วันที่ 16 เม.ย. 64 คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ออกคำชี้แจง กรณีประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ (ฉบับที่ 4) เรื่อง มาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระลอกที่ 3 โดยระบุว่า
ประกาศดังกล่าวคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่มีเจตนาเพื่อ ขอความร่วมมือจากประชาชน งดเว้นหรือหลีกเลี่ยงการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ งดเว้นหรือหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง ตามการแบ่งโซนสีของอำเภอ ตามหลักระบาดวิทยา ซึ่งออกโดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่
กรณีที่พี่น้องประชาชนมีความจำเป็นที่ต้องเดินทางไปทำงานหรือมีธุระจำเป็น ก็สามารถเดินทางได้ โดยปฏิบัติตามมาตรการป้องกันส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด อันได้แก่ การสวมใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ โดยสบู่หรือเจลแอลกอฮอร์ เว้นระยะห่าง หลีกเลี่ยงการเข้าไปยังสถานที่แออัดและเป็นสถานที่ปิด ซึ่งเป็นมาตรการในการควบคุม ป้องกันโรคโควิด-19
ทั้งนี้ประกาศคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ (ฉบับที่ 4) เรื่อง มาตรการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระลอกที่ 3 ระบุในช่วงต้นของคำสั่งว่า
ด้วยปรากฏว่าเกิดการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน 2564 เป็นต้นมานั้น จากการสอบสวนโรคพบว่า โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่กำลังระบาดในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เป็น สายพันธุ์อังกฤษ มีการกลายพันธุ์ ในส่วนที่จับของพื้นผิว คือ จับได้ง่าย แพร่พันธุ์ได้ง่าย เพิ่มจำนวนง่าย และปริมาณมาก และพบว่ามีการระบาดในสถานบันเทิง กิจกรรมรวมคนจำนวนมาก หรือการจัดเลี้ยงสังสรรค์ในพื้นที่ปิดและแออัด โดยในขณะนี้พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เป็นจำนวนมาก
คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่พิจารณาแล้ว เห็นว่า เพื่อเป็นการยกระดับมาตรการในการป้องกันโรคทั้งจังหวัด โดยความร่วมมือของประชาชน อันจะช่วยลดจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันลงให้เร็วที่สุด ดังนั้น ในคราวประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเชียงใหม่ ครั้งที่ 43/2564 เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2564 จึงมีมติเห็นชอบให้ ขอความร่วมมือจากประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่
โดยส่วนข้อความประกาศที่เป็นการขอความร่วมมือประชาชนหลายประการ อาทิ การของดเว้นหรือหลีกเลี่ยงการการจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ งดเว้นหรือหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง ตามการแบ่งโซนสีของอำเภอ ตามหลักระบาดวิทยา ซึ่งออกโดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เป็นต้น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :