OR เกมหุ้น... ก่อนเข้าตลาด 

05 ก.พ. 2564 | 01:20 น.
อัปเดตล่าสุด :05 ก.พ. 2564 | 01:23 น.

OR เกมหุ้น... ก่อนเข้าตลาด : คอลัมน์เมาธ์ทุกอำเภอ ฐานเศรษฐกิจ ฉบับ 3651 หน้า 13 ระหว่างวันที่ 7-10 ก.พ.2564 By…เจ๊เมาธ์

 

>> ช่วงนี้ข่าวสารออนไลน์มีการพูดถึงเรื่องของ “เกมหุ้น” ในตลาดหุ้นสหรัฐฯ เรื่องการต่อสู้กันระหว่างกลุ่มนักลงทุนรายย่อยกับกลุ่มกองทุนที่เกี่ยวกับหุ้น GameStop กันอย่างหนาหู นัยว่าเป็นเกมที่นักลงทุนรายย่อยสามารถรวมกลุ่มกดดันและเอาชนะกลุ่มกองทุนได้ เนื่องจากกองทุนใน Wall Street ยืมหุ้นของ GameStop มาทำการ Short Sell เป็นจำนวนมากจนนักลงทุนรายย่อยสามารถจับได้ จนเกิดการเอาคือโดยการรวมตัวกันดันราคาหุ้นของ GameStop ให้ปรับขึ้นไปอีกหลายสิบเท่าตัวเพื่อบังคับให้เหล่าบรรดากองทุนต้องซื้อหุ้นคืนในราคาแพง แต่นั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้น Wall Street เท่านั้น แต่ถ้าหากเอาเรื่องแบบนี้เมื่อเอามาเปรียบเทียบกับตลาดหุ้นไทย เจ๊เมาธ์บอกได้เลยว่าโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้แบบนั้นมีน้อยมาก...หรืออาจจะไม่สามารถเกิดขึ้นเลยก็เป็นได้ค่ะ 

กระบวนการ Short Sell เริ่มต้นโดยผู้ที่ไม่มีหุ้นอยู่ในมือ และมองว่าแนวโน้มราคาหุ้นจะลง และต้องการทำกำไรหุ้นขาลงโดยการขอยืมหุ้นจากบริษัทหลักทรัพย์ได้ในเวลาที่ตกลงกัน ซึ่งจะมีค่าธรรมเนียมในการยืมหุ้น เมื่อถึงเวลาจะต้องซื้อหุ้นมาส่งมอบคืนกับผู้ให้ยืม ซึ่งสำหรับการ Short Sell ในตลาดหุ้นไทยถือว่าเป็นธุรกรรมที่สามารถทำได้ถูกต้องตามกฎหมายเช่นกัน

สิ่งที่เจ๊เมาธ์ต้องการจะบอกคือ ทิศทางการเคลื่อนที่ของราคาหุ้นในตลาดหุ้นไทย ไม่ได้เกิดขึ้นจากเรื่องของพื้นฐานที่มาจากการดำเนินธุรกิจของบริษัทนั้นๆ แต่เพียงอย่างเดียว...แต่ทิศทางของราคาหุ้นไทยยังเกิดขึ้นจากการชี้ชวน หรือชักนำของสื่อมวลชนแท้ และสื่อมวลชนเทียม รวมไปถึงบทวิเคราะห์ที่มาจากโบรคเกอร์ต่างๆ ที่มีผลประโยชน์แอบแฝงอยู่ ดังนั้นโอกาสที่นักลงทุนรายย่อย...หรือที่เรียกกันว่าแมงเม่าในตลาดหุ้นไทยจะสามารถต่อสู้กับกลุ่มนายทุนจึงเป็นไปได้อย่างยากยิ่งเจ้าค่ะ เพราะตราบใดที่ยังถูกชี้นำ...ตราบนั้นก็ยังต้องเดินตามเกมที่ถูกกำหนดเอาไว้นั่นเอง

>> ในที่สุด OR หรือชื่อที่หลายคนยังเรียกติดปากอยู่ว่า PTTOR ก็ได้เปิดราคาจองซื้อหุ้น IPO มาแล้วในราคา 18 บาท/หุ้น ในขณะที่มีกองทุนจำนวน 4 กองทุนยกเลิกการจองซื้อหุ้นของ OR จำนวน 51,244,500 หุ้น โดยหุ้นจำนวนที่ว่านี้จะถูกโอนย้ายมาให้กับนักลงทุนรายย่อย ขณะเดียวกันหุ้นกรีนชู (Green Shoe) จำนวน 310 ล้านหุ้นก็อาจจะถูกยกเลิกเพื่อนำหุ้นมาแจกให้กับนักลงทุนรายย่อยเพื่อให้นักลงทุนรายย่อยได้รับการจัดสรรหุ้นในจำนวนคนละ 1,000 หุ้น จากเดิมที่คาดว่าจะได้คนละ 300 หุ้น 

เรื่องของราคาหุ้น OR ในวันเปิดทำการซื้อขายวันแรกจะปรับขึ้นหรือลงจากราคาจองซื้อ 18.00 บาท/หุ้น ยังเป็นเรื่องที่ยังไม่มีใครคาดการณ์ได้ แต่เรื่องของการพยายามผลักดันให้มีหุ้นกระจายไปสู่นักลงทุนรายย่อยได้เกิดขึ้นแล้ว 

แต่หลังจากนี้อีกไม่นานก็คงจะได้รู้กันแล้วว่า ในวันที่เปิดทำการซื้อขายหุ้น OR ในวันแรก (First Trading Day) ในกรณีที่นักลงทุนรายย่อยมีหุ้นในมือเป็นจำนวนมาก หุ้นจำนวนหนึ่งจะถูกเทขายออกมา จนทำให้ราคาหุ้นร่วงลงไปตํ่ากว่าราคาจองซื้อจนทำให้เกิดช่องว่างให้นักลงทุนรายใหญ่ มาเก็บหุ้นราคาตํ่ากว่าราคาจองซื้อบนหน้ากระดานหรือไม่ คงต้องมาตามดูกันค่ะ
 

>> ราคาของ MINT ดูเหมือนว่าจะเริ่มได้รับความสนใจมากขึ้นภายหลังจากที่หลายประเทศแจ้งว่าการฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อ Covid-19 สามารถทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อลดลงอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่ประเทศไทยก็ดูเหมือนว่ากำลังมองกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ผ่านการฉีดวัคซีนแล้ว ว่าจะทำให้เป็นกลุ่มเป้าหมายแรกที่จะถูกเชิญชวนให้เข้ามาท่องเทียวในประทศไทย ในช่วงกลางปีนี้เป็นกลุ่มแรก ซึ่งก็ดูจะเป็นผลดีกับ MINT อยู่ไม่น้อย แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับหุ้นตัวนี้ ผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกยังคงขาดทุนอยู่ถึง 15,816 ล้านบาท รวมถึงผลการดำเนินงาน 4/63 ก็ดูแล้วยังไม่น่าจะมีอะไรดีขึ้น ดังนั้นสำหรับเจ๊...หุ้นตัวนี้ยังไม่น่ามองเจ้าค่ะ ของดีๆ ในตลาดยังมีอีกเยอะนะคะ

>> มาที่หุ้น ZIGA กันอีกรอบ สำหรับหุ้นตัวนี้เจ๊เมาธ์เชียร์ขาดใจ เพราะนอกจากราคาหุ้นที่ติดเทอร์โบจนไล่ราคาจาก 2 บาทกว่าๆ จนมาถึงเกือบๆ 6 บาท นี่มันไม่ใช่เรื่องธรรมดา ผลการดำเนินงานแจ่มๆ และเงินปันผลจำนวน 0.161 บาท รวมไปถึงเรื่องของการแจกวอแรนท์ ยังเป็นตัวทำให้หุ้นตัวนี้มีเสน่ห์ให้น่าติดตามต่อไปได้อีกนานไม่รูปว่าเป้าราคาหุ้นที่ท่าน “CEO หนุ่ย” ศุภกิจ งามกิจเจริญ ตั้งเอาไว้นั้นจะอยู่ที่เท่าไหร่กันแน่นะ ดูๆ ไปแล้วไม่แน่ว่าอาจจะถึงเลข 2 หลักก็เป็นไปได้นะคะ
 

>> RS ของเฮียฮ้อ “สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์” ก็เป็นอีกหนึ่งรายที่กระโดดเข้ามาเล่นสตอรี่ “กัญชง” กับเขาด้วย โดยมีบริษัทลูกอย่าง “ไลฟ์สตาร์” จะเข้ามาเป็นหัวหอกของ RS ในการศึกษาและพัฒนาผลิภัณฑ์ที่มาจากกัญชง แต่สิงที่เจ๊เมาธ์จะพูดถึงเรื่องของ RS ในวันนี้ไม่ใช่เรื่องของกัญชงนะคะ เพราะเอาจริงๆ แล้ว...เจ๊มองว่าวิสัยทัศน์ของผู้บริหารอย่าง “เฮียฮ้อ” สำคัญกว่าเรื่องอื่นๆ เพราะ RS เริ่มต้นธุรกิจจากสื่อบันเทิงที่ดึงเอาหลากหลายธุรกิจเข้ามาเป็นตัวเสริมจนทำให้ RS สามารถอยู่ได้อย่างแข็งแกร่งในวันที่ธุรกิจสื่อบันเทิงอื่นๆ ยังพากันล้มลุกคลุกคลาน นี่ต่างหากที่เจ๊เห็นว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของ RS