สืบเนื่องจาก คำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด - 19) เรื่อง มาตรการ "ล็อกดาวน์-เคอร์ฟิว" งดเดินทาง ห้ามออกนอกเคหสถานในช่วงเวลา 21.00-04.00 น. เป็นระยะเวลา 14 วัน ปรับเวลาเปิด-ปิดร้านสะดวกซื้อ ระบบขนส่งสาธารณะ สวนสาธารณะ และการกำหนดข้อกำหนดและข้อปฎิบัติ
ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 27) ลงวันที่ 10 กรกฎาคม 2564 โดยจะให้เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 12 กรกฎาคม 2564 กำหนดให้มีการจัดพื้นที่ยกระดับควบคุม และกำหนดมาตรการควบคุมแบบบูรณาการเร่งด่วน
เฉพาะในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล และจำกัดการเดินทางของประชาชนทั้งออกจากบ้านและข้ามจังหวัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ โดยขอความร่วมมือจากประชาชนงดการเดินทางโดยไม่จำเป็น ยกเว้นการจัดหาเครื่องอุปโภคบริโภค การไปโรงพยาบาล ฉีดวัคซีน หรือมีความจำเป็นที่จะต้องออกไปทำงาน
นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย และ นายนพพร วิฑูรชาติ นายกสมาคมศูนย์การค้าไทย ร่วมกล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทั้ง 2 สมาคมได้ให้การสนับสนุนพื้นที่จุดฉีดวัคซีน พร้อมระบบรองรับการปฎิบัติการทั้งระบบ (Total Solution) เพื่อเป็นการเร่งการฉีดวัคซีนให้เข้าถึงประชาชนได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง
รวมทั้งได้ยกระดับมาตรฐานสาธารณสุขชั้นสูงสุด และมอบความปลอดภัยให้กับทุกคน และในครั้งนี้ ทั้ง 2 สมาคม พร้อมที่จะขานรับมาตรการของศบค. และปฎิบัติตามมาตรการควบคุมแบบบูรณาการเร่งด่วน ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ดังต่อไปนี้
1.ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ เปิดให้บริการเฉพาะ
1.1ไฮเปอร์มาร์เก็ต ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหารและเครื่องดื่ม ร้านขายยาและ เวชภัณฑ์ ร้านจำหน่ายเครื่องมือช่างและอุปกรณ์ การก่อสร้าง ธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม ไปรษณีย์ และพัสดุภัณฑ์ ที่เปิดดำเนินการในศูนย์การค้าจะปิดให้บริการ 20.00 น.
1.2 ธนาคาร สถาบันการเงินหรือธุรกิจหลักทรัพย์ รวมถึงสถานที่ฉีดวัคซีนหรือบริการทางการแพทย์ และการสาธารณสุขอื่น ๆ ที่ดำเนินการในศูนย์การค้าจะปิดให้บริการ 17.00 น.
1.3 ร้านอาหาร หรือเครื่องดื่ม ที่จำหน่ายในศูนย์การค้า ให้จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มในลักษณะของการนำกลับไปบริโภคที่อื่นได้เท่านั้น
2. ไฮเปอร์มาร์ท แคช แอนด์แครี่ ที่ตั้งนอกศูนย์การค้า เปิดตามปกติ และปิดให้บริการ 20.00 น
3. ร้านค้าสะดวกซื้อ และซูเปอร์มาร์เก็ตที่ตั้งอยู่นอกศูนย์การค้า เปิดให้บริการ 04.00-20.00 น.
4. หากมีประกาศของจังหวัดอื่นใด นอกเหนือจากนี้ ให้ปฏิบัติ ตามประกาศตามจังหวัดนั้นๆ
สมาคมผู้ค้าปลีกไทยและสมาคมศูนย์การค้าไทย ในฐานะตัวแทนของสมาชิกภาคีเครือข่ายผู้ประกอบการค้าปลีกทั่วประเทศ ขอยืนยันว่า ผู้ประกอบการค้าปลีกมีความพร้อมที่จะเสริมการบริการด้วยช่องทางออนไลน์ เพื่อให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าผ่านช่องทางนี้ได้อย่างสะดวกและง่ายดายทุกที่ทุกเวลา
โดยในส่วนของซูเปอร์มาร์เก็ต และร้านสะดวกซื้อที่ยังคงเปิดให้บริการ เรามีการบริหารการจัดการสต็อกสินค้าอุปโภคบริโภค และสินค้าจำเป็น ที่ใช้ในชีวิตประจำวันสำหรับลูกค้าทุกกลุ่ม เพื่อลดความกังวลเรื่อง สินค้ามีไม่เพียงพอ
สมาคมผู้ค้าปลีกไทย และสมาคมศูนย์การค้าไทย พร้อมที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมฝ่าฟัน และเชื่อว่าความร่วมมือกันในครั้งนี้จะทำให้ทุกคนก้าวผ่านวิกฤติโควิดครั้งนี้ไปได้ด้วยกัน