วันที่ 4 มกราคม 2564 จังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เปิดเผยว่ามีผู้"ติดเชื้อโควิด"รายใหม่เป็นหญิงไทย อายุ 50 ปี เป็นชาว จ.สมุทรสาคร เดินทางมาหาญาติที่จังหวัดสุราษฏร์ธานีตั้งแต่ 28 ธันวาคม 2563 และมีอาการที่เข้าองค์ประกอบ
เมื่อตรวจหาเชื้อพบว่าติดโควิด-19 และเมื่อไล่ดูไทม์ไลน์พบกลุ่มเสี่ยงสูงซึ่งเป็นคนที่อยู่ในบ้านเดียวกันจำนวน 10 รายจึงทำการตรวจหาเชื้อ และพบว่าติดเชื้อเพิ่มมาอีก 6 ราย (อีก 4 รายรอผลการสอบสวนโรค) ส่งผลให้วันนี้วันเดียว จังหวัดสุราษฎร์ธานีพบผู้ติดเชื้อรายใหม่รวม 7 รายที่มีแหล่งติดเชื้อมาจากพื้นที่ จ.สมุทรสาคร
สำหรับไทม์ไลน์ของหญิงวัย 50 ปี มีดังต่อไปนี้
วันที่ 19 - 27 5.ค. 63 อาศัยอยู่บ้าน อ.เมือง จ. สมุทรสาคร
วันที่ 28 5.ค. 63 เวลา 13.25 น. ท่าอากาศยานจากดอนเมือง –สุราษฎร์ธานี สายการบินแอร์เอเชีย เที่ยวบินที่ FB3239 ที่นั่งที่ 6 E จากนั้นนั่งรถส่วนตัวไปบ้านพี่สาว
วันที่ 29 ธ.ค.63 เดินทางไปตลาดศาลเจ้า อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เวลาประมาณ 16.00-17.00 น. ใช้เวลาประมาณ 10 นาที โดยชื้ออาหารไปรับประทานที่บ้านที่สาว จากนั้นเวลา 20.00 น. เดินทางไปรับประทานอาหารเย็น ร้านชาบู อ.ขนอม จ. นครศรีธรรมราช
วันที่ 30 ธ.ค.63 อาศัยบ้านพี่สาว อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี
วันที่ 31 ธ.ค.63 รับประทานอาหารร้านข้าวต้ม ตลาดศาลเจ้า อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ประมาณ 18.00-19.00 น
วันที่ 1 ม.ค.64 รับประทานอาหารร้านชาบูชิ เซ็นทรัล สุราษฎร์ธานี เวลา 15.00 น. - 16.00 น. , วันที่ 2 ม.ค.64 เริ่มป่วย ไอ มีเสมหะ เข้ารักษาที่ รพ.กรุงเทพสุราษฎร์ เก็บตัวอย่าง ส่งตรวจหาเชื้อ
วันที่ 3 ม.ค.64 ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ พบเชื้อ COVID-19
นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ตนเองไม่เข้าใจว่าทำไมบุคคลดังกล่าวซึ่งอยู่ในจังหวัดพื้นที่เสี่ยงจะออกมาทำไม ขณะที่สถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย เป็นคนที่ไม่รับผิดชอบต่อสังคมมาจากพื้นที่เสี่ยงแทนที่จะกักกันตัว14 วันตามมาตรการของ จ.สุราษฎร์ธานี กลับออกไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆทำให้คนในบ้านติดเชื้ออีก 6 ราย รอผลการตรวจอีก 4 ราย
"เคสนี้ กลายเป็นทำลายความสุขความหวังของคนใน จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่ง จ.สุราษฎร์ธานี กำลังจะดีขึ้นจากการผู้ติดเชื้อรายแรกเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม ได้รักษาหายกลับบ้านแล้ว และเป็นเวลา 12 วันไม่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มจากมาตรการที่เข้มข้น แต่กลับมามีรายที่ 2 ถึงรายที่ 8 อีก "
นายวิชวุทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า อย่างไรก็ตามยังเชื่อว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์แพร่ระบาดได้ โดยทางจังหวัดได้มีการจัดตั้งจุดคัดกรองทั่วจังหวัดจำนวน 12 จุด และมีทีมเคลื่อนที่เร็วจำนวน 21 ชุด ในส่วนของโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี มีความพร้อมในการรักษาผู้ป่วยโดยมีห้องแยกความดันลบจำนวน 20 ห้อง ห้องแยกเดี่ยวจำนวน 16 ห้อง และมีโรงพยาบาลสนาม อีก จำนวน 96 เตียง ในกรณีฉุกเฉิน
ทั้งนี้ผู้ที่เดินทางมาจาก 8 จังหวัด พื้นที่สีแดงที่ต้องกักตัว ได้แก่ จ.สมุทรสาคร กรุงเทพ ระยอง นครปฐม นนทบุรี ชลบุรี สมุทรปราการ และจันทบุรี โดยผู้ที่เดินทางเข้ามาพื้นในที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี ต้องกักตัว 14 วัน สวมหน้ากากอนามัย เลี่ยงที่ชุมชน อย่างเคร่งครัด
"ฝากถึงพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดสุราษฎร์ธานีทุกคน ให้ช่วยกันดูแลตัวเองและรับผิดชอบต่อคนรอบข้างด้วยการใส่หน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ และเว้นระยะห่าง เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคดังกล่าว"
นายแพทย์มนู ศุกลสกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ธานี จุดเสี่ยงมีร้านชาบูที่ อ.ขนอม ร้านข้าวต้ม ตลาดศาลเจ้า และร้านชาบูชิ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซาสุราษฎร์ธานี จึงขอแจ้งให้ผู้ในอยู่ร้านในช่วงดังกล่าวตามไทม์ไลน์ของผู้ป่วยให้กักตัวอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน หากไม่แน่ใจให้ไปพบแพทย์
"เชื่อว่ายังเราควบคุมได้ เชื้อจะไม่กระจายในวงกว้าง เนื่องจากพฤติกรรมกลุ่มผู้ติดเชื้อนี้เดินทางไปเป็นกลุ่มก้อนโดยรถส่วนตัว โดยมีจุดเสี่ยงประมาณ 2-3 จุดที่ทีมสอบสวนโรคกำลังดำเนินตรวจสอบ"
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
รวมข่าว "โควิด-19" วันที่ 4 ม.ค.64 แบบอัพเดทล่าสุด
ลุ้น ศบค.เคาะต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉิน คุมระบาดเชื้อโควิด-19 ถึง สิ้นเดือนก.พ.
"โควิด"เป็นเหตุ!ม.รังสิต - ม.กรุงเทพ เปิดแนวทาง"เรียนออนไลน์"
"บิ๊กป้อม"ยันแนวชายแดน ไร้ติดเชื้อ"โควิด-19"เพิ่ม
ไปรษณีย์เตือน หยุดแชร์!! ข่าวปลอม ‘ผู้ติดเชื้อโควิด’ จากจดหมายหรือพัสดุ