CPTPP แค่เคาะประตู ยังไม่ได้แต่งงาน
*** เปิดฉากมานาทีนี้ว่ากันยาวๆ ว่าด้วยเรื่องความตกลงที่ครอบคลุมและก้าวหน้าสำหรับหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) แม้จะมีการตั้งคณะกรรมมาธิการวิสามัญศึกษาผลกระทบการลงนาม โดยสภาผู้แทนราษฎรไปแล้ว ก็จบยาก ที่ต้องพูดเพราะเรื่อง “ร่วม-ไม่ร่วม” เป็นข้อความเห็นที่ขัดแย้งระหว่างภาคเอกชน-เอ็นจีโอ เวลาที่จะเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีแต่ละครั้ง จะมีผู้มีส่วนได้-เสียออกมาให้ความเห็นกันเยอะแยะมากมาย ซึ่งเป็นความสวยงามที่ต้องถกเถียงหาทิศทางที่ดีที่สุด ที่เป็นประโยชน์กับประเทศมากสุด แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของข้อมูล ข้อเท็จจริง ไม่ใช่ตะบี้ตะบันนคัดค้านโดยไม่ฟังเสียงใคร
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
*** ข้อกังวลใหญ่ๆ มีอยู่อย่างน้อย 3 เรื่อง การใช้สิทธิเหนือสิทธิบัตรยา (CL) ว่ากันง่ายๆ ฝ่ายค้าน(เข้าร่วม) ก็บอก ถ้ากระโจนเข้าร่วมเมื่อไหร่ ประเทศไทยจะถูกมัดมือมัดขา ไม่สามารถผลิตยาจำเป็นโดยรัฐด้วยเหตุติดปัญหาสิทธิบัตรได้ กระทบการเข้าถึงยาของประชาชน ฝ่ายร่วมก็บอกว่าไม่กระทบ เพราะกรอบเจรจายึดหลักข้อตกลงทริปส์และสาธารณสุข ภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) หมายความว่าสามารถผลิตยาได้ต่อไป แม้มีข้อตกลงของ CPTPP และยืนยันสิทธิของสมาชิกในการใช้มาตรการเพื่อปกป้องการสาธารณสุขและการเข้าถึงยาของประชาชน โดยเป็นข้อความตามปฏิญญาโดฮาว่าด้วยความตกลงทริปส์และการสาธารณสุขพร้อมสนับสนุนให้ประเทศสมาชิกยอมรับหลักการใช้ CL เพื่อส่งออกยาไปยังประเทศที่ขาดแคลน เพื่อช่วยแก้ปัญหาการเข้าถึงยาในต่างประเทศ
*** กังวลถัดมาเรื่องพันธุ์พืช พูดถึงทีไร ก็เรื่องใหญ่ ถ้าหากว่าร่วมแล้ว เกษตรกรไม่สามารถเก็บพันธุ์ไปปลูกต่อได้ จะเป็นเหตุให้ละเมิดสิทธิบัตรพันธุ์พืช ตามที่ฝ่ายค้านเข้าร่วมว่าและเป็นกระแสโครมคราม ฝ่ายร่วมก็บอกว่าเป็นไปไม่ได้เรื่องพันธุ์พืช นี่แม้กระทั่งไปซื้อมาปลูกเสร็จเก็บพันธุ์ไปขยายต่อ พัฒนาต่อรุ่นสู่รุ่น จากบรรพบุรุษที่ตกทอดกันมาก็ยังทำได้ต่อ ไม่ติดสัญญา UPOV1991แต่อย่างใด ที่เขาคุ้มครองสำหรับพวกที่เอาไปพัฒนาพันธุ์และต้องพิสูจน์ให้ได้ด้วยด้วยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ว่า ได้พัฒนาต่อยอด ปรับปรุง พันธุ์ใหม่ขึ้นมาจากเดิมอย่างไร และมันแตกต่างจากพันธุ์เดิมอย่างมีนัยสำคัญอย่างไร
*** ที่พูดกันมากอีกประเด็นว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ ถ้าเข้าร่วมแล้วไทยเสียหายแน่ๆ กลุ่มเอสเอ็มอี กลุ่มผู้ประกอบการในประเทศไม่สามารถประมูลงานแข่งขันกับภาคีสมาชิกได้เลย ต้องสูญเสียงบลงทุนในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐไปให้กับต่างชาติเป็นแม่นมั่น กระทบการจ้างงานในประเทศ กระทบการใช้วัตถุดิบในประเทศ ฝ่ายนักวิชาการเขาก็อธิบายว่าการจัดซื้อจัดจ้างที่เปิดกว้างมากขึ้น จะทำให้ได้ของคุณภาพราคามาตรฐาน มีความโปร่งใส ไม่สามารถลักไก่ใต้โต๊ะ ช่วยเหลือเอื้อพวกพ้องในการประมูลเหมือนที่เคยทำๆ กันอยู่ และข้อตกลงยังเปิดช่องเปิดทางให้เจรจานำไปสู่เงื่อนไขถ้าเราซื้อสินค้าจากเขาอาจผูกให้เข้ามาทำโครงการลงทุนต่อเนื่อง จากการจัดซื้อนั้นในประเทศเรา ตามนโยบายที่เรียกกันว่าชดเชย หรือ Offsets ประเทศอย่างมาเลเซีย เขาใช้แบบนี้มาหลายปี
*** เหนือสิ่งอื่นใด CPTPP ที่ถกเกียงกันอยู่ขณะนี้ ยังไม่ถึงขั้นร่วมหอลงโรงแต่งงานแต่งการกันแต่เพียงอย่างใด แค่เคาะประตูเข้าไปคุยกับสาว ยังไม่ทันสู่ขอด้วยซ้ำ ยังไม่รู้ด้วยซ้ำสาวจะชอบด้วยหรือไม่ แต่พี่น้องในบ้านทะเลาะกันวุ่นวายบ้านแตกไปแล้ว ไปติฉินนินทาเอาแล้วว่าสาวเจ้าไม่ดี ไม่สวย ทั้งที่ยังไม่ได้พูดคุยกันเลย
*** ว่ากันชัดๆ ในแง่การลงทุนซึ่งเป็นปมประเด็นใหญ่ที่สุดและหัวใจสำคัญของ CPTPP กลับพูดถึงกันน้อย แต่ไปพูดจีดีพีที่จะโตเพียงเล็กน้อย ได้ไม่คุ้มเสีย ทั้งที่ข้อตกลงจะสนับสนุนกลุ่มให้เป็นห่วงโซ่การผลิตซัพพลายเชนของกันและกัน นั่นหมายถึงถ้าไม่เข้าร่วมตัดเยื่อใยไปเลย โอกาสที่การลงทุนต่างชาติไทยถูกเทมีสูงลิ่ว ทั้งหมดถกเถียงกันได้ แต่ให้อยู่บนพื้นฐานของข้อมูลและปัญญา และประโยชน์รวมของชาติเป็นสำคัญ หาใช่ประโยชน์แยกส่วนเฉพาะกลุ่มใหม่ สำคัญที่สุดรัฐบาลต้องมีท่าทีชัดเจนมากกว่านี้ โดยเฉพาะฝ่ายการเมือง จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และรัฐมนตรีพาณิชย์ จะมาลอยตัวเหนือปัญหา เลี่ยงของร้อน สวมบทพระเอกตอนหลังหาได้ไม่ เพราะความชัดเจนจะทำให้ฝ่ายข้าราชการเขาเดินทางถูก ประชาชนจะได้เดินถูกทาง
*** ปิดท้ายกันที่ มหาวิทยาลัยภาษาและวัฒนธรรมปักกิ่ง(กรุงเทพฯ) เปิดโครงการฝึกอบรมออนไลน์สำหรับครูไทยที่สอนภาษาจีนระดับมัธยม เป็นการฝึกอบรมครูสอนภาษาจีนท้องถิ่นเป็นครั้งแรกให้กับประเทศไทย เพื่อให้ครูไทยมีโอกาสยกระดับทักษะการสอนภาษาจีน โดยไม่ต้องเดินทางไปเรียนที่มหาวิทยาลัยฯ ที่ปักกิ่ง ตั้งแต่วันที่ 22-28 มิถุนายน 2563 ทุกวันตั้งแต่ 8: 30.-11.30 น. (3 ชั่วโมง) หลักสูตรนี้มีการให้ความรู้เทคนิคการสอนในจุดที่คนไทยมักมีปัญหาในการเรียนภาษาจีนด้วย นอกจากนี้เมื่อจบหลักสูตรมีการมอบประกาศนียบัตร จากสถาบันฝึกอบรมครูสถาบันขงจื้อ รายการนี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะครู แต่คนทั่วไปก็เข้าร่วมได้ สอบถามข้อมูลที่ มหาวิทยาลัยภาษาและวัฒนธรรมปักกิ่งกรุงเทพ เลขที่ 101 ซอยสาทร 13 ถนนสาทรใต้ แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพฯ 10120 โทร 02-211-6699 ติดต่อ คุณวิภาวัลย์ ชื่นทรวง มือถือ 081-274-5297, คุณประภัสสร ล้ำวาสนา มือถือ 094 526-5364