ธนาคารกสิกรไทย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์หน้า( 13-17 ก.ค.) ที่ 31.10-31.50 บาทต่อดอลลาร์ฯโดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลก ผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) และธนาคารกลางยุโรป (ECB)
ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญระหว่างสัปดาห์ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภค ยอดค้าปลีก การผลิตภาคอุตสาหกรรมและข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านเดือนมิ.ย. ผลสำรวจภาคการผลิตของเฟดสาขานิวยอร์ก ผลสำรวจแนวโน้มธุรกิจของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยและดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค. จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และ Beige Book ของเฟด นอกจากนี้ตลาดอาจรอติดตามข้อมูลจีดีพีไตรมาส 2/63 และตัวเลขเศรษฐกิจจีนเดือนมิ.ย. ด้วยเช่นกัน
สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 1 เดือน โดยเงินบาททยอยอ่อนค่าลงท่ามกลางแรงซื้อเงินดอลลาร์ฯ ตามปัจจัยทางเทคนิคหลังเงินบาทอ่อนค่าทะลุแนว 31.15 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในช่วงต้นสัปดาห์ประกอบกับตลาดมีความกังวลมากขึ้นต่อสัญญาณการระบาดของโควิด-19 ที่รุนแรง โดยเฉพาะในสหรัฐฯซึ่งจะมีผลทำให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกล่าช้าออกไป อย่างไรก็ดีสถานะซื้อสุทธิพันธบัตรและหุ้นไทยในระหว่างสัปดาห์ของนักลงทุนต่างชาติช่วยจำกัดกรอบการอ่อนค่าของเงินบาทไว้ได้บางส่วน
ในวันศุกร์ (10 ก.ค.) เงินบาทกลับมาปิดตลาดในประเทศที่ระดับ 31.27 บาท หลังแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 1 เดือนที่ 31.35 บาทต่อดอลลาร์ฯเทียบกับระดับ 31.13 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (3 ก.ค.)