>> การระบาดของเชื้อ Covid-19 ที่มีจุดเริ่มต้นจากตลาดกุ้งมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร เป็นสาเหตุทำให้ SET วันจันทร์ที่ 21 ธ.ค.ร่วงถึง 80.60 จุด หรือ 5.44% อาจเป็นจุดเริ่มต้นของหุ้นขาลงรอบใหม่ของตลาดหุ้นไทย เพราะนอกจากไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามาแล้ว ยังมีปัจจัยลบอีกเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าเป็นดัชนีหุ้นในหลายกลุ่มอุตสาหกรรม ที่ปรับตัวสูงขึ้นมากจนแทบจะเต็มมูลค่า จากความเชื่อว่า วัฏจักรของโรค Covid-19 ในประเทศ น่าจะใกล้ถึงจุดจบแล้ว แต่ความจริงคนละเรื่อง กลายเป็นจุดเริ่มต้นการระบาดรอบใหม่ จำนวนผู้ติดเชื้อต่อวันเพิ่มขึ้น หลายร้อยคนอย่าลืมว่าแรงงานต่างด้าวในมหาชัย มีหลายแสนคน ตัวเลขที่ตรวจพบ ยังไม่ถึง 1% ของแรงงานต่างด้าว
>> ขณะที่วัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส Covid-19 ที่ประชาชนจะเข้าถึงชุดแรกก็น่าจะมาในช่วงกลางปีหน้า (2564) เป็นอย่างเร็ว...เจ๊เมาธ์เชื่อว่า วิธีการป้องกันตัวเองและหยุดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 เป็นเรื่องที่คนไทยทุกคนรู้อยู่แล้วว่าต้องดำเนินการอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นวิธีการใช้หน้ากากอนามัยที่ถูกต้องการล้างมือ...และการหลีกเลี่ยงการเข้าไปอยู่ในที่ชุมชน
>> นาทีนี้ การดูแลตนเองให้ดีที่สุดเป็นสิ่งเดียวที่รับประกันได้ว่า จะไม่มีใครติดเชื้อ Covid-19 เพราะถ้าตัวคุณเองไม่ดูแลตัวเอง อย่าไปหวังให้ใครมาดูแลเรา เจ๊เมาธ์ยึดคติ ตนเป็นที่พึ่งแห่งตนค่ะ ดูแลสุขภาพกันด้วยนะคะ รักนะทุกๆ คน
>> STA กับ STGT กลายเป็นหุ้นที่นักลงทุนแปลกใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ราคาหุ้นยืนสวนตลาดที่ร่วง 80 จุดได้ ทั้งๆ ที่การเริ่มต้นระบาดโควิด เริ่มแล้ว ผิดกับการระบาดรอบแรกเดือนมี.ค.-เม.ย. แม่-ลูก คู่นี้ ซิ่งทะลุฟ้า หรือว่า นักลงทุนซึมซับข้อมูลกันไปแล้วว่า STGT ผลิตถุงมือยางเต็มกำลังการผลิตไปจนถึงกลางปี 2565 ก็คงคาดการณ์รายได้และกำไร ไปล่วงหน้าแล้ว ต่อให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นหลายพันคน ก็ไม่มีผลกับ STGT แล้วค่ะ
>> ส่วน STA ซึ่งเป็นทั้งบริษัทแม่ และขายวัตถุดิบหลัก (ยางพารา) ในการผลิตให้กับ STGT ก็ไม่สามารถที่จะเพิ่มรายได้จากการขายยางพาราได้เช่นเดียวกัน จึงไม่ต้องแปลกใจที่ทำไมทั้ง STA และ STGT ไม่โดดเด่นในกระดานหุ้นรอบนี้ เอวัง...ก็มีด้วยประการละฉะนี้เจ้าค่า
>> หุ้นกลุ่มธนาคาร KBANK SCB BBL KTB และ TMB กลายเป็นกลุ่มหุ้นที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส Covid-19 มากที่สุดกลุ่มหนึ่ง สาเหตุเพราะ ธนาคาร คือ ตัวแทนของมุมมองทางเศรษฐกิจ ถ้าการแพร่กระจายของ Covid-19 มีแนวโน้มกระทบกับระบบเศรษฐกิจมากเท่าใด หมายความว่าหุ้ นธนาคารจะเป็นด่านหน้าที่ได้รับผลกระทบก่อนหุ้นกลุ่มอื่นใดในทางกลับกันการที่หุ้นธนาคารกลับฟื้นตัวขึ้นมาในระยะเวลาเพียงไม่นาน หมายความว่า นักลงทุนมองการแพร่กระจาย Covid-19 ยังไม่ถึงขั้นสั่นคลอนภาวะเศรษฐกิจได้นั่นเองเจ้าค่ะ
>> สืบเนื่องจากการลงทะเบียน “คนละครึ่ง” สัปดาห์ที่ผ่านมา ค่ายดีแทคเกิดล่ม ลูกค้าด่ากันขรม ชดเชยความเสียหาย ก็แล้ว ดราม่าไม่จบ เมื่อ “เสี่ยบุญชัย เบญจรงคกุล” ประธานบอร์ดค่ายดีแทค จะเสียเพราะ “ตั๊ก” ภรรเมียสุดเลิฟ ที่ดราม่าท้าทายให้ย้ายค่าย ...หากลูกค้าแห่ย้ายค่ายจริงๆ มีหนาวนะเสี่ย
>> ร่วมฉลองคริสมาสต์กันสัปดาห์นี้ ด้วยหุ้น IPO 3 ตัวส่งท้ายปี 2563 ...เริ่มต้นด้วย IND คว้าชัยไปแล้ว เปิดเหนือจอง 1.55 บาท (IPO 1.10 บาท ) แล้ว โชว์ซิ่งทะลุ 3 บาท ไปทำนิวไฮเพียงไม่กี่นาที 3.10 บาท ประทับใจนักลงทุน ตัวเล็กยังแผลงฤทธิ์ได้ขนาดนี้ แล้วหุ้นพี่เบ้งอย่าง เคอรี่ เอ็กซ์เพรส ( KEX ) จะแรงขนาดไหน อดใจรอชม 24 ธ.ค. นี้ รู้กัน เป็นหุ้นตัวที่ได้รับการคาดหมายว่า จะเป็นดาวรุ่งทำให้ตลาดหุ้นไทยคึกคักได้ปลายปีนี้ เพราะธุรกิจของ KEX เป็นสิ่งใกล้ตัวที่คนทั้งประเทศ รู้จักกันอย่างดี และต้องมีสักครั้งสิน่า ที่ใช้บริการรับส่งพัสดุภัณฑ์ของ “เคอรี่ เอ็กซ์เพรส”
>> ส่วน SA (ไซมิส แอสเสท) IPO ปิดท้ายซื้อขายของปีนี้ 25 ธ.ค. เป็นหุ้นที่ เจ้าของ-ผู้ถือหุ้นใหญ่ “ขจรศิษฐ์ สิ่งสรรเสริญ” มีโปรไฟล์ไม่ธรรมดา เพราะ SAถ่ายทอดเอา “ดีเอ็นเอ” ออกมาจากบริษัทรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ “ฤทธา” ที่เสี่ยขจรศิษฐ์ เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง “ฤทธา” ขึ้นมากับมือนั่นเอง ปัจจุบัน SA มี Backlog ในมือ 9.44 พันล้านบาท รับรู้รายได้ในปี 63-64-65 จุดเด่นที่เป็นจุดแข็งหากเจ๊เมาธ์ ไม่เล่าสู่ให้ฟัง จะรู้สึกผิด ก็คือ การควบคุมต้นทุนก่อสร้าง จนทำให้กำไรขั้นต้นทำได้ดีมาก จาก 29% ในปี 60 เพิ่มขึ้นมาเป็น 41.7% .ในปี 62 ดังนั้นเจ๊เมาธ์จึงมองว่า SA เป็นอีกหนึ่งในหุ้น IPO ที่น่าจับตามองไม่น้อยกว่าหุ้นตัวใดทั้งสิ้นไงค่ะ แล้วถ้ามีหุ้น IPO ดีๆ แล้วเจ๊จะมาเล่าให้ฟังอีกค่ะ...ตอนนี้ขอให้แฟนคลับเจ๊เมาธ์ทุกๆ คน เฮงๆ รวยๆ หุ้นกันจ้า