สธ.ยันมีเตียง “เพียงพอ” รองรับผู้ป่วยโควิด
กระทรวงสาธารณสุข ยืนยันผู้ป่วยโควิดทุกรายต้องอยู่ในสถานพยาบาลที่จัดให้ ผู้ติดเชื้อทุกคนทั้งตรวจและรักษาฟรี ย้ำขณะนี้มีปริมาณเตียงที่จะรองรับผู้ป่วยเพียงพอ พร้อมเพิ่มสายด่วน 3 เบอร์ให้ประชาชนสามารถติดต่อเพื่อปรึกษากรณีเป็นผู้ติดเชื้อและต้องการเตียงโรงพยาบาล
12 เม.ย.2564 กระทรวงสาธารณสุข แถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ( โควิด-19 ) นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวถึงการบริหารจัดการเตียงสำหรับรองรับผู้ป่วยโควิดว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ได้มอบนโยบายไว้ว่าต้อง บริหารจัดการเตียงรพ.ให้เพียงพอในการ รองรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งผู้ติดเชื้อทุกรายควรได้รับการรักษาตัวในโรงพยาบาล และโรงพยาบาลที่ตรวจพบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 จะต้องประสานกับโรงพยาบาลในเครือข่าย เพื่อให้ผู้ติดเชื้อทุกคนได้รับการรักษาในโรงพยาบาล
“ทางฝ่ายการเมืองมีนโยบายที่ชัดเจนว่า ผู้ป่วยที่ติดเชื้อโควิดและต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาลทุกคน และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการตรวจและรักษา ไม่ว่าจะเป็นรพ.รัฐบาล หรือ รพ.เอกชน เนื่องจากมีสิทธิการรักษาตามระบบของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ, สำนักงานประกันสังคม ตลอดจนถึงสิทธิของผู้ที่เป็นข้าราชการด้วย”
อธิบดีกรมการแพทย์ยังระบุว่าด้วยว่า กรณีการแอดมิทใน รพ.ต้องจ่ายเงินหรือไม่ ยืนยันว่าไม่ต้องจ่าย ไม่ว่าจะ รพ.เอกชน หรือ รพ.รัฐ ยกเว้นว่ามีประกันส่วนตัว รพ.เอกชนจะสอบถาม แล้วให้ประกันช่วยจ่ายก่อน นอกเหนือจากนั้น 3 กองทุน ไม่ว่าจะเป็นกองทุน สปสช. กองทุนข้าราชการที่กรมบัญชีกลางดูแลอยู่ หรือกองทุนประกันสังคม จะรับดูแลให้ประชาชน นี่เป็นนโยบายที่นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขดูแลประชาชนทุกคนที่แอดมิทที่ รพ.ในการตรวจรักษาโควิด
นอกจากนี้ ยังให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจัดเตรียมเตียงไว้รองรับผู้ป่วยโควิดทั่วประเทศ ซึ่งครอบคลุมรพ.ปกติ, รพ.สนาม และฮอสพิเท็ล (Hospitel) ซึ่งเป็นโรงแรมให้ดัดแปลงเป็นรพ.ชั่วคราว มีจำนวนทั้งสิ้นกว่า 23,483 เตียง แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 3,967 เตียง และต่างจังหวัด 19,516 เตียง
ทั้งนี้ ยังมีเตียงว่างอยู่กว่า 16,000 เตียง ซึ่งเป็นข้อมูล ณ วันที่ 11 เม.ย.64 ล่าสุดกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ได้รายงานเข้ามาว่าสามารถหา Hospitel ในส่วนของเอกชนเพิ่มขึ้นอีก 3,900 เตียง ซึ่งเป็นการจับคู่โรงพยาบาลกับโรงแรม
นพ.สมศักดิ์ยังเปิดเผยถึงการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนโดยการเปิดสายด่วนในเรื่องการหาเตียงเพื่อการเข้ารับการรักษา จะมีเปิดสายให้บริการในส่วนของสายด่วนกรมการแพทย์ โทร 1668 ให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 - 20.00 น., ส่วนสายด่วน สปสช. โทร 1330 ให้บริการตลอด 24 ชม. และนับตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย.จะมีให้บริการเพิ่มเติมอีก 1 สาย เป็นของกรุงเทพมหานคร คือ ศูนย์เอราวัณ โทร 1669 ให้บริการตลอด 24 ชม. เช่นกันแต่จะเป็นเฉพาะในพื้นที่กทม.เท่านั้น
นอกจากนี้ อีกไม่กี่วัน กระทรวงสาธารณสุขจะนำแอปพลิเคชัน "สบายดีบอท" เข้ามาใช้เพื่อให้ประชาชนได้บันทึกอาการของตัวเองขณะรอการแจ้งผลตรวจของ รพ.อยู่ที่บ้าน และแจ้งไปที่ศูนย์ประสานงานของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อทำการจัดหาเตียง
“ ในอีก 2-3 วัน เรากำลังนำแอปนี้ มาใช้ เมื่อท่านไปตรวจแล้ว สามารถบันทึกอาการตัวเอง และเมื่อผลตรวจเป็นบวก เราจะมีสบายดีบอทให้ท่านบอกเข้ามายังศูนย์ประสานงานของกระทรวงสาธารณสุข แล้วเราจะจัดหาเตียงให้ แอปนี้จัดทำเพื่อให้ประชาชนที่ถนัดในการใช้สมาร์ทโฟนมาใช้ได้ โดยไม่ต้องรอการโทรเข้า 1668, 1330 หรือ 1669" นพ.สมศักดิ์กล่าวในที่สุด
“ขอความร่วมมือผู้ที่ได้รับการตรวจว่าติดเชื้อโควิด 19 แล้ว ทุกคนให้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล แม้จะไม่มีอาการ เนื่องจากอาจไม่เคร่งครัดการแยกตัวจากผู้อื่น และอาจพบอาการปอดอักเสบได้ในระยะหลัง ส่วนผู้ที่อยู่ระหว่างการรอผลการตรวจให้เคร่งครัดมาตรการ สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ ป้องกันการแพร่เชื้อสู่ครอบครัวและผู้ที่อยู่ใกล้ชิด”นพ.สมศักดิ์กล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ยอดติดเชื้อโควิด 12 เม.ย.64 รายใหม่ 985 สะสม 33,610 ราย
ติดเชื้อโควิด-19 กนอ.สั่งทุกนิคมอุตสาหกรรมเฝ้าระวังฉุกเฉินสงกรานต์ 24 ชั่วโมง
ถนนข้าวสาร สงัด “สงกรานต์ 2564”