*** หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจฉบับ 3590 วันที่ 9-11 ก.ค. 2563 เข้าสู่เทศกาลเข้าพรรษา พุทธศาสนิกชนต่างแห่แหนไปทำบุญเข้าวัดเข้าวา ถวายเทียนจำนำพรรษา ท่ามกลางวิกฤติโควิด-19 ที่คลี่คลาย ไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศมาเดือนเศษ ไทยคลี่คลายแต่โลกไม่คลี่คลาย สหรัฐอเมริกา ผู้ติดเชื้อรายใหม่และยอดเสียยชีวิตเพิ่มขึ้น เตือนสติเราว่าต้องไม่ประมาท เดินเหินไปไหนมาไหนต้องระมัดระวัง ล้างมือบ่อย ใส่หน้ากากอนามัย ท่องไว้ๆแล้วนำไปปฏิบัติกัน จะได้ไม่เสียใจภายหลัง
*** ตัวอย่างก็มีให้เห็นเมื่อผ่อนคลาย เปิด ผับ บาร์ ทุกคนมุ่งหาปาร์ตี้ด้วยความอัดอั้น เหตุเกิดที่สหรัฐ โทมัส มาเชียส คนขับรถบรรทุก วัย 51 ปีจากแคลิฟอร์เนียเสียใจที่ละเลยคำแนะนำให้รักษาระยะห่างเพื่อป้องกันเชื้อไวรัสโรคโควิด-19 ทำให้ตัวเองติดเชื้อและพาครอบครัวลำบากไปด้วย เจ้าตัวถึงกับบอกว่า “เพราะความโง่ของเขา ทำให้แม่ น้องสาวและสุขภาพของครอบครัวตกอยู่ในอันตราย เป็นประสบการณ์เจ็บปวดอย่างมาก ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น หากออกไปข้างนอกขอให้ใส่หน้ากากและรักษาระยะห่างทางสังคม อย่าได้โง่บรมเหมือนผม” มาเชียสโพสต์สุดท้ายก่อนเสียชีวิต
ชำแหละ งบ 2 ปีรัฐบาล เงินกู้-ภาระผูกพันข้ามปี "โตเร่ง "
ส่อง "งบ64" มหาวิทยาลัย ที่ไหนอู้ฟู่ ที่ไหนฝืดเคือง
*** กลับมาที่เมืองไทยงบประมาณปี 2564 วงเงิน 3.3 ล้านล้านผ่านสภาฯ วาระแรกไปแล้ว มีงบกลางที่เป็นงบฉุกเฉิน 9 หมื่นกว่าล้าน รวมกับงบแก้โควิดอีกนิดหน่อยรวมกันแค่แสนกว่าล้าน ถือว่าจุ๋มจิ๋มในการรับมือโควิด-19 หากฉุกเฉินขึ้นมาจริงๆ แน่นอนงบประมาณกระจัดกระจายตามกระทรวงต่างๆ ก็มากโข ต้องฝากฝังกรรมาธิการแปรญัตติ โดยพิเคราะห์เหตุการณ์ให้เห็น วิกฤติเที่ยวนี้ ซึม ลึก ยาว คนว่างงานจำนวนมาก กลับไปภาคเกษตรก็หลายคน การจัดงบก็ต้องรองรับ สร้างงาน สร้างอาชีพให้เขายืนหยัดกันได้ อย่าปล่อยตามยถากรรม
*** ว่าด้วยเรื่องกรรมาธิการงบประมาณ ไม่รู้จะฝากฝีฝากไข้ได้หรือไม่ เมื่อตบตีกันแทบตายในพรรคแกนนำรัฐบาลอย่างพรรคพลังประชารัฐ แม้จะได้หัวหน้าใหม่อย่างบิ้กป้อมมานั่งบัญชาการ แต่นักการเมืองเขี้ยวลากพวกนี้ รู้วิธีการ ประกาศิตบิ้กป้อม จึงไม่ค่อยสะเด็ดน้ำ ลิ่วล้อเกาะแข้งเกาะขาลากโยงบัญชาการ แย่งชิงนั่งกรรมาธิการ หวังแปรงบลงพื้นที่ฐานเสียงเหมือนโลกจะแตก จะตายวันตายพรุ่งกันเสียให้ได้
*** จับตาดีๆ ไม่เฉพาะงบประมาณปี 64 แต่งบเงินกู้ 4 แสนล้านแก้โควิด-19 ขาใหญ่เจ้าประจำแพ็กกัน ตั้งโต๊ะค้างบประมาณกันวุ่นวาย ที่ปูดกันออกมาก่อนหน้านี้ที่ตัวเลข 80 ล้าน ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ บางรายบอกส.ส.ให้นั่งเฉยๆ เดี๋ยวจัดสรรงบ เขียนโครงการให้เอง ท้าทาย ทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาสภาพัฒน์ ที่กำลังจะเกษียณในอีกไม่กี่วัน จะปล่อยให้เป็นเช่นนั้นหรือ ให้ระวังวิธีการอันแยบยลของนักการเมืองพวกนี้ฝากงบก่อนนี้และหัวคิวไว้กับจังหวัดต่างๆเสนอเข้ามาอย่างแนบเนียน เงินก็ไม่ค่อยจะมี ปล่อยให้รุมทึ้งกันเช่นนี้มันไหวหรือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องชัดเจน ปิดช่อง อย่าปล่อยให้พวกนี้ขี่คอ เบียดบังเงินหลวง
*** ไปที่การค้าขายเอกชนแว่วว่า สยาม พรีเมี่ยม เอาท์เล็ต กรุงเทพ (Siam Premium Outlets Bangkok) พรีเมี่ยม เอาท์เล็ตเวิลด์คลาสแห่งแรกของเมืองไทย คนเข้าแถวต่อคิวยาวเหยียด ในร้านค้าแบรนด์ดังๆอย่าง Burberry จากอังกฤษ Balenciaga จากสเปน ช็อปแฟชั่นชั้นนำของโลก แทบไม่มีที่ว่าง เมื่อแบรนด์ดังลดราคากระหน่ำ ประกอบกับคนไทยไม่สามารถเดินทางไปช็อปปิ้งในต่างประเทศได้เป็นเวลานาน จึงโหยหาแบรนด์ดังและทวงถามชื่อเสียงประเทศนักช็อปปิ้งคืนมาในทันใด มองมุมนี้ชี้ให้เห็นว่า คนไทยไม่ใช่จะขาดกำลังซื้อกันเสียเลยทีเดียว เงินนะมีแต่ก็บางกลุ่มเท่านั้น
*** มีเงินบ้างก็ไปเที่ยวกันหลวงช่วยสมทบให้ด้วย โดยรัฐบาลเขาออกแคมเปญ “เที่ยวปันสุข” มีทั้งแพ็คเกจ “เราเที่ยวด้วยกัน” และ “กําลังใจ” แพ็คเกจ "เราเที่ยวด้วยกัน" เปิดให้ลงทะเบียนรับสิทธิ์ในวันที่ 15 ก.ค. 63 แค่มีบัตรประชาชนและอายุ18 ปีบริบูรณ์ ณ วันที่ลงทะเบียนได้รับสิทธิเมื่อท่องเที่ยว กิน และนอน ในจังหวัดที่ไม่ใช่ทะเบียนบ้านของตนเอง เข้าไปลงทะเบียนรับสิทธิผ่านเว็บไซต์ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ติดตั้งแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" จองโรงแรม เสร็จแล้วเขาจ่ายเงินค่าโรงแรมผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" ให้ 60 %ของค่าห้อง เดินทางไปเช็คอิน จะได้รับอีเวาเชอร์ 600 บาท/คืนทุกวัน เมื่อเช็คเอาท์แต่อีเวาเชอร์ยังเหลือก็สามารถใช้ได้จนถึงเที่ยงคืนของวันนั้นและยังมีการขอเงินคืนค่าตั๋วเครื่องบินได้ 40 % เพียงกรอก บุ๊คกิ้ง นัมเบอร์ หรือเลขที่การจองในเว็บไซต์ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ก็รอรับเงินคืน ขอให้เที่ยวให้สนุก และหวังว่าจะช่วยกระตุก กระตุ้น ต่อลมหายใจให้ธุรกิจท่องเที่ยว ทั้งเล็กทั้งใหญ่ให้มีชีวิตต่อไปได้บ้าง*****