นายนนท์ กลินทะ ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลมีแผนเตรียมการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว รวมทั้งคนไทยที่อยู่ต่างประเทศที่รับการฉีดวัคซีนครบโดส เดินทางเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว บริษัท การบินไทยฯ พร้อมขานรับนโยบายดังกล่าว ด้วยการให้บริการเที่ยวบินตรงสู่จุดหมายในเส้นทางต่างๆ อย่างสะดวกสบาย ปลอดภัย โดยไม่ต้องแวะพัก
โดยการบินไทยจะเปิดเส้นทางบิน เริ่มจากเดือนกรกฎาคม-กันยายน 2564 จำนวน 21 เส้นทางบิน โดย 16 เส้นทางบินตรงเข้ากรุงเทพฯ ได้แก่ เส้นทางเอเชีย 10 เส้นทางบิน เส้นทางยุโรป 5 เส้นทางบิน และเส้นทางออสเตรเลีย 1 เส้นทางบิน ส่วนอีกเที่ยวบินจากยุโรป 5 เปิดเส้นทางบินตรงสู่ภูเก็ต
16 เส้นทางบินจากต่างประเทศ บินตรงเข้ากรุงเทพฯ มีรายละเอียดดังนี้
เส้นทางเอเชีย
1. เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-โตเกียว (นาริตะ) ทำการบินสัปดาห์ละ 3 เที่ยวบิน โดยออกจากกรุงเทพฯ ทุกวันอังคาร พฤหัสบดี และเสาร์
2. เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-โตเกียว (ฮาเนดะ) ทำการบินสัปดาห์ละ 2 เที่ยวบิน โดยออกจากกรุงเทพฯ ทุกวันพุธ และ ศุกร์
3. เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-โอซากา ทำการบินสัปดาห์ละ 3 เที่ยวบิน โดยออกจากกรุงเทพฯ ทุกวันพุธ พฤหัสบดี และเสาร์
4. เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-นาโกยา ทำการบินสัปดาห์ละ 2 เที่ยวบิน โดยออกจากกรุงเทพฯ ทุกวันพฤหัสบดี และอาทิตย์
5. เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-โซล ทำการบินสัปดาห์ละ 2 เที่ยวบิน โดยออกจากกรุงเทพฯ ทุกวันพฤหัสบดี และอาทิตย์
6. เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-ไทเป ทำการบินสัปดาห์ละ 3 เที่ยวบิน โดยออกจากกรุงเทพฯ ทุกวันพุธ ศุกร์ และอาทิตย์
7. เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-ฮ่องกง ทำการบินสัปดาห์ละ 5 เที่ยวบิน โดยออกจากกรุงเทพฯ ทุกวันพุธ พฤหัสบดี ศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์
8. เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-ละฮอร์ ทำการบินสัปดาห์ละ 2 เที่ยวบิน โดยออกจากกรุงเทพฯ ทุกวันศุกร์ และอาทิตย์
9. เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-ธากา ทำการบินสัปดาห์ละ 1 เที่ยวบิน โดยออกจากกรุงเทพฯ ทุกวันศุกร์
10. เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-มะนิลา ทำการบินสัปดาห์ละ 3 เที่ยวบิน โดยออกจากกรุงเทพฯ ทุกวันอังคาร พฤหัสบดี และเสาร์
เส้นทางยุโรป
1. เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-ลอนดอน ทำการบินสัปดาห์ละ 2 เที่ยวบิน โดยออกจากกรุงเทพฯ ทุกวันพุธ และอาทิตย์
2. เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-โคเปนเฮเกน ทำการบินสัปดาห์ละ 2 เที่ยวบิน โดยออกจากกรุงเทพฯ ทุกวันพุธ และอาทิตย์
3. เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-แฟรงก์เฟิร์ต ทำการบินสัปดาห์ละ 3 เที่ยวบิน โดยออกจากกรุงเทพฯ ทุกวันพุธ เสาร์ และอาทิตย์
เส้นทางออสเตรเลีย
1. เส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-ซิดนีย์ ทำการบินสัปดาห์ละ 2 เที่ยวบิน โดยออกจากกรุงเทพฯ ทุกวันพุธ และอาทิตย์
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังทำการบินเที่ยวบินขนส่งสินค้าทางอากาศ (คาร์โก้) ในเส้นทางต่างๆ ได้แก่ มุมไบ นิวเดลี เจนไน สิงคโปร์ โซล โอซากา และโตเกียว (นาริตะ) อีกด้วย
สำหรับเที่ยวบินจากยุโรป 5 เส้นทางบินตรงสู่ภูเก็ต เพื่อสนองนโยบายของรัฐบาลในการกระตุ้นและขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ภายใต้โมเดล ภูเก็ต แซนด์บ๊อกซ์ (Phuket Sandbox) และช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติการแพร่ระบาดของโควิด-19ได้แก่
1. เที่ยวบินที่ทำการบินทุกวันศุกร์ เริ่มเที่ยวบินแรก ในวันที่ 2 กรกฎาคม 2564 ได้แก่
- เที่ยวบินที่ ทีจี 953 เส้นทาง โคเปนเฮเกน-ภูเก็ต ออกเดินทางจากโคเปนเฮเกน เวลา 14.25 น. (เวลาท้องถิ่น) ถึงภูเก็ต เวลา 06.25 น. ในวันถัดไป
- เที่ยวบินที่ ทีจี 923 เส้นทาง แฟรงก์เฟิร์ต-ภูเก็ต ออกเดินทางจากแฟรงก์เฟิร์ต เวลา 14.45 น. (เวลาท้องถิ่น) ถึงภูเก็ต เวลา 07.10 น. ในวันถัดไป
- เที่ยวบินที่ ทีจี 933 เส้นทาง ปารีส-ภูเก็ต ออกเดินทางจากปารีส เวลา 15.50 น. (เวลาท้องถิ่น) ถึงภูเก็ต เวลา 08.00 น. ในวันถัดไป
2. เที่ยวบินที่ทำการบินทุกวันเสาร์ เริ่มเที่ยวบินแรก ในวันที่ 3 กรกฎาคม 2564 ได้แก่
- เที่ยวบินที่ ทีจี 917 เส้นทาง ลอนดอน-ภูเก็ต ออกเดินทางจากลอนดอน เวลา 12.30 น. (เวลาท้องถิ่น) ถึงภูเก็ต เวลา 06.10 น. ในวันถัดไป
- เที่ยวบินที่ ทีจี 973 เส้นทาง ซูริก-ภูเก็ต ออกเดินทางจากซูริก เวลา 15.20 น. (เวลาท้องถิ่น) ถึงภูเก็ต เวลา 07.45 น. ในวันถัดไป
นอกจากนี้ บริษัทการบินไทยฯ ยังมีแผนจัดเที่ยวบินเพิ่มเติมในตารางบินฤดูหนาว ปี 2564 เพื่อรองรับการเดินทางอย่างต่อเนื่อง
บริษัทฯ พร้อมปฏิบัติการบินอย่างมีมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย (Hygiene Excellence) รวมทั้งได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย (Amazing Thailand Safety & Health Administration : SHA) จากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งการบินไทยและไทยสมายล์เป็นสองสายการบินแรกของประเทศไทยที่ได้รับตราสัญลักษณ์ SHA
เนื่องจากให้ความสำคัญในความปลอดภัยด้านสุขอนามัย โดยบริษัทฯ ได้ให้พนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่ในการให้บริการผู้โดยสาร จัดทำ Physical Distancing เพื่อลดการสัมผัสระหว่างบุคคล รวมทั้งเน้นย้ำให้พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินขณะปฏิบัติหน้าที่บนเที่ยวบิน สวมชุดป้องกัน สวมหน้ากากอนามัย และถุงมือ รวมทั้งคอยสังเกตอาการผู้โดยสารในระหว่างเที่ยวบิน
อีกทั้ง บริษัทฯ ได้ทำการฉีดพ่นสเปรย์ฆ่าเชื้อโรค ทำความสะอาดแบบ Deep Cleaning และทำความสะอาด 36 จุดสัมผัสร่วมในอากาศยานทุกลำหลังเครื่องลงจอด ตลอดจนติดตั้งระบบกรองอากาศภายในเครื่องบินทุกลำ ด้วยแผงกรองอากาศประสิทธิภาพสูง (HEPA: High Efficiency-Particulate-Air) ซึ่งผู้โดยสารสามารถมั่นใจได้ว่าการบินไทยปฏิบัติการบินในทุกเที่ยวบินตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย
รวมทั้งปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุข ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) อย่างเคร่งครัด
อนึ่ง โครงการ Amazing Thailand Safety & Health Administration : SHA เป็นโครงการที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เพื่อให้สถานประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ได้เตรียมความพร้อมเพื่อยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมท่องเที่ยวควบคู่กับมาตรการด้านสุขอนามัย ซึ่งจะทำให้นักท่องเที่ยวมีความมั่นใจในความปลอดภัย
ทั้งนี้ World Travel & Tourism Council (WTTC) หรือสภาการท่องเที่ยวโลก ได้ให้การรับรองว่าสถานประกอบการที่ได้รับมาตรฐาน SHA จะได้มาตรฐานตามข้อกำหนด SafeTravels ซึ่งเป็นการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยของไทยให้เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติอีกด้วย
ข่าวเกี่ยวข้อง: