วัคซีนโควิด-19 ความหวังฟื้นฟู สังคม-เศรษฐกิจโลก

+++ ยินดีกับ มาร์กาเรต คีแนน คุณยายชาวอังกฤษวัย 90 ปี ที่เป็นผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ที่คิดคันและผลิตโดยบริษัทไฟเซอร์ ที่ได้รับอนุมัติแล้วคนแรกของโลก ตามรายงานข่าวระบุว่านางคีแนน เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่โรงพยาบาลท้องถิ่นในเมืองโคเวนทรี ทางตอนกลางของอังกฤษ ก่อนที่เธอจะมีอายุครบ 91 ปีในสัปดาห์หน้า คุณยายคีแนนงกฤษ เปิดใจว่า เธอรู้สึกว่าตนเองได้รับสิทธิพิเศษที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เป็นคนแรกในโลก และนับเป็นของขวัญก่อนถึงวันเกิดที่ดีที่สุดที่อยากได้ เพราะจะสามารถกลับไปใช้เวลาอยู่ร่วมกับครอบครัวและเพื่อนฝูงในช่วงเทศกาลปีใหม่ หลังจากที่ต้องอยู่ตัวคนเดียวมาตลอดทั้งปีนี้
 

+++ ประเทศอังกฤษได้เริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่พัฒนาโดยบริษัทไฟเซอร์และไบโอเอ็นเทค ในวันที่ 8 ธันวาคม ที่ผ่านมา เป็นวันแรก และเป็นประเทศแรกในชาติตะวันตกที่เริ่มฉีดวัคซีนให้ประชาชนทั่วไป ถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในการรับมือกับการระบาดของโควิด-19 ถือเป็นการสร้างความหวังในการควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทำลายเศรษฐกิจและคร่าชีวิตผู้คนกว่า 1.5 ล้านคนทั่วโลก และมีผู้ติดเชื้ออย่างน้อย 65 ล้านคน

+++ นอกจากที่อังกฤษแล้ว หลายประเทศก็ประสบความสำเร็จในการคิดค้นและผลิตวัคซีนเพื่อป้องกันไวรัสโควิด-19 เช่น สหรัฐอเมริกา ผลิตวัคซีน โดย "โมเดอร์นา" (Moderna) บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพและเวชภัณฑ์ของสหรัฐ ที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสได้เกือบ 95% จีนก็มีวัคซีนโคโรแวก (Coronavac) ของซิโนแวกไบโอเทค ขณะที่รัสเซีย ก็ได้ฉีดวัคซีนป้องกันให้กับมนุษย์ไปแล้ว โดยวัคซีนดังกล่าวได้รับการตั้งชื่อว่า Sputnik-V …ทั้งนี้ปัจจุบัน ทั่วโลกกำลังผลิตวัคซีนเพื่อป้องกันโควิด-19 มากกว่า 100 ชนิด บางส่วนได้ผ่านการทดลองกับมนุษย์แล้ว
 

+++ การจะต่อสู้และรับมือกับ “มฤตยูไวรัสโควิด-19” ได้ นอกจากยารักษาแล้ว “วัคซีน” เท่านั้นที่เป็นความหวังของมวลมนุษยชาติที่จะหยุดยังการคร่าชีวิตมนุษย์ได้ หาก “วัคซีน” ที่ผลิตออกมาสามารถยังยั้งเชื้อโรคร้ายสายพันธุ์ใหม่นี้ได้ ก็จะส่งผลให้วิถีชีวิตของชาวโลกกลับคืนสู่ปกติ กิจกรรมทางสังคมและเศรษฐกิจ ก็จะกลับมาคึกคักดังเดิม อันจะเป็นผลดีต่อ “สังคม” และภาวะ “เศรษฐกิจ” ที่ย่ำแย่ไปตามๆ กันทั่วโลก รวมถึง “ประเทศไทย” ด้วย “วัคซีน” แพร่หลายกระจายไปได้ทั่วโลกเมื่อไหร่ เมื่อนั้นสังคมโลกก็ไม่ต้องหวาดผวากับไวรัสร้ายตัวนี้อีกต่อไป  

+++ ทำเอาฮือฮา! กันพอสมควรกับการแถลงข่าวจับกุม “เคตามีน” ล็อตใหญ่  11.5 ตัน มูลค่าเกือบ 3 หมื่นล้านบาท ที่ “สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด” หรือ ป.ป.ส. บุกจับได้ที่โกดังย่านบางปะกง ช่วงที่ผ่านมา แต่จากการตรวจสอบอย่างละเอียด กลายเป็นความเข้าใจผิด “เคตามีน” ที่ว่าเป็นเพียง “ไตรโซเดียมฟอสเฟส” สารเคมีอุตสาหกรรมอาหาร แน่นอนว่าความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ถูกตั้งคำถามคำโตๆ จากสังคม แต่หากย้อนฟังคำชี้แจงของ ป.ป.ส.ที่ยอมรับความผิดพลาด และระบุว่า ไตรโซเดียมฟอสเฟต เป็นสารใหม่และไม่เคยปรากฏขึ้นในประเทศไทย เป็นองค์ความรู้ใหม่ที่ ป.ป.ส.ไม่เคยทราบมาก่อนว่า สารเคมีดังกล่าวจะมีผลตรวจเป็นสีม่วง ลักษณะเดียวกับเคตามีน ประกอบกับเมื่อดูผลงานของ ป.ป.ส. ภายใต้การนำของ “วิชัย ไชยมงคล” เลขาธิการ ป.ป.ส. ยังถือว่าเป็นที่มั่นใจให้กับสังคมได้ เพราะแม้เลขาฯ ป.ป.ส.จะเข้ารับตำแหน่งได้แค่เดือนเศษๆ แต่ผลงานการปราบปรามยาเสพติด ถือว่าไม่ขี้ริ้วขี้เหร่ทีเดียว เพราะมีการจับกุม ยึดทรัพย์ได้อย่างต่อเนื่อง
 

+++ โดยเฉพาะปฏิบัติการสยบไพรี 64/1 ที่สามารถปราบปราม ตรวจจับ ยึดทรัพย์-ตัดวงจรยาเสพติด ได้น่าพอใจ สามารถยึดทรัพย์ได้หลายรายการ ทั้งรถยนต์ รถบิ๊กไบค์ บัญชีเงินฝากกว่า 44 ล้านบาท รวมทั้งการบุกยึดเงินดอลลาร์ที่คิดมูลค่าเป็นเงินไทยกว่า 90 ล้านบาท รวมถึงการจับกุมและปราบปรามยาเสพติดอย่างเข้มข้น … ยาเค 11.5 ตัน ถือเป็นบทเรียน ที่ “วิชัย ไชยมงคล” ต้องแก้ไข และเดินหน้าภารกิจปราบปรามยาเสพติด ตามนโยบายของ “สมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม” ที่เพิ่งคิกออฟ “เปิดแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พ.ศ.2564” ไปหมาดๆ ซึ่งต้องเรียกคืนความเชื่อมั่นให้ ป.ป.ส.เป็นที่มั่นใจของสังคมอีกครั้ง...
 

+++ ไปปิดท้ายกันที่ข่าวประชาสัมพันธ์ ...สํานักงานศาลยุติธรรมเปิดรับสมัครสอบคัดเลือกบุคคลทั่วไปเพื่อรับทุนการศึกษา ระดับปริญญาโท ณ ต่างประเทศ ประจําปี 2564 จํานวน 3 ทุน ในสาขาวิชากฎหมายภาษีอากร กฎหมายสิ่งแวดล้อม และ กฎหมายเทคโนโลยี เน้นการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยกําหนดเปิดรับสมัครระหว่างวันพุธที่ 2 ธันวาคม 2563 ถึงวันอังคารที่ 2 กุมภาพันธ์ 2564 ผู้สนใจต้องสมัคร online ทางหน้าเว็บไซต์สํานักการต่างประเทศ สํานักงาน ศาลยุติธรรม ได้ที่ http://oia.coj.go.th/th/content/category/detail/id/21/id/220431 หรือ QR Code สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ส่วนกิจการต่างประเทศ สํานักการต่างประเทศ สํานักงานศาลยุติธรรม ชั้น 12 อาคารศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพมหานคร หมายเลขโทรศัพท์ 0 25412320,  0 25412284 - 91 ต่อ 1280