นายแพทย์บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)หรือ THG กล่าวว่า จากสถาการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 มีกระทบทางเศรษฐกิจมากมายมหาศาล มากกว่า วิกฤติต้มยำกุ้ง ซึ่งในขณะนั้น ประเทศไทยยังสามารถแก้ไขปัญหาได้ดี
เพราะโครงสร้างเศรษฐกิจ ณเวลานั้น ประเทศไทยมีอุตสาหกรรมหลายอย่างที่มีศักยภาพในการแข่งขันในเวทีสากล อาทิเช่น อุตสาหกรรมรถยนต์, อิเล็กทรอนิกส์, อาหาร, ซึ่งสามารถทำเงินจากการส่งออกได้อย่างมหาศาลและมากพอที่จะใช้หนี้ที่กู้ยืมมาจำนวน 5 แสนล้านบาท ได้ภายใน 3 ปี
แต่สำหรับปัจุบันแตกต่างกับสถานการณ์ในเวลานั้นอย่างมากเพราะโครงสร้างทางเศรษฐกิจของประเทศมีการบิดเบือนมาตั้งแต่ปี 2540 ซึ่งภาพรวม GDP ไตรมาส 1 ปี2564 ประเทศไทยตัวเลขติดลบทั้งหมด 2.6 % จากเป้าการเติบโตที่ตั้งไว้ 3% ถือโอกาสที่จะเติบโตในอัตราดังกล่าวมีน้อยมาก
ซึ่งเป็นผลมาจากจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติยังไม่สามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศได้ ส่งผลให้เงินไปจากระบบมากกว่า 1.5 ล้านล้านบาท ซึ่งหากมองความเป็นไปได้ที่ปีนี้จะเติบโตได้เพียง1.5% เท่ากับเงินหายไปเกือบ 2 ล้านล้านบาท
“แบงค์ชาติ ประเมิณว่าประเทศไทยจะสามารถฟื้นตัวในอีก 3 ปี หรือมีสัญญาณฟื้นตัวในไตรมาสแรกปีพศ. 2566 แต่ผมมองว่าอาจไปไม่ถึง เพราะตั้งแต่ พศ. 2540 เป็นต้นมาโครงสร้างธุรกิจของประเทศไทยไม่ได้เปลี่ยนแปลงเลย ทุกคนทำเหมือนเดิมหมด แต่โลกเปลี่ยนไปเยอะ ปัจุบันประเทศไทยเป็นหนี้กู้ยืม 3 ล้านล้านบาท จะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายคืน ในเมื่อเศรษฐกิจบ้านเราเหมือนเดิม
การเติบโตที่เป็นรูปตัว K ขึ้นน้อยมาก เพราะอุตสาหกรรมทำเงินที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรม ดิจิตอล อีโคโนมี, กรีน อีโคโนมี, นวัตกรรม บ้านเราไม่มีการลงทุนในส่วนนี้เท่าที่ควร ต่างกับปี พศ. 2513 – 2533 ที่ประเทศไทยมีอัตราการเติบโตสูงเฉลี่ย 6% - 14%”
นอกเหนือจากวงเงินกู้ 3 ล้านล้านบาทแล้วอีกหนึ่งส่วนที่น่ากังวลคือ เรื่องของสุขภาพจิตของคน อัตราการว่างงาน ปัญหาฆ่าตัวตาย เด็กจบใหม่ไม่มีงานรองรับ 5 แสนคนต่อปี ซึ่งโอกาสตกงานถาวรมีสูงเพราะ มีเด็กจบใหม่ออกสู่ตลาดแรงงานตลอดเวลา
ดังนั้นความหวังที่ฟื้นฟูเศรษฐกิจคือ วัคซีน ซึ่งIMF มีการประเมิณว่า การลงทุนในวัคซีนจะสร้างผลประโยชน์ได้มากถึง 80%
“ทั่วโลกใช้เงินลงทุนในการจัดซื้อวัคซีนมาฉีดให้กับประชาชน 50 ล้านบาท แต่ผลประโยชน์ที่ได้กลับคืนคือตัวเลขทางเศรษฐกิจราวๆ9 ล้านล้านบาท สำหรับประเทศอาจไปไม่ถึงจุดนั้น
แต่จากที่คำนวณดู ถ้าหากประเทศไทยลงทุนในการจัดหาวัคซีนมาฉีดให้กับประชาชน 1บาท จะได้ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจประมาณ 80 บาท หรือเติบโต 80% คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม คำนวณง่าย ๆ ประชากรคนไทย 55 ล้านคน รวมชาวต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทย ลงทุนวัคซีนเข็มละ 2,000 บาท จะใช้เม็ดเงินราวๆ1.1 แสนล้านบาท แต่จะได้ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจกลับมาราวๆ 8 ล้านล้านบาท”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: