เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่มีการแพร่กระจายของโรคอย่างรวดเร็วและขยายวงกว้างมากขึ้นอีกครั้ง เพื่อเป็นการยกระดับการดำเนินการเฝ้าระวังป้องกันโรคดังกล่าว และเป็นไปตาม “ระเบียบสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ว่าด้วยแนวปฏิบัติในการให้บริการผู้โดยสารสำหรับเส้นทางการบินภายในประเทศ ในระหว่างสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) พ.ศ. 2564”
บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส จึงประกาศยกระดับมาตรการการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยงดให้บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเที่ยวบิน และปิดให้บริการห้องรับรองผู้โดยสารเป็นการชั่วคราว ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยด้านสุขอนามัยสูงสุดของผู้โดยสารและพนักงานผู้ปฏิบัติงาน
มาตรการการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของบริษัทฯ ที่ได้ดำเนินการมีดังนี้
1. มาตรการรักษาระยะห่างในการให้บริการแก่ผู้โดยสาร ตั้งแต่การเช็คอิน, การขึ้นและลงเครื่องบิน
2. กำหนดความหนาแน่นของผู้โดยสารภายในรถรางและรถบัสรับ-ส่งระหว่างอาคารผู้โดยสาร ให้ไม่เกิน 70%ของความจุของรถ และทำความสะอาดพื้นผิวของอุปกรณ์สัมผัสบ่อย ทั้งก่อนและหลังให้บริการ
3. งดการให้บริการอาหารและเครื่องดื่มในระหว่างการปฏิบัติการบิน รวมทั้งห้ามผู้โดยสารรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่นำติดตัวมาด้วย ยกเว้น ในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉินหรือจำเป็น พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินอาจพิจารณาจัดน้ำดื่มให้บริการแก่ผู้โดยสารได้ ทั้งนี้ ให้กระทำในพื้นที่ที่ห่างจากผู้โดยสารคนอื่นให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นได้
4. ปิดให้บริการห้องรับรองผู้โดยสารในทุกสนามบินเป็นการชั่วคราว เริ่มตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีการประกาศเปลี่ยนแปลง
5. ผู้โดยสารทุกท่านต้องจัดเตรียมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้าสำหรับตนเอง และสวมตลอดเวลาที่อยู่บน เที่ยวบิน รวมทั้งขอความร่วมมือให้ผู้โดยสารล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์อย่างสม่ำเสมอ
6. งดให้บริการหนังสือพิมพ์ นิตยสาร ฯลฯ รวมทั้งงดการจำหน่ายสินค้าที่ระลึกบนเที่ยวบิน
7. พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินจะสวมหน้ากากอนามัย, ถุงมือ และอุปกรณ์ป้องกันใบหน้า ตลอดระยะเวลาการปฏิบัติการบิน
8. นักบินจะสวมหน้ากากอนามัยตลอดระยะเวลาการปฏิบัติการบิน
9. ทำความสะอาดภายในห้องโดยสารทุกจุดสัมผัสทุกครั้งหลังปฏบัติการบินในทุกเที่ยวบิน ตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข และดำเนินการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อที่มีมาตรฐานและมีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายในอากาศยานทุกจุดโดยละเอียด หลังการทำการบินเป็นประจำ
สำหรับสนามบิน 3 แห่งที่อยู่ภายใต้การบริหารของบริษัทฯ ได้แก่ สนามบินสมุย สนามบินตราด และสนามบินสุโขทัย ก็ได้ดำเนินงานในการให้บริการแก่ผู้มาใช้บริการ ภายใต้มาตรการฯ ที่ด่านควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย กำหนดอย่างเคร่งครัด ดังนี้
1. ตรวจคัดกรองอุณหภูมิร่างกายของผู้โดยสาร ผู้มาใช้บริการ รวมถึงพนักงาน หากพบว่ามีอุณหภูมิสูงกว่า 37.3 องศาเซลเซียส จะถูกปฏิเสธการเข้าพื้นที่ และดำเนินการตามขั้นตอนของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขต่อไป
2. ประสานด่านควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ในการตรวจคัดกรองและ ตรวจสอบประวัติการเดินทางของผู้โดยสาร และผู้มาใช้บริการ
3. พื้นที่ในการให้บริการต่างๆ เช่น เคานท์เตอร์เช็คอิน จุดรับสัมภาระ รถรับส่งผู้โดยสาร พื้นที่การพักคอย จะมีการจัดทำสัญลักษณ์ เพื่อกำหนดการเว้นระยะห่างอย่างปลอดภัย (Social Distancing) ให้แก่ผู้มาใช้บริการ
4. จัดให้มีจุดบริการเจลแอลกอฮอล์สำหรับล้างมือในพื้นที่ต่างๆ
5. กำหนดให้ผู้โดยสาร ผู้มาใช้บริการ และพนักงาน สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ในสนามบินฯ
6. สนามบินฯ จะทำความสะอาดพื้นที่ให้บริการต่างๆ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค ทุก 1 ชั่วโมง เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดพื้นที่ใช้สอยร่วม โดยเฉพาะจุดที่มีการสัมผัสร่วมกันบ่อยครั้ง ซึ่งจะทำความสะอาดทันทีหลังพื้นที่นั้นถูกใช้บริการ
7. ดำเนินการฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อที่มีมาตรฐานและมีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ภายในห้องรับรองผู้โดยสารและภายในสนามบินทุกจุดโดยละเอียด
บริษัทฯ ยังได้ออกนโยบายขอความร่วมมือให้พนักงานงดเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยง รวมถึงชะลอการเดินทางไปยังต่างจังหวัดหากไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน
บริษัทฯ คำนึงถึงความปลอดภัยและสุขอนามัยของผู้โดยสารและพนักงานผู้ปฎิบัติงานเป็นสำคัญ และยังคงดำเนินการตามมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อย่างต่อเนื่องโดยเคร่งครัด ภายใต้ข้อกำหนดของ กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: