สธ.ไฟเขียวให้เอกชนร่วมจัดหา-บริการวัคซีนโควิด-19 แก่ประชาชน

09 เม.ย. 2564 | 13:47 น.

ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีน เผยภาครัฐยินดีเปิดโอกาสให้เครือข่ายโรงพยาบาลเอกชน /สมาคมโรงพยาบาลเอกชน ร่วมจัดหาเพิ่มช่องทางให้ประชาชนเข้าถึงวัคซีนมากขึ้น ไม่มีการปิดกั้นแต่ต้องรอพ้นช่วงที่วัคซีนมีจำกัด

วันนี้ (9 เมษายน 2564) ที่ศูนย์แถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นพ.นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ แถลงข่าวประเด็นความร่วมมือในการจัดหาวัคซีนร่วมกับภาคเอกชน ว่า วันนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้ว ยศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข และผู้บริหาร หารือร่วมกับเครือข่ายโรงพยาบาลเอกชน สมาคมโรงพยาบาลเอกชน ถึงแนวทางการจัดหา-บริการวัคซีนโควิด 19 แก่ประชาชนเพิ่มเติม โดยมอบให้ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร เป็นประธานในการจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม ซึ่งภาคเอกชนได้แสดงเจตจำนงมีส่วนร่วมในการจัดหาวัคซีน โดยอาศัยว่าอาจมีความคล่องตัวมากกว่าภาครัฐ รวมทั้งยินดีทำตามแผนบริหารจัดการร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขในการกระจายวัคซีนและบริการฉีดวัคซีน ทั้งนี้ การร่วมดำเนินงานจะเป็นไปตามนโยบายที่กำหนดไว้ ซึ่งทาง อย. ได้เปิดกว้างการขึ้นทะเบียนวัคซีนทุกชนิด ให้ผู้ขอขึ้นทะเบียนส่งเอกสารเข้ามาพิจารณาเพื่อให้เกิดความมั่นใจในประสิทธิภาพและความปลอดภัย และการที่ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมนับเป็นการช่วยสนับสนุนภาครัฐ และช่วยอำนวยความสะดวก เพิ่มช่องทางให้ประชาชนเข้าถึงวัคซีนมากขึ้น โดยช่วงเวลาที่มีความเป็นไปได้ที่ภาคเอกชนจะจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมได้นั้น น่าจะเป็นช่วงที่วัคซีนมีมากขึ้นหลังเดือนมิถุนายน 2564 

นพ.นคร กล่าวต่อว่า การจัดหาวัคซีนภาครัฐโดยกรมควบคุมโรคและสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ดำเนินการได้เป็นอย่างดีสามารถจัดหาได้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน รวมทั้งกระทรวงสาธารณสุขมีศักยภาพในการจัดบริการวัคซีน มีโรงพยาบาลของภาครัฐกว่า 1,000 แห่ง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลอีกประมาณ 10,000 แห่ง

“การกลายพันธุ์ของเชื้อไวรัส เป็นอีกปัจจัยที่ต้องให้ความสำคัญ วัคซีนที่มีอยู่ยังสามารถใช้ป้องกันโรคและอาการป่วยรุนแรงได้ แต่ไม่สามารถคาดการณ์ในอนาคต สิ่งสำคัญที่จะเอาชนะไวรัสกลายพันธุ์ได้ คือการกระจายวัคซีนออกไปให้ครอบคลุมประชาชนมารับการฉีดวัคซีนอย่างครบถ้วนในระยะเวลารวดเร็ว ป้องกันไม่ให้ระบาดใหญ่

ขอย้ำว่า กรมควบคุมโรคและสถาบันวัคซีนแห่งชาติ สามารถจัดหาวัคซีนเพียงพอสำหรับประชาชนคนไทย การที่เอกชน มีเจตนาในการเข้ามาเสริมการทำงานก็ยินดี เพื่อเดินหน้าต่อสู้กับโควิดด้วยกันต่อไป” นพ.นครกล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง