กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สถาบันบำราศนราดูร จัดระบบการให้บริการวัคซีนโควิด-19 เป็นต้นแบบให้กับโรงพยาบาลทั่วประเทศนำไปปรับใช้ให้เหมาะสมกับพื้นที่ มี 8 ขั้นตอน ใช้เวลารวม 37 นาที โดยก่อนเข้ารับบริการจะมีการคัดกรอง วัดไข้ ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจล และจัดให้เว้นระยะห่างทุกขั้นตอน และเมื่อเสร็จสิ้นทั้ง 8 ขั้นตอนก็จะให้แอดไลน์ “หมอพร้อม” เพื่อติดตามผล เฝ้าระวังอาการหลังฉีด 1, 7, 30 วัน และแจ้งนัดฉีดเข็ม 2 รับใบยืนยันการฉีด
สำหรับกระบวนการทั้ง 8 ขั้นตอน 8 จุดมีดังต่อไปนี้
จุดที่ 1 ลงทะเบียน โดยใช้เครื่อง KIOSK ลดการสัมผัส
จุดที่ 2 ชั่งน้ำหนัก วัดความดันโลหิต
จุดที่ 3 คัดกรอง ซักประวัติ
จุดที่ 4 รอฉีดวัคซีน
จุดที่ 5 รับการฉีดวัคซีน ใช้เวลาเพียง 5-7 นาที
จุดที่ 6 ให้นั่งพักรอสังเกตอาการจนครบ 30 นาที มีการจัดห้องปฐมพยาบาล แพทย์/ วิสัญญีพยาบาล และอุปกรณ์ช่วยชีวิตพร้อมดูแล และทุกรายต้องสแกน Line official account “หมอพร้อม” เพื่อใช้ติดตามอาการหลังการฉีดวัคซีน 1 วัน 7 วัน 30 วัน แจ้งเตือนรับวัคซีนเข็มที่ 2
จุดที่ 7 ก่อนกลับบ้าน พยาบาลจะตรวจสอบเวลาว่าครบ 30 นาที สอบถามอาการ และให้คำแนะนำ พร้อมแจกเอกสารให้ความรู้
จุดที่ 8 มี Dash Board จาก Line OA “หมอพร้อม” แสดงการประเมินผลความครอบคลุมการฉีดวัคซีน และอาการไม่พึงประสงค์ของวัคซีนแต่ละชนิด ทั้งนี้ เมื่อได้รับการฉีดวัคซีนโควิด 19 ครบ 2 เข็ม จะได้รับใบยืนยันการฉีดวัคซีนโควิด 19 ทาง Line OA “หมอพร้อม” อีกด้วย
นายแพทย์โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการการให้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)เปิดเผยว่า ระบบที่จัดไว้มี 8 ขั้นตอน เป็นลำดับอย่างต่อเนื่องผ่านไปด้วยดี ใช้เวลารวม 37 นาที สามารถเป็นต้นแบบให้กับโรงพยาบาลอื่นๆ นำไปปรับใช้ได้
"ขอให้บุคลากรการแพทย์และประชาชนกลุ่มเป้าหมายมั่นใจการให้วัคซีนครั้งนี้ รัฐบาลเน้นย้ำความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการคัดเลือกวัคซีนสำหรับคนไทย และสถานพยาบาลได้เตรียมความพร้อม จัดระบบให้คำแนะนำ เฝ้าระวัง ติดตามอาการไม่พึงประสงค์ไว้พร้อมแล้ว"
ส่วนทางด้านนายแพทย์ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวง ในฐานะประธานคณะทำงานด้านการให้บริการวัคซีน ฝึกอบรม และกำกับติดตามผล กล่าวว่า ระบบบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ของสถาบันบำราศนราดูร มีขั้นตอนที่ครบถ้วน และจะนำไปเป็นต้นแบบให้กับโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งที่ผ่านมา โรงพยาบาลต่าง ๆ มีการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้ประชาชนทุกปีอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม วัคซีนโควิด-19 ที่จะมีการฉีดในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการให้บริการวัคซีนในกลุ่มเป้าหมายที่มีจำนวนมากที่สุด จึงต้องมีการจัดขั้นตอนที่มากกว่าการฉีดวัคซีนอื่นๆ และเป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อให้ประชาชนมั่นใจและมีความปลอดภัยมากที่สุด โดยโรงพยาบาลสามารถปรับใช้ให้เหมาะสมกับสถานที่แต่ละแห่ง ตามบริบทของพื้นที่
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
‘ท่องเที่ยว’ขอวัคซีนโควิด 5 ล้านโดส
เช็กรายชื่อ 18 เขตกทม.ที่ไม่พบ"ผู้ติดเชื้อโควิด"ในช่วง 14 วัน
ยอดยังสูง"สมุทรสาคร"พบผู้ป่วยโควิดเพิ่มอีก 548 ราย
“หมอยง” แนะรัฐบาลเร่งเจรจาจีน-รัสเซียซื้อวัคซีนโควิด-19ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจ
ยอดติดเชื้อโควิด 5 ก.พ.64 รายใหม่ 586 หายป่วยเพิ่ม 533 สะสม 22,644 ราย