เปิดแผน "ฉีดวัคซีนโควิด" ไฟเซอร์-แอสตร้าเซนเนก้า ผ่านมติครม.ล่าสุด

14 ก.ค. 2564 | 18:30 น.
อัปเดตล่าสุด :15 ก.ค. 2564 | 16:11 น.

แผนฉีดวัคซีนโควิด ยี่ห้อ "ไฟเซอร์" และ "แอสตร้าเซนเนก้า" ที่ผ่านมติที่ประชุมศบค.ล่าสุด และเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้มีมติรับทราบแล้ว กลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างไร ตรวจสอบได้ที่นี่

ผู้สื่อข่าวรายงาน ความคืบหน้าของ "แผนฉีดวัคซีนโควิด" ล่าสุด โดยเฉพาะยี่ห้อ "ไฟเซอร์" และ "แอสตร้าเซนเนก้า" ที่มีมติรับทราบในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันอังคารที่ 13 ก.ค. ที่ผ่านมา 

ฐานเศรษฐกิจ ตรวจสอบมติครม.ดังกล่าว พบว่า เป็นมติรับทราบ "สรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19)  หรือ ศบค.) ครั้งที่ 9/2564" เมื่อวันศุกร์ที่ 9 กรกฎาคม 2564" ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่มีการประกาศใช้เคอร์ฟิว และล็อกดาวน์ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (พื้นที่สีแดงเข้ม) 10 จังหวัด

โดยหนึ่งในมติศบค. ที่มีการรายงานต่อที่ประชุมครม. คือ "แผนการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด - 19" โดยมีรายละเอียดในส่วนของ "การปรับแผนการฉีดวัคซีนโควิดป้องกันโรคโควิด - 19" ที่ระบุว่า

กลุ่มผู้สูงอายุและผู้มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค ในพื้นที่ระบาดรุนแรง  ผู้เสียชีวิตมากกว่าร้อยละ 75 เป็นผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป จึงต้องระดมสรรพกำลังการฉีดวัคซีนผู้สูงอายุและผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค ในพื้นที่ระบาดรุนแรง 

โดยกำหนดเป้าหมายการฉีดวัคซีนผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 1,000,000 คน ในกรุงเทพมหานคร ภายใน 1 - 2 สัปดาห์ เพื่อเพิ่มความครอบคลุมวัคซีนกลุ่มนี้เป็นร้อยละ 80 รวมทั้งสำรองวัคซีนบางส่วนเพื่อใช้ควบคุมการระบาดในพื้นที่กรุงเทพเทพมหานคร และปริมณฑล (กลยุทธ์ขนมครก)

เปิดแผน \"ฉีดวัคซีนโควิด\" ไฟเซอร์-แอสตร้าเซนเนก้า ผ่านมติครม.ล่าสุด

นอกจากนี้ ศบค. ยังมีการพิจารณา "ข้อเสนอแนวทางบริหารจัดการวัคซีนบริจาคจากต่างประเทศ" แบ่งเป็น วัคซีน Pfizer (ไฟเซอร์) จำนวน 1,500,000 โดส และวัคซีน AstraZeneca (แอสตร้าเซนเนก้า) จำนวน 1,050,000 โดส  โดยมีรายละเอียดดังนี้ 

วัคซีน Pfizer    

กลุ่มเป้าหมาย 

  1. บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้าที่ดูแลรักษาผู้ป่วยโควิด - 19 ทั่วประเทศ(ฉีดเป็น Booster dose จำนวน 1 เข็ม)
  2. ผู้สูงอายุและผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง
  3. ชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทย เน้นผู้สูงอายุและโรคเรื้อรัง
  4. ผู้ที่มีความจำเป็นต้องฉีดวัคซีน Pfizer ก่อนเดินทางไปต่างประเทศ เช่น นักเรียนนักศึกษา นักกีฬา นักการทูต เป็นต้น    

การกระจาย

  • สำหรับฉีด 2 เข็ม ระยะห่าง 3 สัปดาห์ (ยกเว้นกรณีบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า Booster dose 1 เข็ม)
  • สัญชาติไทย 1,350,000 โดส
  • ต่างชาติ 150,000 โดส (ร้อยละ 10)    

พื้นที่เป้าหมาย(พื้นที่ระบาดท่องเที่ยว)    

  • กรุงเทพมหานคร
  • สมุทรสาคร ปทุมธานี สมุทรปราการ นนทบุรี นครปฐ
  • ยะลา ปัตตานี นราธิวาส สงขลา (มีการระบาดของสายพันธุ์ Beta) 

เปิดแผน \"ฉีดวัคซีนโควิด\" ไฟเซอร์-แอสตร้าเซนเนก้า ผ่านมติครม.ล่าสุด

วัคซีน AstraZeneca

กลุ่มเป้าหมาย

  1. ผู้สูงอายุและผู้มีโรคเรื้อรัง 7 โรค
  2. ชาวต่างชาติที่อาศัยในประเทศไทย โดยเน้นผู้สูงอายุและโรคเรื้อรัง
  3. ผู้ที่มีความจำเป็นต้องฉีดวัคซีน AstraZeneca ก่อนเดินทางไปต่างประเทศ เช่น นักเรียน นักศึกษา นักกีฬา นักการทูต เป็นต้น

การกระจาย สำหรับฉีดเป็นเข็มที่ 1

  • สัญชาติไทย 945,000 โดส
  • ต่างชาติ 105,000 โดส (ร้อยละ 10)

พื้นที่เป้าหมาย(พื้นที่ระบาดท่องเที่ยว)    

  • กรุงเทพมหานคร
  • สมุทรสาคร ปทุมธานี สมุทรปราการ นนทบุรี นครปฐม
  • ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา ภูเก็ต

การดำเนินงานฉีดวัคซีน

  • คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด/กรุงเทพมหานครบริหารจัดการผ่านโรงพยาบาลในพื้นที่กรณีชาวต่างชาติให้กระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ประสานหลัก 

ทั้งนี้ การบริหารจัดการวัคซีนบริจาคสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด - 19

อย่างไรก็ตามในที่ประชุมศบค. ดังกล่าวมีความเห็น  ควรดำเนินการฉีดวัคซีนให้แก่กลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค ควบคู่กับการฉีดวัคซีนให้แก่ผู้ที่อยู่ในพื้นที่การแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 และมีความเสี่ยงสูง ที่ประชุมมีมติ ดังนี้

1) เห็นชอบการปรับแผนการจัดสรรวัคซีนโควิด - 19 เดือนกรกฎาคม 2564 โดยให้ครอบคลุมผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค ในกรุงเทพมหานครอย่างน้อยร้อยละ 80

 2) ให้ระดมสรรพกำลังการฉีดวัคซีนให้ผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ในกรุงเทพมหานครเป็นกลุ่มเป้าหมายแรก จำนวน 1,000,000 โดส ภายใน 1 - 2 สัปดาห์ 
3) เห็นชอบแนวทางการจัดสรรและบริหารจัดการวัคซีนบริจาคจากต่างประเทศ

เปิดแผน \"ฉีดวัคซีนโควิด\" ไฟเซอร์-แอสตร้าเซนเนก้า ผ่านมติครม.ล่าสุด

ที่มาข้อมูล เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล