นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดี กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยวันนี้ (3 ก.ค.) ว่า จาก ผลสำรวจของ 'อนามัยโพล' เรื่องผลสำรวจการสังเกตเห็นผู้อื่นสวมหน้ากากในชุมชนละแวกที่พักสวมหน้ากากเมื่อออกนอกบ้านพบว่า ประชาชนในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (พื้นที่สีแดงเข้ม) สวมหน้ากากถูกวิธีเพียง 65% ขณะที่ ไม่สวมหน้ากาก หรือ สวมหน้ากาก ไม่ถูกวิธีพบถึง 35% หวั่นเป็นจุดเสี่ยงการแพร่กระจายเชื้อในชุมชน
จึงขอความร่วมมือจากประชาชนในทุกพื้นที่ สวมหน้ากากป้องกันตลอดเวลาและสวมให้ถูกวิธี โดยให้ปิดจมูก ปาก คาง และหากสวมหน้ากากอนามัยไม่แนะนำให้สวมซ้อนกัน 2 ชั้น เนื่องจากจะทำให้ไม่กระชับกับใบหน้า เกิดช่องว่าง ทำให้ต้องใช้มือขยับและเสี่ยงสัมผัสใบหน้าบ่อย ๆ ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อโรคลดลง
ทั้งนี้ วิธีการตรวจสอบความกระชับกับใบหน้าด้วยการตรวจช่องว่างโดยการเอามือแตะขอบด้านนอกของหน้ากาก พร้อมดูให้แน่ใจว่าไม่มีอากาศไหลออกจากบริเวณใกล้ดวงตาหรือจากด้านข้างของหน้ากาก และถ้าสวมหน้ากากพอดีแล้ว จะรู้สึกว่ามีลมร้อนผ่านเข้ามาทางด้านหน้าของหน้ากาก และอาจเห็นหน้ากากเคลื่อนเข้าและออกทุกครั้งที่หายใจ
คำแนะนำเมื่อต้องการความมั่นใจเพิ่มขึ้น
นายแพทย์สุวรรณชัย กล่าวว่า หากต้องการเพิ่มความมั่นใจของชั้นกรองหน้ากากให้มีประสิทธิภาพสูง เมื่อต้องอยู่ในสถานที่แออัด หรือพื้นที่ที่ระบายอากาศไม่ดีเป็นระยะเวลานาน เช่น ในรถตู้โดยสาร หรือเมื่อต้องสัมผัสใกล้ชิดกับผู้มีความเสี่ยงสูง แนะนำให้:
“ทั้งนี้ การป้องกันโรคโควิด-19 นอกจากการสวมหน้ากากถูกวิธีแล้ว ยังคงต้องรักษามาตรการต่าง ๆ ควบคู่กันไปด้วย เช่น หมั่นล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่และน้ำ หรือเจลแอลกอฮอล์ เพราะมีโอกาสที่จะนำมือมาสัมผัสใบหน้าโดยไม่รู้ตัว เว้นระยะห่างกับคนอื่นอย่างน้อย 1-2 เมตร ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายสม่ำเสมอ ก่อนเข้าทำงาน สแกนแอปพลิเคชันไทยชนะทุกครั้งที่เดินทางไปสถานที่ต่าง ๆ และประเมินตนเองก่อนผ่านเว็บไซต์ “ไทยเซฟไทย” ทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน หรือก่อนเข้าสถานที่ทำงาน เพื่อเป็นการประเมินความเสี่ยงการแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น” อธิบดีกรมอนามัยกล่าว