นายปริทัศน์ เพชรอำไพ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) (MTC) เปิดเผยว่า หุ้นกู้ชุดใหม่ที่เสนอขายจำนวน 2 ชุด วงเงินไม่เกิน 4,000 ล้านบาท โดยชุดที่ 1 อายุ 1 ปี 5 เดือน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.00% ต่อปี และชุดที่ 2 อายุ 3 ปี 5 เดือน 2 วัน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 3.65% ต่อปี กำหนดชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ที่เปิดขายระหว่างวันที่ 9-11 มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา โดยบริษัทฯ ได้แต่งตั้ง 4 สถาบันการเงินชั้นนำ ได้แก่ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงไทย และธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ในครั้งนี้ ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน และขายหมดเกลี้ยง ถือเป็นการตอกย้ำถึงความเชื่อมั่นนักลงทุนที่มีต่อธุรกิจของบริษัทฯ ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ทั้งในแง่ของรายได้และกำไร ที่สร้างสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง
โดยบริษัทฯเตรียมนำเงินที่ได้ไปคืนหนี้หุ้นกู้ชุดเดิม รวมถึงรองรับแผนปล่อยสินเชื่อใหม่ ที่คาดว่าจะเติบโต 20-25% ในปีนี้ ตามจำนวนสาขาที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งปัจจุบันมีสาขาจำนวน 4,473 สาขา จาก 4,700 สาขา ที่ตั้งเป้าไว้ในปีนี้”
สำหรับหุ้นกู้ของ MTC ที่เสนอขายในครั้งนี้ ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ ที่ระดับ BBB+ จาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สะท้อนถึงสถานะที่แข็งแกร่ง โดยทริสเรทติ้งประเมินบริษัทฯจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในวงจำกัด อยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะใช้นโยบายการให้สินเชื่อที่เข้มงวดและมีการเก็บหนี้ที่มีประสิทธิภาพเพื่อควบคุมหนี้เสียที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต
ทั้งนี้ ในไตรมาส 1/2563 บริษัทมีกำไรสุทธิ 1,237 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 232 ล้านบาท หรือ สูงขึ้น 23.08% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีกำไรสุทธิ 1,005 ล้านบาท โดยมียอดสินเชื่อคงค้างจำนวน 62,539 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11,947 ล้านบาท หรือ 23.61% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 50,592 ล้านบาท บริการของบริษัทแบ่งเป็น 5 ธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจให้บริการสินเชื่อทะเบียนรถ ธุรกิจให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคล ธุรกิจให้บริการสินเชื่อที่มีที่ดินเป็นหลักประกัน ธุรกิจให้บริการสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ และธุรกิจเช่าซื้อ ที่อยู่ภายใต้ชื่อ บริษัท เมืองไทย ลิสซิ่ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ MTC