นายเดชา ตุลานันท์ ประธานกรรมการบริหารธนาคารกรุงเทพ หรือ BBL เปิดเผยว่า BBL ได้เข้าซื้อธนาคารหุ้นธนาคาร PT Bank Permata (BNLI) ในสัดส่วน 89.12%ซึ่งคิดเป็นมูลค่า 8.1หมื่นล้านบาทและมีแผนจะซื้อหุ้นอีก 10.88%หลังจากการเข้าซื้อหุ้น89.12%แล้วโดยรวมวงเงินเกือบ9หมื่นล้านบาท
"ยืนยันแบงก์กรุงเทพไม่ต้องเพิ่มทุนเพราะมีเงินทุนเพียงพอในการซื้อกิจการครั้งนี้และโครงสร้างการบริหาร TBK ยังคงเป็นทีมเดิมโดยแบงก์กรุงเทพจะส่งตัวแทนในตำแหน่งประธาน"
ด้านนายชาญศักดิ์ เฟื่องฟูกรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า ภายหลังเข้าซื้อ TBK จะทำให้ขนาดสินทรัพย์ 2 ธนาคารรวมเป็น 3.3ล้านล้านบาท (TBKมีขนาดสินทรัพย์เกือบ 3แสนล้านบาทหรือ7พันล้านดอลลาร์และธนาคารกรุงเทพกว่า3.09ล้านล้านบาท) และ TBK จะเป็นธนาคารใหญ่อันดับ 10 ของประเทศอินโดนีเซีย (ปัจจุบันเป็นอันดับ12) โดยในส่วนธนาคารกรุงเทพจะมีสัดส่วนสินเชื่อต่างประเทศจะเพิ่มเป็น 25% ในไตรมาส4ปีหน้าจากปัจจุบันอยู่ที่ 17%
ทั้งนี้การขยายเครือข่ายในต่างประเทศครั้งนี้เป็นเยุทธศาสตร์เชิงกลยุทธ์ของธนาคารกรุงเทพทำให้เสริมจุดแข็งในธุรกิจขนาดใหญ่ซึ่งกันและกันโดยธนาคารกรุงเทพมีพอร์ตสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ในสัดส่วน40%และTBKก็มีพอร์ตสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ในสัดส่วน 42% นอกจากนี้ยังมีสินเชื่อเอสเอ็มอีและรายย่อยประกอบกับการเข้าถึงบริการธนาคารของประชากรในอินโดนีเซียมีสัดส่วนเพียง 38-39% จึงเป็นโอกาสในการขยายธุรกิจและอินโดนีเซียยังมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดีมาก นอกจากนี้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) ของธนาคารในอินโดนีเซียอยู่ในระดับสูงกว่า 3%ขึ้นไปส่วนธนาคารไทย "เราจะทำอะไรเราดูด้วยความรอบคอบและมั่นใจสิ่งที่เราเลือกเป็นสิ่งที่ถูกต้องและเป็นการลงทุนระยะยาวและเป็น" ดีลที่มีมูลค่าใหญ่ที่สุดของแบงก์ไทยที่ออกไปซื้อกิจการในต่างประเทศ