโนโลยีใหม่นี้เข้ากับการกำกับดูแลกิจการที่ดีด้วย และเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดจะมีประสิทธิภาพเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับสำนักงานครอบครัวที่รู้จักใช้มันด้วยเช่นกัน

ที่มา: Sekulich, T. 2021. Three Ways Technology is Transforming the Family Office. Tharawat-Magazine [On-line]. Available:https://www.tharawat-magazine.com/facts/technology-transforming-family-office/ ข้อมูลเพิ่มเติม: www.famz.co.th

หน้า 21-22 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,669 วันที่ 11 - 14 เมษายน พ.ศ. 2564

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• การจากไปของคีย์แมน
• เตรียมตัวเกษียณ จากธุรกิจครอบครัว    
• Top 3 ปัญหาอมตะในธุรกิจครอบครัว 
• เราเป็นธุรกิจครอบครัว แบบไหน (จบ) 
• เราเป็นธุรกิจครอบครัว แบบไหน (1)