“ดร.นก” หนีกระเจิง เก้าอี้ผู้ว่าแบงก์ชาติ

20 มิ.ย. 2563 | 22:00 น.

คอลัมน์ห้ามเขียน ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3585 หน้า 20 ระหว่างวันที่ 21-24 มิ.ย.63 โดย... พรานบุญ

“ดร.นก”หนีกระเจิง

เก้าอี้ผู้ว่าแบงก์ชาติ

 

          พรานแอบด้อมๆ มองๆ บรรยากาศ ภายในรั้ว “วังบางขุนพรหม” ช่วงนี้ วิเวก วังเวง วิโหวงเหวง ลงไปอย่างผิดหูผิดตา ภายหลัง ดร.ก้อ-วิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการแบงก์ชาติคนปัจจุบัน ประกาศไม่ลงรับสมัครเข้ารับการคัดเลือกเป็นผู้ว่าแบงก์ชาติ สมัยที่ 2

          แม้ว่าตอนนี้จะมีรายชื่อของผู้สมัครท้าชิงตำแหน่งผู้ว่าการแบงก์ชาติคนใหม่ออกมาแล้ว 4 คน แต่พรานขอเตือนว่า นาทีนี้อย่าเพิ่งฟันธงว่า 1 ใน 4 คนนี้จะได้รับการคัดเลือกให้ขึ้นมาเป็นผู้ว่าการแบงก์ชาติคนใหม่ ต้องรอให้คณะกรรมการสรรหาฯ ที่มี “รังสรรค์ ศรีวรศาสตร์” อดีตปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานประชุมกันก่อนว่า จะให้เดินหน้ากระบวนการตรวจสอบคุณสมบัติและให้ผู้สมัครทั้ง 4 เข้าแสดงวิสัยทัศน์ หรือขยายเวลารับสมัครเพิ่มเติม

          นกใหญ่แถวคลองประปาแอบกระซิบ ว่า มีแนวโน้มสูงที่จะต้องขยายเวลารับสมัครออกไป รอกล่อมคนที่ถูกหมายมั่นปั้นมือให้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้ว่าการแบงก์ชาติคนใหม่เปลี่ยนใจ

          “คนนั้นเป็นใคร” พรานอดเอ่ยถามไม่ได้ นกใหญ่ รีบตอบทันควัน “ดร.นก-เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ” ที่ถูกเคยยกย่องให้เป็น 1 ใน 10 ของนักเศรษฐศาสตร์รุ่นใหม่ จบปริญญาเอกด้านเศรษฐศาสตร์จาก Yale เคยทำงานธนาคารโลก ปัจจุบันเป็นหนึ่งในคณะกรรมการนโยบายการเงิน แบงก์ชาติ

          ที่ผ่านมาแม้ว่าจะมีผู้หลักผู้ใหญ่ เกลี้ยกล่อม ขอร้อง ให้เข้ามารับตำแหน่งนี้ แต่ “ดร.นก” ก็ปฏิเสธมาโดยตลอด หลายคนที่รู้จักและสนิทกับ “ดร.นก” ต่างบอกกันเสียงเดียวกันว่า ดร.นก เป็นคน “อินดี้” มีโลกส่วนตัวสูง ดังนั้นจึงอย่าแปลกใจที่ ดร.นก จะปฏิเสธการเข้ามารับตำแหน่งผู้ว่าแบงก์ชาติ เพราะตำแหน่งใหญ่กว่านี้ “ดร.นก” ก็ปฏิเสธมาหลายครั้งแล้ว

          ย้อนกลับมาที่ ผู้สมัครผู้ว่าแบงก์ชาติ 4 คน ในจำนวนนี้ เป็นลูกหม้อแบงก์ชาติ 2 คน คือ “เมธี สุภาพงษ์” รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพการเงิน และ “รณดล นุ่มนนท์” รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน

          ส่วนอีก 2 คน เป็นคนนอกได้แก่ “ต้องใจ ธนะชานันท์” บุตรสาว “ชวลิต ธนะชานันท์” อดีตผู้ว่าการแบงก์ชาติ และ “สุชาติ เตชะโพธิ์ไทร” อดีตรองกรรมการผู้จัดการประธานเจ้าหน้าที่สายการลงทุนและผู้จัดการกองทุนรวม ของบลจ.อยุธยา เจเอฟ หรือ AJF ที่เคยถูกก.ล.ต มีคำสั่งลงโทษ กรณี AJF ได้ลงทุนในตั๋วแลกเงิน PICNI ทั้งๆ ที่ก.ล.ต.ได้มีคำสั่งให้ PICNI แก้ไขงบการเงิน และจัดให้มีการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ

          พรานลองเอาแว่นขยายมาส่องประวัติของทั้ง 4 คน ยังไม่กล้าฟันธงว่าใครจะได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้ว่าการแบงก์ชาติคนใหม่ แต่ ณ นาทีนี้ บอกได้คำเดียวว่า ลูกหม้อแบงก์ชาติมีภาษีเหนือกว่ามาก ไม่ว่าจะ “ดร.เมธี สุภาพงษ์” ที่เติบโตมาจากสายเศรษฐกิจมหภาคและนโยบายการเงิน 

          “ดร.เมธี” จบการศึกษาปริญญาตรีเศรษฐศาสตร์การเงิน London School of Economic and Political Sciences University of London, U.K. ปริญญาโท บริหารธุรกิจ สถาบันศศินทร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเศรษฐศาสตร์การพัฒนา Center for Development Economics, Williams Collage สหรัฐอเมริกา

          ส่วน “รณดล นุ่มนนท์” รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ก็มีความเชี่ยวชาญด้านสถาบันการเงิน และเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการออกนโยบายกำกับดูแลสถาบันการเงิน เพื่อแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนของไทยในช่วงที่ผ่านมา

          “รณดล นุ่มนนท์” จบการศึกษาปริญญาตรี Economics and Mathematics Saint Olaf College สหรัฐอเมริกา ปริญญาโท Finance, Investment and Banking มหาวิทยาลัย University of Wisconsin-Madison สหรัฐอเมริกา และ Chartered Financial Analyst (CFA)

          ดูชื่อชั้นและประสบการณ์ของ 2 ลูกหม้อแบงก์ชาติแล้ว ณ นาทีนี้ “ดร.เมธี” มีภาษีดีกว่า “รณดล” อยู่เล็กน้อย