ดีเดย์ 24 พ.ค.นี้ บุคลากรคมนาคมเตรียมฉีดวัคซีนโควิด
คมนาคม-สธ. เดินหน้าตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนโควิด-19 นำร่องผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะ 5.9 หมื่นคน เริ่มวันที่ 24 พ.ค.นี้ เล็งชงสธ.สรุปแผนดำเนินงาน ตั้งเป้า 1 หมื่นคนต่อวัน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยภายหลังตรวจความพร้อมศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ ที่สถานีกลางบางซื่อ วันนี้ (21 พ.ค.) ว่า ที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมยื่นหนังสือขอกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้บุคลากรคมนาคมใกล้ชิดกับประชาชนที่ใช้บริการสาธารณะได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยกำหนดให้มีการจัดตั้งศูนย์ฉีดวัคซีนภายในสถานีกลางบางซื่อที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ ซึ่งจะเปิดให้บริการในเดือน ก.ค.นี้ โดยจะนำมาพัฒนาเป็นศูนย์ฉีดวัคซีนชั่วคราว รองรับกลุ่มบุคลากรด่านหน้าที่ให้บริการระบบขนส่ง รวมไปถึงบุคลากรกลุ่มองค์กรราชการ และประชาชนทั่วไปในลำดับถัดไป
ทั้งนี้ศูนย์ฉีดวัคซีนนี้จะสามารถรองรับการฉีดวัคซีน 900 คนต่อชั่วโมง หรือเป้าหมายสูงสุด 1 หมื่นคนต่อวัน จะเริ่มดำเนินการฉีดวัคซีนวันแรกวันที่ 24 พ.ค.นี้ โดยเริ่มฉีดวัคซีนให้กลุ่มขนส่งสาธารณะที่ลงทะเบียนผ่านกระทรวงคมนาคมเป็นส่วนแรก หลังจากนั้นจะขยายเปิดบริการให้องค์กรอื่นๆ ปัจจุบันมีวัคซีนโควิดที่พร้อมให้บริการ จำนวน 3.5 แสนโดส ภายในสถานีกลางบางซื่อ
"กระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่าขณะนี้มีวัคซีนเพียงพอ และปัจจุบันยังมีแผนนำเข้าวัคซีนอย่างต่อเนื่อง โดยขอให้ผู้ที่มีสถานที่ขนาดใหญ่ลักษณะนี้ ใช้สถานีกลางบางซื่อเป็นโมเดลในการปรับพื้นที่เป็นสถานที่บริการฉีดวัคซีน เพื่อทำให้การฉีดวัคซีนรวดเร็วและรองรับประชาชนได้มากขึ้น"
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กระทรวงฯ ได้สำรวจรายชื่อบุคลากรที่ให้บริการขนส่ง พบว่าขณะนี้มีรวมทั่วประเทศกว่า 3.5 แสนคน แบ่งเป็นขนส่งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 5.9 หมื่นคน และที่เหลืออยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัดทั่วประเทศ ดังนั้นกลุ่มแรกที่กระทรวงฯ ส่งรายชื่อให้รับวัคซีนที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ จะเป็นกลุ่มขนส่งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 5.9 หมื่นคน โดยจะเริ่มฉีดตั้งแต่วันที่ 24 พ.ค.นี้เป็นต้นไป เวลา 9.00-20.00 น.
"ตอนนี้สถานที่เราเตรียมพร้อม 100% ช่วงแรกจะนำร่องฉีดกลุ่มขนส่งก่อน หากครบแล้ว กระทรวงฯ จะบริการพื้นที่นี้ให้เป็นศูนย์ฉีดวัคซีนขนาดใหญ่ของกรุงเทพ รองรับประชาชนทั่วไปตามนโยบายของ ศบค."
นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า ส่วนบุคลากรคมนาคมในภูมิภาค จำนวน 2.7 แสนคน เบื้องต้นจะประสานงานกับสาธารณสุขจังหวัดเพื่อดำเนินการ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัดเป็นผู้พิจารณา ขณะเดียวกันกระทรวงคมนาคมได้จัดทำแผนการดำเนินงานในการจัดตั้งฉีดวัคซีนโควิด-19 เพื่อเสนอต่อนายอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและสธ.เป็นผู้พิจารณา โดยนำร่องฉีดวัคซีนให้บุคลากรคมนาคม จำนวน 5,000 คนต่อวัน หากสามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ คาดว่าจะขยายผลดำเนินการฉีดวัคซีนโควิด เพิ่มเป็น 10,000 คนต่อวัน ตามแผนใช้ระยะเวลาดำเนินการ 2-3 เดือน ดำเนินการฉีดวัคซีนแก่บุคลากรคมนาคมครบทุกคน
สำหรับการอำนวยความสะดวกประชาชน กระทรวงฯ ได้เตรียมรถขนส่งประจำทางฟรี เพื่อบริการประชาชนในจุดต่างๆ ในกรุงเทพฯ เข้ามารับวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อ แบ่งเป็น 3 เส้นทาง คือ 1. เส้นทางเชื่อมระบบโดยสารทางน้ำ จากงท่าเรือบางโพ - สถานีรถไฟฟ้าเตาปูน - สถานีกลางบางซื่อ 2. เส้นทางใจกลางเมือง เริ่มจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ - สถานีกลางบางซื่อ 3. เส้นทางเชื่อมต่อระบบรถไฟฟ้า เริ่มต้นสถานีห้าแยกลาดพร้าว ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว - สถานีรถไฟฟ้าจตุจักร - ตลาด อตก. - สถานีกลางบางซื่อ
พญ.มิ่งขวัญ วิชัยดิษฐ ผู้อำนวยการสถาบันโรคผิวหนัง กล่าวว่า สถาบันโรคผิวหนังเป็นหนึ่งในหน่วยงานหลักที่จะเข้ามาให้บริการฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อ เบื้องต้นกำหนดแผนฉีดวัคซีนแบ่งเป็น - ระยะที่ 1 ให้บริการบุคลากรจากระทรวงคมนาคม จำนวนประมาณ 6 หมื่นคน เริ่มต้นฉีดวัคซีนในวันที่ 24 พ.ค.นี้ และคาดว่าจะสามารถฉีดวัคซีนแล้วเสร็จในวันที่ 6 มิ.ย.นี้ - ระยะที่ 2 ให้บริการ 3 กลุ่ม รวม 1 หมื่นคนต่อวัน ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย.เป็นต้นไป คือ 1.กลุ่มองค์กรที่ประสานมายังสาธารณสุข จำนวน 3 พันคนต่อวัน 2.กลุ่มประชาชนทั่วไป ลงทะเบียน ณ จุดบริการ หรือ On-site Registration (ออนไซด์) จำนวน 2 พันคนต่อวัน และ 3.กลุ่มประชาชนที่ลงทะเบียนผ่านเครือข่าย และแอพพลิเคชั่นหมอพร้อม 5 พันคนต่อวัน โดยกลุ่มที่ 3 นี้ ได้รับความร่วมมือจากเครือข่ายโทรคมนาคม 4 แห่ง คือ AIS DTAC TRUE และ NT ซึ่งจะติดต่อไปยังผู้ใช้บริการเครือข่ายมือถือ และให้กรอบข้อมูลลงทะเบียนจองรับวัคซีน