ราชวิทยาลัยพยาธิเเพทย์ฯ ออกประกาศเเนะจัดการศพติดเชื้อโควิด-19

23 ก.ค. 2564 | 10:45 น.
อัปเดตล่าสุด :23 ก.ค. 2564 | 17:45 น.

ราชวิทยาลัยพยาธิเเพทย์ ออกประกาศเเนะจัดการศพติดเชื้อโควิด-19 เน้นเมื่อศพใส่ถุงบรรจุศพเเเละทำความสะอาดเเล้ว การจับโลงศพ นำศพไปเผาหรือฝัง ผู้ปฎิบติงานไม่จำเป็นต้องใส่ชุดป้องกัน

ราชวิทยาลัยพยาธิแพทย์แห่งประเทศไทย ออกประกาศคำแนะนำสำหรับประชาชนในการจัดการศพผู้เสียชีวิตที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

1.ผู้เสียชีวิตที่ได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ให้จัดการศพดังนี้

1.1 ศพผู้เสียชีวิตจะถูกบรรจุใส่ถุงบรรจุศพและผ่านการทำความสะอาดฆ่าเชื้อภายนอกถุงบรรจุศพตามมาตรฐาน ทั้งนี้ญาติผู้เสียชีวิตและผู้ปฏิบัติงานในการประกอบพิธีทางศาสนาสามารถสัมผัสถุงบรรจุศพภายนอกได้ในกรณีที่ไม่พบการฉีกขาดของถุง โดยใส่ถุงมือยางแบบใช้แล้วทิ้งชั้นเดียวและไม่มีความจำเป็นต้องสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันชนิดอื่นอีกอย่างไรก็ตามไม่แนะนำให้สัมผัสถุงบรรจุศพ ถ้าไม่จำเป็นเพื่อป้องกันอันตรายจากการสัมผัสกับเชื้อโรคอื่นๆและน้ำยาฆ่าเชื้อที่เปื้อนอยู่ด้านนอกถุงซึ่งอาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังนอกจากนี้ถ้าสพอยู่ในโลงศพแล้วไม่จำเป็นต้องใส่เครื่องป้องกันใดใดทั้งสิ้นในการสัมผัสโลงศพ

 

1.2 ห้ามเปิดถุงบรรจุศพเพื่อดูศพ รดน้ำศพ ทำความสะอาดศพ เปลี่ยนเสื้อผ้า ฉีดน้ำยารักษาสภาพศพหรือประกอบพิธีทางศาสนาอื่นๆเนื่องจากการเปิดถุงบรรจุศพอาจทำให้เกิดการแพร่กระจายเชื้อโรคจากการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ตาย

1.3 การจัดตั้งศพเพื่อประกอบพิธีทางศาสนาสามารถกระทำได้ตามปกติ โดยบรรจุถุงบรรจุศพในโรงเย็น ทั้งนี้แนะนำให้ทำการเผาศพหรือฝังศพโดยเร็ว เนื่องจากศพไม่ได้ผ่านการฉีดน้ำยารักษาสภาพศพ ทำให้ศพมีการเปลี่ยนแปลงสภาพได้เร็ว โดยโลงเย็นและอุปกรณ์อื่นๆที่สัมผัสกับถุงศพระหว่างการประกอบพิธีทางศาสนาสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้โดยการเช็ดทำความสะอาดด้วยน้ำยาฟอกขาว (0.1% Hypochlorite solution)

1.4 การเผาศพและการเก็บเถ้ากระดูกสามารถกระทำได้ตามปกติ เนื่องจากเชื้อไวรัสถูกทำลายด้วยอุณหภูมิที่สูงหมดแล้วและเชื้อไม่สามารถแพร่กระจายในควันที่เกิดจากการเผาศพได้

2.กรณีผู้เสียชีวิตตามข้อ 1 เป็นผู้นับถือศาสนาอิสลาม (มุสลิม) แนะนำให้จัดการศพดังนี้

2.1 ห้ามญาติผู้เสียชีวิตและผู้มาเยี่ยมสัมผัสหรือจูบศพ (มัสยิด)                                

2.2 ให้บุคคลที่เป็นมุสลิมทำการตะยัมมุมแทนการอาบน้ำศพในห้องปลอดเชื้อหรือสถานที่จัดเตรียมไว้เฉพาะโดยผู้ทำหน้าที่ตะยัมมุมสวมชุดอุปกรณ์ป้องกันเต็มชุดหลังการตะยัมมุมให้ปิดถุงบรรจุศพ โดยถือเอาถุงบรรจุศพเป็นกะฝั่น ขั้นตอนการบรรจุศพและทำความสะอาดฆ่าเชื้อภายนอกถุงบรรจุศพให้ก็ทำเหมือนกับการจัดการศพติดเชื้อตามปกติ

2.3 หากการสัมผัสศพโดยตรงนั้นไม่ปลอดภัยต่อผู้ปฏิบัติงานหรือผู้ทำตะยัมมุม สามารถทำตะยัมมุม บนถุงบรรจุศพโดยไม่ต้องแกะถุงออก ทั้งนี้การทำตะยัมมุมบนถุงศพที่ผ่านการทำความสะอาดฆ่าเชื้อแล้วผู้ทำตะยัมมุม สามารถสวมใส่หน้ากากอนามัยและถุงมือแบบใช้แล้วทิ้งชั้นเดียวโดยไม่ต้องสวมอุปกรณ์ป้องกันเต็มชุดได้

 

2.4 ให้ทำการละหมาดให้แก่ศพ ณ สถานที่นั้นก่อนการเคลื่อนย้ายศพ หากทำละหมาดญะนาซะห์ให้แก่ศพแล้วให้รีบนำศพไปฝังที่สุสาน (กุโบร์) ทันที แต่หากยังมิได้ละหมาดญะนาซะห์ให้แก่ศพ ให้เฉพาะญาติใกล้ชิดผู้เสียชีวิตเท่านั้นละหมาดที่สุสานโดยให้ผู้ร่วมละหมาดป้องกันตนเองโดยการสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าและเว้นระยะห่างระหว่างกันอย่างน้อย 2 เมตร และดำเนินการฝังศพผู้เสียชีวิตในท่านอนตะแคงขวาหันหน้าไปทางกิบลัต (ทิศตะวันตก)

2.5 กรณีไม่มีบุคลากรหรือแพทย์มุสลิมขอให้ทางโรงพยาบาลหารือญาติของผู้เสียชีวิตติดต่อคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดหรืออีหม่ามในพื้นที่ของผู้เสียชีวิตมารับศพไปจัดการละหมาดและฟังทันทีโดยให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

3.ในกรณีผู้ป่วยได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และได้รับการรักษาในโรงพยาบาล แต่แพทย์ผู้รักษาวินิจฉัยว่าผลจากการพ้นจากระยะการติดต่อของโรคแล้ว ต่อมาเสียชีวิตไม่ว่าจากสาเหตุใดการจัดการศพสามารถทำได้ตามปกติโดยไม่ต้องบรรจุศพในถุงบรรจุศพ

4.ในปัจจุบันยังไม่มีรายงานการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จากศพสู่คน ถึงแม้ว่าโอกาสการแพร่กระจายของเชื้อจากศพต่ำ แต่ญาติผู้เสียชีวิตและผู้ปฏิบัติงานในการจัดการศพยังมีโอกาสที่จะได้รับเชื้อโรคที่เกิดจากการสัมผัสในสารคัดหลั่งของผู้ตายได้ ทั้งนี้หากศพผู้เสียชีวิตได้รับการบรรจุใส่ถุงบรรจุศพและผ่านการทำความสะอาดฆ่าเชื้อภายนอกถุงตามมาตรฐานทางการแพทย์แล้วก็ไม่ต้องกลัวการติดเชื้อจากศพตราบใดที่ไม่เปิดถุงบรรจุศพ

ราชวิทยาลัยพยาธิเเพทย์ฯ ออกประกาศเเนะจัดการศพติดเชื้อโควิด-19

ราชวิทยาลัยพยาธิเเพทย์ฯ ออกประกาศเเนะจัดการศพติดเชื้อโควิด-19