>> ดัชนีหุ้นไทยยังไซเวย์ในทิศทางบวกตามแนวโน้มของตลาดโลก ขณะที่สหรัฐอเมริกากำลังเดินเข้าไปสู่การเปลี่ยนถ่ายอำนาจจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไปสู่นายโจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ ซึ่งจะขึ้นรับตำแหน่ง 20 มกราคม ซึ่งเรื่องที่ทั่วโลกจับจ้องมากที่สุด คือ นโยบายการค้าของสหรัฐฯ ที่จะนำมาใช้กับจีน รวมไปถึงนโยบายของสหรัฐที่มีต่อตะวันออกกลาง
>> ขณะเดียวกัน ราคานํ้ามันดิบในตลาดโลก ปรับตัวขึ้นอย่างน่าจับตามองจากความเป็นเอกภาพของกลุ่มโอเปค (OPEC) ที่เริ่มเห็นโดดเด่น รวมไปถึงการที่ประชาชนของหลายประเทศ เริ่มเข้าถึงวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส Covid-19 ทำให้ทิศทางของตลาดหุ้นทั่วโลก กำลังปรับตัวเป็นขาขึ้น
>> ตลาดหุ้นไทย เริ่มผ่อนคลายการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 รอบใหม่ ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวัน ค่อย ๆ ลดน้อยลง จนทำให้ทิศทางของตลาดหุ้นไทย กลายเป็นขาขึ้นนับจากช่วงต้นปีที่ผ่านมา ถึงตอนนี้ กลับมาจับจ้องแนวทางนโยบายของผู้นำคนใหม่ของประเทศสหรัฐฯ ตามทิศทางของตลาดหุ้นทั่วโลกเช่นกัน
>> เบ่งคลอดแล้วค่ะ PTTOR ...IPO แห่งปี 2564 ราคาเสนอขายเบื้องต้นราว 16-18 บาท ผู้ถือหุ้น PTT ที่ได้สิทธิมาก-น้อย ตามสัดส่วนการถือหุ้น PTT …ส่วนรายย่อยที่ต้องการหุ้น OR เตรียมเงินค่ะ 24 ม.ค. เวลา 12.00 น. - 2 ก.พ. ผ่านแบงก์ Kbank, BBL, KTB ส่วนผู้ถือหุ้น PTT ที่ได้สิทธิจัดสรร OR สัดส่วน 95.1997 หุ้น PTT ต่อ 1 หุ้น OR เปิดจอง 25-28 ม.ค. ส่วนราคาสุดท้าย จะรู้ผล 3 ก.พ. ...เจ๊เมาธ์ฟันธงค่ะ ราคาสูงที่สุดไว้ก่อน 18 บาท เหมือนหุ้นหลายๆ ตัวเวลาตลาดดี ก็ขอขายราคาดีๆ ...เรื่องก็มีเท่านั้นแหละค่ะ
>> ราคาหุ้น CWT ของ “เสี่ยวี - วีระพล ไชยธีรัตต์” ค่อยๆ ถูกไล่ราคาขึ้นมาอย่างช้าๆ นับตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา ได้ข่าวบริษัทย่อย “สกุลฏ์ชี” ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ CWT กำลังได้รับความสนใจจากกลุ่มพลังงาน-บริษัทผู้ผลิตแบตเตอร์รี่ รถยนต์ไฟฟ้า เข้าร่วมลงทุนเพื่อร่วมกันพัฒนาสินค้า ซึ่งได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจเบื้องต้นไปแล้ว คาดว่า ความคืบหน้าการลงทุนทางธุรกิจ จะมีความชัดเจนในเร็ววันนี้
เจ๊เมาธ์ ขยายความเพิ่มเติม สำหรับ “สกุลฏ์ชี” เป็นบริษัทที่มีความสามารถผลิตรถบัสพลังงานไฟฟ้า โดยใช้ตัวถังอลูมิเนียมรายแรกของโลก หากบรรลุข้อตกลงรวมกันได้ จะทำให้ CWT กลายเป็นบริษัทที่ถูกเปลี่ยนแปลงโครงสร้างรายได้พื้นฐาน รวมไปถึงราคาหุ้นหน้ากระดานของ CWT มีโอกาสถูกปรับเปลี่ยนมุมมองได้เช่นกัน ส่วนจะเป็นเรื่องจริงแค่ไหน อีกไม่นานก็คงจะได้รู้กันค่ะ
>> หุ้นในกลุ่ม Non-Bank หลายตัวอย่างเช่น SAWAD MTC AEONTS KTC และ SAK กำลังได้รับความสนใจจากนักลงทุนหลายกลุ่มโดยมีเรื่องมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยเฉพาะเรื่องเงินกู้ดอกเบี้ยตํ่า (Solf Loan) ที่อาจจะถูกนำกลับมาใช้ภายหลังจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 รอบใหม่ และแนวโน้มผลการดำเนินงานกลุ่มนี้แทบทุกตัวที่ดูเหมือนว่าในปี 2563 จะเป็นปีที่ดีมากอีกปีหนึ่งนั้นเอง เพราะว่าการระบาดของเชื้อ Covid-19 ครั้งแรก ทำให้ประชาชนจำนวนหนึ่งต้องการเข้าถึงเงินทุนหมุนเวียนทางธุรกิจและการดำรงชีวิต
อย่างไรก็ตามหุ้นกลุ่มนี้ ยังมีความเสี่ยงที่เกิดจากหนี้ที่ไม่เกิดรายได้ (NPLs) จากการระบาดของ Covid-19 เช่นกัน ดังนั้นการจะเลือกหุ้นในกลุ่มนี้เพื่อการลงทุนในมุมมองของเจ๊เมาธ์ เจ๊มองว่า เมื่อนำตัวเลขทางธุรกิจต่าง ๆ มาเปรียบเทียบกัน ทำให้เห็นได้ว่า ธุรกิจของหุ้นในกลุ่มนี้ ยังมีโอกาสไปต่อได้อีกมาก ส่วนถ้าใครจะชอบหรือไม่อันนั้นก็เป็นมุมมองส่วนบุคคลแล้วค่ะ
>> ไปที่ CBG กันบ้าง ราคายืนเหนือ 120 บาทได้ มีโอกาสไปต่อ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องผลการดำเนินการ 9 เดือนแรกของปี 63 ที่มีกำไร 2,651 บาท มากกว่ากำไรปี 62 ทั้งปี และจะส่งผลให้กำไรทั้งหมดของปี 63 สามารถทำนิวไฮ ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ มองว่ากำไรไตรมาสที่ 4/63 ของ CBG มีโอกาสที่จะทำนิวไฮ โดย บล.หยวนต้า ให้ราคาเป้าหมายเอาไว้ที่ 152.50 บาท บล.บัวหลวง ให้ราคาเป้าหมาย 138 บาท และถ้าหากมองไปที่มุมมองทางเทคนิค ราคาหุ้นของ CBG สามารถยืนเหนือ EMA 15, 45, และ 100 ได้แล้ว ในขณที่ ค่า MACD และ RSI ก็ยืนอยู่ในแนวโน้มที่เป็นบวก ดังนั้นเจ๊เมาธ์ จึงเห็นว่า เป็นไปได้มากที่ CBG จะสามารถไปต่อได้อีกเจ้าค่ะ
>> TASCO เป็นหุ้นอีกหนึ่งตัวที่จะได้รับอานิสงส์จากการเข้าดำรงตำแหน่งของนายโจ ไบเดนว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ เนื่องจากหลายฝ่ายคาดการณ์กันว่า โอกาสที่นโยบายต่างประเทศของนายโจ ไบเดน มีความยืดหยุ่นสูงกว่านโยบายของ “โดนัลด์ ทรัมป์” โดยเฉพาะอย่างยิ่งการยกเลิกการควํ่าบาตรที่มีต่ออิหร่านและเวเนซุเอลา ซึ่งเป็นประเทศ ที่ TASCO ใช้นํ้ามันดิบจากประเทศนี้ เพื่อเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตยางมะตอย ซึ่งTASCO เอง ได้เพิ่มทางเลือกใช้นํ้ามันดิบจากแหล่งอื่น เพื่อใช้ในการผลิต ขณะที่กำไรงบไตรมาส 4/63 ที่คาดว่าจะออกมาดี สนับสนุนด้วยอัตรากำไรที่ดีขึ้น ตามทิศทางราคายางมะตอยที่เพิ่มขึ้น และยังมีกำไรพิเศษจากค่าสินไหมประกันภัยอีก 179 ล้านบาท ดังนั้นการที่ราคาหุ้นของ TASCO จะมีความเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่เป็นบอกในช่วงเดือน มกรา-กุมภา จึงมีโอกาสเป็นไปได้มาก แนะนำว่าให้จับตาดูค่ะ