16 เมษายน 2564 - องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ออกประกาศคณะทำงานศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ฉบับที่ 362/2564 เรื่อง หัวหน้ากลุ่มงานปฏิบัติการเดินรถ 2 เขตการเดินรถที่ 6 ติดเชื้อไวรัส COVID-19 ระบุว่า ตลอดระยะเวลาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ขสมก. ได้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคตามแนวทางปฏิบัติการป้องกันของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข อย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด
ขสมก. ขออภัยที่ต้องแจ้งให้ทราบว่า เนื่องจากเมื่อวันที่ 14 เมษายน 2564 หัวหน้ากลุ่มงานปฏิบัติการเดินรถ 2 เขตการเดินรถที่ 6 เพศชาย อายุ 59 ปี ซึ่งไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสารแต่อย่างใด ได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อไวรัส COVID-19 ณ โรงพยาบาลสามพราน จังหวัดนครปฐม ปรากฏว่า เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2564 เจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลได้แจ้งให้ทราบว่า หัวหน้างานคนดังกล่าวเป็นผู้ติดเชื้อ จึงได้จัดส่งรถพยาบาลไปรับมารักษาตัวที่โรงพยาบาลนครปฐม
ต่อมาเมื่อวันที่ 16 เมษายน 2564 ขสมก. ได้รับทราบข้อมูลดังกล่าว จากผู้อำนวยการเขตการเดินรถที่ 6 จึงได้ดำเนินการตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ดังนี้
1. ขสมก. ได้มีการแจ้งกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อแจ้งรายละเอียดผู้ติดเชื้อไวรัส COVID-19 (ตามแนวทางปฏิบัติกรณีพบผู้ติดเชื้อ) โดยได้ประสานเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุข จังหวัดนครปฐม
2. หัวหน้างานผู้ติดเชื้อ ได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 อย่างเคร่งครัด โดยสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาขณะทำงาน และล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ รวมทั้งตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าทำงานทุกครั้ง
โดยไทม์ไลน์ของพนักงาน ขสมก. (หัวหน้างานผู้ติดเชื้อ) สรุปได้ดังนี้
3. ผู้ติดเชื้อเป็นหัวหน้ากลุ่มงานปฏิบัติการเดินรถ จึงไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสารแต่อย่างใด นอกจากนี้ ขสมก. ได้พักการใช้งานรถยนต์ประจำตำแหน่งของหัวหน้างานผู้ติดเชื้อ เป็นระยะเวลา 3 วัน เพื่อทำการฉีดพ่นทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคภายในรถ รวมถึงห้องทำงานและบริเวณโดยรอบสถานที่ทำการ
4. ขสมก. ได้มีการตรวจสอบพบว่า มีพนักงานสัมผัสผู้ติดเชื้อ จำนวน 10 คน จึงให้พนักงานดังกล่าว หยุดงานไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาเชื้อไวรัส COVID-19 หากได้ผลเป็นประการใดจะแจ้งให้ทราบต่อไป
ทั้งนี้ ขสมก. ได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 อย่างเคร่งครัด ได้แก่ การสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาขณะปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสาร การล้างทำความสะอาดมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ การฉีดพ่นทำความสะอาดภายในรถโดยสารด้วยแอลกอฮอล์ ทั้งก่อนและหลังนำรถออกวิ่งให้บริการ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนในการเดินทาง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง