ประเด็นทางการเมืองเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจและน่าติดตามคือ คดี 64 ส.ส. “ถือหุ้นสื่อ” ซึ่ง “ศาลรัฐธรรมนูญ” นัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ ลงมติและอ่านคำวินิจฉัยให้คู่กรณีฟัง วันพุธที่ 28 ต.ค.2563 นี้
คดีดังกล่าวประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องขอให้ศาลวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ว่า สมาชิกสภาพ ส.ส. 32 คน ของฝ่ายรัฐบาล และอีก 32 คนของฝ่ายค้าน สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101(6) ประกอบมาตรา 98(3) หรือไม่
ทั้งนี้ศาลได้นัดอ่านคำวินิจฉัยแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ ในเวลา 15.00 น. อ่านคำวินิจฉัยในส่วนของส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ที่ถูกส.ส.พรรคฝ่ายค้านเข้าชื่อยื่นคำร้อง 32 คน ประกอบด้วย พรรคพลังประชารัฐ 21 คน, ประชาธิปัตย์ 8 คน, ชาติพัฒนา 1 คน, รวมพลังประชาชาติไทย 1 คน และ ประชาภิวัฒน์ 1 คน
ขณะที่ในเวลา 16.00 น. เป็นการอ่านคำวินิจฉัยในส่วนของส.ส.ฝ่ายค้าน ที่ถูกส.ส.ฝ่ายรัฐบาล คือ พรรคพลังประชารัฐ เข้าชื่อยื่นคำร้อง ประกอบด้วย ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ (ขณะนั้น) 20 คน, เพื่อไทย 4 คน, เพื่อชาติ 4 คน, เสรีรวมไทย 3 คน และ ประชาชาติ 1 คน
ประเด็นสำคัญที่ศาลจะใช้ประกอบคำวินิจฉัยคือ บริษัทที่ถือหุ้นประกอบ “กิจการสื่อ” และมี “รายได้” จากการประกอบกิจการเกี่ยวกับสื่อจริงหรือไม่ เพราะเวลาจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท ส่วนใหญ่จะระบุใน “หนังสือบริคณห์สนธิ” ไว้แบบ “ครอบจักรวาล”
อย่างไรก็ตาม ในจำนวน 64 ส.ส.ที่ถือครองหุ้นนี้ “จิ้กจกตัวใหญ่” แถวศาลรัฐธรรมนูญ กระซิบส่งเสียงมาว่า งานนี้มี ส.ส. 1-2 คน “ตกเก้าอี้” ส่วนจะเป็นใคร พรรคไหน 28 ต.ค.นี้ ได้รู้กัน
อ่อ...ส.ส.คนไหนที่ถูกศาลวินิจฉัยว่า “ผิด” ก็จะมีความผิดตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 98 (3) ที่จะมีความผิดตาม พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส.ด้วย ที่ระบุว่า ผู้ใดรู้อยู่แล้วตนไม่มีสิทธิสมัครเนื่องจากขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้ามมิให้ใช้สิทธิสมัครแล้วมาลงสมัคร ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับ 20,000-200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งเป็นเวลา 20 ปี ...ลุ้นๆๆๆ