"สัญญาณดี" กำลังมา พา "รัสเซีย" พ้นวิกฤติโควิด

          ทำเอาทั่วโลกแปลกใจกันไปยกใหญ่หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในรัสเซียพุ่งไม่หยุด แซงหน้าหลายๆ ประเทศขึ้นมาเป็นอันดับที่ 2 ของโลกรองจากในสหรัฐอเมริกา แต่ดูเหมือนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาจะเริ่มมีสัญญาณดีๆ ให้เห็นกันบ้างแล้ว

          ก่อนหน้านี้ตัวเลขผู้ติดเชื้อในรัสเซียพุ่งขึ้นมาเฉลี่ยวันละเฉียดหมื่นราย ดันให้ยอดรวมผู้ป่วยรวมทั้งประเทศทะลุ 3 แสนรายภายในเวลารวดเร็ว ทว่ากราฟที่พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในที่สุดก็ดูเหมือนจะแผ่วลงแล้ว เนื่องจากสัปดาห์นี้เริ่มมีสัญญาณยอดตัวเลขผู้ติดเชื้อเริ่มเยอะลง และกลางสัปดาห์เกิดปรากฏการณ์ที่จำนวนผู้หายป่วยสูงกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อในรอบวันเป็นครั้งแรก เป็นนิมิตหมายที่ดีว่ารัฐบาลรัสเซียเริ่มกลับมาถือไพ่เหนือสถานการณ์โรคระบาดครั้งนี้

          นอกจากนี้ยังมียังมีข่าวดีอีกอย่าง เมื่อนายกรัฐมนตรีมือใหม่ของรัสเซีย นายมิคาอิล มิชูสตินที่ติดเชื้อโควิด-19 ไปก่อนหน้านี้จนต้องหยุดพักรักษาตัวไปสักพักใหญ่ ในที่สุดก็ได้โอกาสรีเทิร์นกลับเข้ามานั่งในตำแหน่งเต็มตัวได้แล้ว

          แม้ว่าผู้ติดเชื้อจะพุ่งสูง แต่ถ้าดูสถิติผู้เสียชีวิตจากไวรัสร้ายตัวนี้ของรัสเซียยังถือว่าน้อยมาก อยู่ที่ราวๆ สามพันราย น้อยที่สุดในกลุ่มประเทศ 10 อันดับต้นของโลกที่มีผู้ติดเชื้อโควิดสูงสุด ถึงอย่างนั้นก็ยังเป็นที่กังขาอยู่ดีว่ามีการปิดบังตัวเลขจริงหรือเปล่า ทำให้ดูเหมือนว่าประเทศก็ไม่ได้วิกฤตอยู่จริงๆ หรือเปล่า? ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้พยายามอธิบายว่ารัสเซียนั้นนับตัวเลขผู้เสียชีวิตเฉพาะคนที่เสียชีวิตจากเชื้อโควิดโดยตรงเท่านั้น ไม่ได้นับผู้ที่เสียชีวิตด้วยโรคอื่นแทรกซ้อนไปด้วย ทำให้ตัวเลขอาจจะดูน้อยกว่าบางประเทศไปบ้าง 

          ส่วนมอสโกที่เป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของแดนหมีขาว ผ่านมาเป็นเดือนแล้วก็ยังดูท่าไม่ค่อยดีนัก ยังต้องบังคับใช้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเคร่งครัดต่อไป ทั้งให้ประชาชนเว้นระยะห่างจากกัน กักตัวกลุ่มเสี่ยง ออกกฎให้ใส่หน้ากากอนามัยในพื้นที่สาธารณะ ออกบทลงโทษทั้งปรับก็แล้ว หรือจะส่งให้คนที่ฝ่าฝืนมาตรการไปทำงานสาธารณประโยชน์ตามโรงพยาบาลแทนก็แล้ว 

           นอกจากด้านการตั้งแผนรับมือตรวจหาผู้ติดเชื้อแล้ว นักวิทยาศาสตร์รัสเซียเองก็ไม่ได้อยู่เฉย เร่งเดินหน้าทดลองหาวัคซีนป้องกันตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา คาดว่าขณะนี้มีวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่พัฒนาโดยฝีมือนักวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซียมากกว่า 40 ชนิดเลยทีเดียว    

           ในที่สุดศูนย์วิจัยด้านระบาดวิทยาและจุลชีววิทยาระดับประเทศก็ได้วัคซีนที่มีความเป็นไปได้ว่าจะมีประสิทธิภาพเหมาะสมแล้ว และเริ่มทดลองในมนุษย์เป็นครั้งแรก โดยเริ่มทดลองภายในกลุ่มเจ้าหน้าที่ของสถานบันกันเองก่อน ยังไม่พบอาการข้างเคียงแต่อย่างใด กระทรวงสาธารณสุขคาดว่ารัสเซียน่าจะมีวัคซีนป้องกันโควิดไว้ใช้ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม แข่งกับสหรัฐอเมริกาที่กำลังลุ้นว่าจะผลิตใช้ได้สำเร็จในช่วงต้นปีหน้า

           ระลอกแรกยังช้ำไม่ทันหายดี ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินก็เริ่มออกมาแสดงความเป็นห่วงรัสเซียที่จะต้องรับมือกับการระบาดระลอกที่ 2 แล้ว โดยผู้นำคาดว่าการระบาดอาจกลับมาปะทุอีกครั้งในช่วงฤดูใบไม้ร่วง หรือราวเดือนตุลาคมถึงเดือนพฤศจิกายน รีบสั่งให้โรงพยาบาลต่างๆ เร่งเตรียมเตียงไว้ให้พร้อมรองรับผู้ป่วยที่จะตามมา

           ตอนนี้สถานการณ์ประเทศไหนๆ รวมถึงไทยคงต้องเป็นห่วงการระบาดรอบที่ 2 กันถ้วนหน้า จะให้ล็อคดาวน์ไปตลอดคงไม่ไหว เพราะคงกระทบเศรษฐกิจของประเทศอย่างหนัก ต้องจำใจคลายมาตรการลงอย่างเลี่ยงไม่ได้ และเมื่อผู้คนออกมาทำมาหากินก็ต้องเผชิญกับความเสี่ยงของการแพร่ระบาดวนเวียนไป ตราบใดที่ยังไม่มีวัคซีนออกมาให้ได้ใช้กันอย่างทั่วถึง วัฏจักรนี้ก็คงไม่สามารถหยุดได้ลงอย่างแน่นอน

** พบกับ คอลัมน์ “หลังกล้องไซบีเรีย” ทุกวันอาทิตย์ ทุกช่องทางออนไลน์ของ “ฐานเศรษฐกิจ" **
Bio นักเขียน : “ยลรดี ธุววงศ์” อดีตนักข่าวที่ผ่านสนามข่าวทั้งในและต่างประเทศ จากสำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์ และ Spring News ปัจจุบันเป็นนิสิตปริญญาโทอยู่ในส่วนที่หนาวเย็นที่สุดของประเทศรัสเซีย