จิ๊กซอว์สำคัญที่สุดในการสู้โควิด "หมอธีระ" ชี้คือการตรวจคัดกรองโรค

29 มิ.ย. 2564 | 04:05 น.

หมอธีระเผยจิ๊กซอว์สำคัญที่สุดในการสู้โควิดระบาดคือการตรวจคัดกรองโรค ระบุประเทศที่คุมได้ดีจะต้องออกมาตรการเข้มข้นทันทีตั้งแต่เริ่มเจอ ควบคู่ไปกับการปูพรมตรวจในพื้นที่เสี่ยง

รายงานข่าวระบุว่า รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)" โดยมีข้อความว่า
    สถานการณ์ทั่วโลก 29 มิถุนายน 2564...
    ทะลุ 182 ล้านไปแล้ว
    เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 308,075 คน รวมแล้วตอนนี้ 182,173,964 คน ตายเพิ่มอีก 5,764 คน ยอดตายรวม 3,944,908 คน
    5 อันดับแรกที่มีจำนวนติดเชื้อต่อวันสูงสุดคือ อินเดีย โคลอมเบีย บราซิล สหราชอาณาจักร และรัสเซีย
    อเมริกา เมื่อวานติดเชื้อเพิ่ม 9,147 คน รวม 34,509,026 คน ตายเพิ่ม 116 คน ยอดเสียชีวิตรวม 619,568 คน อัตราตาย 1.8% 
    อินเดีย ติดเพิ่ม 37,037 คน รวม 30,316,000 คน ตายเพิ่ม 907 คน ยอดเสียชีวิตรวม 397,668 คน อัตราตาย 1.3% 
    บราซิล ติดเพิ่ม 27,804 คน รวม 18,448,402 คน ตายเพิ่มถึง 658 คน ยอดเสียชีวิตรวม 514,202 คน อัตราตาย 2.8%  
    ฝรั่งเศส ติดเพิ่ม 509 คน ยอดรวม 5,770,530 คน ตายเพิ่ม 44 คน ยอดเสียชีวิตรวม 111,012 คน อัตราตาย 1.9%
    รัสเซีย ติดเพิ่ม 21,650 คน รวม 5,472,941 คน ตายเพิ่ม 611 คน ยอดเสียชีวิตรวม 133,893 คน อัตราตาย 2.4% 
    อันดับ 6-10 เป็น ตุรกี สหราชอาณาจักร อาร์เจนติน่า อิตาลี และโคลอมเบีย ติดกันหลักพันถึงหลายหมื่น
    แถบอเมริกาใต้ แอฟริกา เอเชีย อย่างชิลี บอทสวาน่า นามีเบีย แซมเบีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ศรีลังกา บังคลาเทศ เนปาล ญี่ปุ่น และมาเลเซีย ยังติดกันเพิ่มหลักพัน ส่วนแอฟริกาใต้นั้นเกินหมื่นอย่างต่อเนื่อง
    แถบสแกนดิเนเวีย บอลติก และยูเรเชีย ก็มีการติดเชื้อเพิ่ม ส่วนใหญ่อยู่หลักร้อย ยกเว้นคาซักสถาน คีร์กีซสถาน และมองโกเลียที่ติดเพิ่มหลักพัน 
    แถบตะวันออกกลาง ประเทศส่วนใหญ่ยังติดเพิ่มหลักร้อยถึงหลักพัน ส่วนอิหร่านเกินหมื่นมานิดหน่อย
    เกาหลีใต้ เวียดนาม และกัมพูชา ติดเพิ่มหลักร้อย ส่วนจีน ไต้หวัน และออสเตรเลีย ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่สิงคโปร์ ฮ่องกง และนิวซีแลนด์ ติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ
    ข้อมูลจาก Worldometer เช้านี้ ส่งสัญญาณที่น่าเป็นห่วงหลายเรื่อง

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์
    สหราชอาณาจักรขณะนี้กำลังเผชิญกับการระบาดซ้ำจากสายพันธุ์เดลต้า หากเราจำกันได้ เค้าเคยกดการระบาดลงเหลือต่ำกว่าสองพันต่อวันในช่วงต้นพฤษภาคมที่ผ่านมา แต่ล่าสุดติดเพิ่มถึง 22,868 คน แม้ตอนนี้จำนวนการเสียชีวิตต่อวันยังดูน้อย แต่อาจต้องติดตามต่อไป เพราะอาจมีช่วงเวลาเหลื่อมระหว่างการตรวจพบว่าติดเชื้อ ป่วย และเสียชีวิต น่าจะติดตามเวลาที่เหลื่อมประมาณ 2-3 สัปดาห์ว่าตัวเลขการเสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นหรือไม่
    ขณะที่รัสเซียตอนนี้เข้าระลอกสามชัดเจน อัตราการเพิ่มนั้นเร็วกว่าระลอกที่แล้ว ตอนนี้เกินสองหมื่นเช่นกันตั้งแต่ 24 มิถุนายนเป็นต้นมา โดยการเสียชีวิตต่อวันก็พุ่งสูงขึ้นเร็วมาก โดยเพิ่มขึ้นกว่า 50% ในช่วงเดือนที่ผ่านมา
    สำหรับไทยเรานั้น จำนวนติดเชื้อเพิ่มเมื่อวานนี้คือ 5,406 คน สูงมากเป็นอันดับที่ 14 ของโลก และเป็นอันดับที่ 7 ของเอเชีย 
    ในขณะที่จำนวนเคสที่ป่วยรุนแรงและที่วิกฤติของเรานั้น เป็นอันดับที่ 13 ของโลก และอันดับที่ 5 ของเอเชีย ดังที่เคยได้บอกไว้ว่า สถานการณ์ระบาดของเรานั้นรุนแรง กระจายไปทั่ว มาตรการที่เคยดำเนินการมานั้นไม่เพียงพอในการควบคุมโรคระบาดนี้ได้ แม้เราจะยกระดับมาตรการไปใน 10 จังหวัดตั้งแต่เมื่อวานนี้ ผลลัพธ์ที่จะเห็นน่าจะมีแนวโน้มเป็นไปในลักษณะการชะลอการระบาดได้บ้าง แต่ไม่มากนัก และต้องการเวลายาวนาน เนื่องจากมีการระบาดกระจายมาอย่างต่อเนื่องและเนิ่นนานหลายเดือน
    ประเทศอื่นที่คุมได้ดี เช่น นิวซีแลนด์ มักจะต้องเทคแอคชั่นเข้มข้นทันทีตั้งแต่เริ่มเจอ ควบคู่ไปกับการปูพรมตรวจในพื้นที่เสี่ยง จึงจะทำให้การล็อคใช้เวลาสั้นมากและกลับมาใช้ชีวิต ฟื้นฟูได้เร็ว
หากเป็นคนตัดสินใจ เรื่องที่สำคัญมาก และจะทำทันทีคือ 
    หนึ่ง การจัดตั้งจุดบริการการตรวจคัดกรองโรค กระจายให้ครอบคลุมทุกพื้นที่เขตเมือง ให้ทุกคนทั้งไทยและต่างชาติ สามารถเข้ารับการตรวจได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายและไม่ติดกฎเกณฑ์ใดๆ ไม่ว่าจะมีอาการหรือไม่มีอาการ มีประวัติเสี่ยงหรือไม่ก็ตาม เพราะสถานการณ์ปัจจุบันที่เราเผชิญนั้น ทุกคนล้วนมีโอกาสติดทั้งสิ้น
    สอง ดำเนินการ knock the door and do the test ในพื้นที่ระบาดหนัก รวมถึงทุกคนในครอบครัวของผู้ติดเชื้อที่รอเตียงอยู่ หรือทุกคนในครอบครัวของผู้ที่กักตัวสังเกตอาการที่บ้าน
    เรื่องการตรวจคัดกรองโรคคือ จิ๊กซอว์สำคัญที่สุดที่เราต้องทำเพื่อสู้กับโรคระบาดตอนนี้
    ส่วนประชาชนอย่างพวกเราทุกคน ขอเน้นย้ำว่า การใส่หน้ากากสำคัญมากครับ สองชั้น ชั้นในเป็นหน้ากากอนามัย ชั้นนอกเป็นหน้ากากผ้า...
ด้วยรักและห่วงใย
    ทั้งนี้ "ฐานเศรษฐกิจ" ได้รวบรวมตัวเลขสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 (Covid-19) ในประเทศไทย วันที่ 29 มิถุยายน 2564 จากศูนย์ข้อมูล COVID-19 กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข พบว่า
    ติดเชื้อเพิ่ม 4,662 ราย
    สะสมระลอกที่สาม 225,652 ราย
    สะสมทั้งหมด 254,515 ราย
    หายป่วยกลับบ้าน 2,793 ราย
    สะสม 177,638 ราย
    เสียชีวิตเพิ่ม 36 ราย
    สะสมระลอกที่สาม 1,876 ราย
    สะสมทั้งหมด 1,970 ราย

ขณะที่ตัวเลขการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในประเทศไทยวันที่ 28 ก.พ.-27 มิ.ย. 2564 พบว่า ฉีดสะสมแล้วจำนวน 9,147,512 โดส แบ่งเป็นเข็มที่ 1 จำนวน 6,537,851 ราย และเข็มที่ 2 จำนวน 2,609,661 ราย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :